ระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 'เคทีซี' หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่คาดว่าสถานการณ์จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมเรื่องการเดินทาง และการปฏิบัติตัวในบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ตามประกาศที่จะเริ่มเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตร และการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ที่จะกลับมาเติบโตได้ซึ่งเคทีซี เองได้พัฒนา และพร้อมจะนำเสนอบริการ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินคุณภาพ เพื่อให้สมาชิกเคทีซีและกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้รับความคุ้มค่า สะดวกสบาย และได้รับประสบการณ์ที่ดีทุกการใช้จ่าย”
“ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เคทีซีมีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรมอยู่ที่ 13.5% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตลดลง -1.5% (อุตสาหกรรมหดตัว -2.1%) และ มีสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ 4.3%”
“สำหรับผลประกอบการของเคทีซีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 เคทีซีมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทสำหรับ 9 เดือนแรก 4,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4% และมีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 เท่ากับ 1,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% ซึ่งแม้ว่างวด 9 เดือน ปี 2564 รายได้รวมของเคทีซีจะลดลง -3.4% อยู่ที่ 15,930 ล้านบาท แต่บริษัทก็สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรวมให้ลดลง -12.0% อยู่ที่ 10,097 ล้านบาท จากการลดค่าใช้จ่ายทางการเงิน -7.5% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น -28.9% อีกทั้งมีรายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ในอัตราเพิ่มขึ้นที่ 5.9% ประกอบกับการบริหารพอร์ตลูกหนี้ที่มีคุณภาพดีต่อเนื่อง ทำให้ความจำเป็นในการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นน้อยลงตามไปด้วย ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตตามสัดส่วนข้างต้น”
“ในส่วนของพอร์ตลูกหนี้รวมขยายตัวและมีคุณภาพดีขึ้น จากจำนวนสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง โดยเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวมเพิ่มขึ้น 3.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 87,030 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 3,306,580 บัญชี แบ่งเป็น...
“สำหรับทิศทางการทำธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นอกเหนือจากการคัดสรรผลิตภัณฑ์ บริการและกิจกรรมการตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของสมาชิกแต่ละกลุ่มแล้ว เคทีซียังคงมุ่งเน้นการบริหารพอร์ตลูกหนี้ที่มีคุณภาพในทุกธุรกิจตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ต้นทางของการ คัดกรองจนถึงการดูแลและรักษาฐานสมาชิก เพื่อนำเสนอเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพให้กับสมาชิกทุกกลุ่มในทุกจังหวะของการใช้ชีวิต แม้ในยามที่สมาชิกได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ต่างๆ อย่างเช่นวิกฤตโควิด-19 บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามแนวทางทุกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการเปลี่ยนประเภทหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคคลเป็นเงินกู้สินเชื่อบุคคลระยะยาว
โดยมีมูลค่ายอดลูกหนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 เท่ากับ 1,825 ล้านบาท จาก 26,174 บัญชี และยังได้ขยายเวลามาตรการปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นตํ่าของบัตรเครดิตเคทีซีอัตโนมัติ จากเดิม 10% เหลือ 5% สำหรับบัตรที่มีการสรุปรอบบัญชีตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2565 อัตรา 8% สำหรับบัตรที่มีการสรุปรอบบัญชีตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 – 31 ธันวาคม 2566 และอัตรา 10% สำหรับบัตรที่มีการสรุปรอบบัญชีตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยสมาชิกบัตรไม่ต้องแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลแต่อย่างใด”