ยุคดิจิทัลหรือยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยซื้อสินค้าหน้าร้านมาเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นทำให้ธุรกิจ E-Commerce เติบโตอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นมากในอนาคต จากสถิติเว็บไซต์ statista.com พบว่าในปี 2559 ยอดขายปลีกออนไลน์ของโลกอยู่ที่ 1,915 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดการณ์ว่าในปี 2560 และ 2563 ทั่วโลกจะมียอดขายปลีกเพิ่มขึ้นถึง 23% และ 112% เมื่อเทียบกับปี 2559 โดย Amazon.com เป็นตลาดค้าปลีกออนไลน์ที่ครองส่วนแบ่งสูงที่สุดในโลกในขณะนี้
เกี่ยวกับ Amazon
Amazon.com เป็นแหล่งค้าปลีกออนไลน์ (online shopping) ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2538 โดยเริ่มต้นจากการขายหนังสือออนไลน์ จากนั้นได้เพิ่มไลน์สินค้าเป็นดีวีดี ซีดีเพลง ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ของเล่น วิดีโอเกม เสื้อผ้า อาหาร และเครื่องประดับ เป็นต้น ทั้งนี้ Amazon ยังขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นด้วย ได้แก่ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร อินเดีย และญี่ปุ่น เป็นต้น อีกทั้งยังเริ่มบุกตลาดสิงคโปร์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 แล้ว สำหรับผู้ที่อยู่นอกเหนือจากประเทศดังกล่าวก็สามารถสั่งซื้อสินค้าจาก Amazon ได้เนื่องจากมีบริการจัดส่งสินค้าไปยังเกือบทุกประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ Amazon ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดแทน Walmart ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
ความน่าสนใจของ Amazon
Amazon.com นับเป็นตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ในยุคดิจิทัลที่มีผู้ซื้อผู้ขายจำนวนมาก โดยมีความน่าสนใจดังนี้
ในปี 2559 หุ้น Amazon มีมูลค่าตลาดรวมเกือบ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีผู้ขายกว่า 2 ล้านราย และมีรายได้จากยอดขายสุทธิ 136 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 27% ซึ่งรายได้และหุ้นของอเมซอนที่ทะยานสูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้นายเจฟฟ์ เบซอสผู้ก่อตั้ง Amazon เป็นเศรษฐีที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของโลก (รองจาก บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ และวอร์เรน บัฟเฟตต์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเบิร์กเชียร์แฮธาเวย์) จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกประจำปี 2560 ของนิตยสารฟอร์บส์
Amazon ดำเนินธุรกิจในลักษณะ B2C ซึ่งผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าได้จากหน้าเว็บไซต์Amazon.com ผ่านจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาอย่างโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต โดย Amazon กลายเป็นผู้นำด้าน Mobile Shopping แซงหน้าร้านค้าปลีกออนไลน์รายอื่นๆ
Amazon ขายสินค้าทุกประเภท จึงทำให้มีลูกค้าเข้าไปซื้อสินค้าเดือนละกว่า 100 ล้านคน ซึ่งไม่ได้มีเพียงลูกค้าชาวอเมริกันเท่านั้น หากแต่มีลูกค้าจากประเทศอื่นกว่า 45% ที่เข้าไปซื้อสินค้าใน Amazon ด้วย
Amazon มีระบบจ่ายเงินหลายช่องทางและสะดวก รวมถึงระบบการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพที่ส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และการติดตามสถานะการส่ง ส่งผลให้ Amazon ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก
Amazon ดำเนินกลยุทธ์ที่สร้างความแข็งแกร่งเพื่อครองความเป็นผู้นำค้าปลีกออนไลน์ของโลกในหลายด้าน อาทิ การทำระบบ Dynamic Pricing เพื่อปรับเปลี่ยนราคาสินค้าตามช่วงเวลา โดยใช้ Big Data Analytics การพัฒนาระบบของศูนย์กระจายสินค้าด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์ หรือการให้บริการ Amazon Machine Learning ที่ช่วยประมวลผลการรีวิวและวิเคราะห์ลักษณะการซื้อสินค้าของลูกค้าแต่ละราย เป็นต้น
โอกาสค้าอัญมณีและเครื่องประดับผ่าน Amazon
ข้อควรทราบในการขายสินค้าเครื่องประดับใน Amazon.com
https://www.amazon.com/gp/help/customer/display.html?nodeId=201310980 |
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
140,140/1-3,140/5 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 4 ถนนสีลม สุริยวงศ์ บางรัก กรุงเทพฯ 10500
โทรศัพท์ : 02-634-4999 ต่อ 444 โทรสาร : 02-634-4999 ต่อ 436
E-mail: database@git.or.th // facebook: GITInfoCenter Line: git_info_center