จุดเปลี่ยนที่ท้าทายของธุรกิจเอสเอ็มอี นั่นคือ เมื่อถึงเวลาที่จะต้อง ScaleUp ธุรกิจ ไม่ว่าจะด้วยความจำเป็นต้องเติบโต หรือด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้อง Re-Think กับธุรกิจของตนเองกันใหม่ โดยเฉพาะฐานการเงินของธุรกิจที่ต้อง 'เล่นใหญ่ ไปให้ปัง' ดังนั้นการมีพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่คอยใส่ใจลูกค้าดุจคนใกล้ชิด ภายใต้แนวคิด 'เคียงข้างธุรกิจคุณ' ของ ธนาคารกรุงไทย จึงเสมือนเป็นสปริงบอร์ดที่ช่วยส่งให้ธุรกิจขนาดเล็กเติบโตได้อย่างมั่นคง
ทั้งนี้จากกรณี ScaleUp ของ 2 ธุรกิจอย่าง KCG ผู้นำตลาดเนย และชีส อันดับ 1 ของไทย เจ้าของแบรนด์ 'Allowrie' (อลาวรี่) และสินค้ากลุ่มคุกกี้ แยมผลไม้ เยลลี่สำเร็จรูป และเครื่องดื่ม แบรนด์ 'Imperial' (อิมพีเรียล) และ บริษัท ตราแม่ครัว จำกัดเจ้าของแบรนด์ 'ตราแม่ครัว' ซอสหอยนางรมที่มีทุกบ้าน ซึ่งถูกนำเสนอผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง 'รักกันยาวๆ' ของธนาคารกรุงไทย ที่สะท้อนเส้นทางการเติบโตจากการเป็นเอสเอ็มอีขนาดเล็ก สู่บริษัทขนาดใหญ่อย่างมั่นคง โดยมี 'กรุงไทย' คอยอยู่เคียงข้าง ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และผ่อนได้ยาวๆ
สำหรับค่าย KCG เจ้าของแบรนด์ 'Allowrie' และ 'Imperial' ที่เจอจุดพลิกผันจากการที่ต้องเปลี่ยนจากการซื้อเนย Allowrie กับบริษัทแม่ในออสเตรเลียมาขายสู่การผลิตด้วยตัวเองและหลังจากที่ผลิตไปได้กว่า 40 ปี บริษัทแม่มีนโยบายเทคโอเวอร์แบรนด์ และจะไม่ให้สิทธิ์ทำตลาดอีกต่อไป
คุณตง ธีระนุสรณ์กิจ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และ ซีอีโอ บริษัท เคซีจีคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า
"ในเวลานั้น KCG จึงตัดสินใจลงทุนซื้อแบรนด์มาทำตลาดเองในไทย พร้อมทั้งมองหาแหล่งสินเชื่อ และได้ธนาคารกรุงไทยเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมให้คำปรึกษามาโดยตลอด อย่างในปี 2555 บริษัทต้องการสร้าง KCG Excellence Center เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมต่างๆ KCG จึงใช้บริการสินเชื่อกรุงไทยที่มีรูปแบบ 'ดอกเบี้ยต่ำ - ผ่อนนาน' อีกครั้ง ทำให้ KCG เป็นบริษัทชั้นนำที่มีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงใช้เองภายในองค์กร ผ่านรูปแบบสินเชื่อที่ตอบโจทย์การขับเคลื่อนธุรกิจ และ 'กรุงไทย' อยู่เคียงข้างธุรกิจ เป็นมากกว่า ธนาคารพาณิชย์"
ขณะที่ คุณเศรษฐี กาญจนวิสิษฐผล ประธานกรรมการ บริษัท ตราแม่ครัว จำกัด ที่มีแบรนด์ในเครือ ได้แก่ ตราแม่ครัว, ตราฉลากทอง, ตราแม่ครัวฉลากทอง กล่าวว่า
"เราประสบปัญหาระบบ Operation ในปี 2538 หลังดำเนินธุรกิจได้ 13 ปี และผู้แทนจำหน่ายบอกว่า สินค้ากำลังจะไปไม่รอด ทำให้ต้องมองหาแหล่งเงินทุนจำนวนมากมาเสริมสภาพคล่อง ควบคู่กับการลงทุนพัฒนาโรงงาน ซื้อเครื่องจักรทันสมัย และขยายระบบขนส่ง เพื่อกู้วิกฤติครั้งนี้ และได้ขอสินเชื่อก้อนโตที่มี 'ดอกเบี้ยน้อย ผ่อนนาน' กับ ธนาคารกรุงไทย และได้รับคำแนะนำทางการทำธุรกิจให้สามารถก้าวต่อไปอย่างไม่สะดุด ด้วยบริการที่จริงใจ เช่น การให้คำปรึกษาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน บริการทางการเงินผ่านระบบออนไลน์ เมื่อต้องทำการค้าระหว่างประเทศ ฯลฯ จนท้ายที่สุด 'ธุรกิจตราแม่ครัว' ก็ผ่านพ้นวิกฤติ พร้อมเดินต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ และเคียงข้างธุรกิจของเราตลอด 25 ปี”
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า เมื่อธุรกิจประสบปัญหาหรืออยาก ScaleUp ครั้งใหญ่ สินเชื่อดอกเบี้ยน้อย - ผ่อนยาว คือ ทางเลือกอันชาญฉลาดของเอสเอ็มอี และสิ่งสำคัญที่จะช่วยพลิกวิกฤติได้ก็คือ การมีพาร์ทเนอร์ที่ดี โดยเฉพาะพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่คอยใส่ใจลูกค้าดุจคนใกล้ชิด ซึ่งแนวคิด 'เคียงข้างธุรกิจคุณ' ของกรุงไทย ด้วยบริการสินเชื่อ 'กรุงไทย SME รักกันยาวๆ' สินเชื่อรูปแบบผ่อนนาน 10 ปี ดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% วงเงินสินเชื่อสูงสุด 100 ล้านบาท ทำให้จำนวนผ่อนต่อเดือนน้อย ลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพิ่มสายป่านทางธุรกิจ ช่วยให้เอสเอ็มอีนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือลงทุนขยายกิจการ เช่น ซ่อมแซม ปรับปรุงสินทรัพย์ถาวร ไปจนถึงการรองรับ Permanent Trading Asset เพียงทำธุรกิจมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ผ่านการตรวจสอบเครดิตบูโร หรือเป็นกลุ่มที่มียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาท/ปี และต้องการขอสินเชื่อไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท โดยทั้งหมดนี้แสดงถึงการที่กรุงไทยพร้อมดูแลลูกค้าไปยาวๆ นั่นเอง
ติดต่อสอบถามรายละเอียด สินเชื่อธุรกิจ กรุงไทย SME รักกันยาวๆ ได้เพิ่มเติมที่สำนักงานธุรกิจธนาคารกรุงไทย ทั่วประเทศ หรือ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111 หรือลงทะเบียนขอสินเชื่อได้ที่ sme.krungthai.com