ธนาคารกรุงไทยพลิกโฉมการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ด้วยการเสนอขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) โดยอ้างอิงหุ้นสามัญบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกในต่างประเทศอย่าง Alibaba เป็นครั้งแรกในไทยด้วยเงินสกุลบาท หลัง ก.ล.ต. ไฟเขียวให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ออก DR

เผยดีเดย์ เสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป (IPO ) ระหว่างวันที่ 14-17 กุมภาพันธ์ 2565 ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ชี้ DR เป็นทางเลือกการลงทุนที่ซื้อขายได้เหมือนหุ้น สามารถลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ไทย และได้รับสิทธิเสมือนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง รายย่อยก็ลงทุนได้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 DR

มิติใหม่อีกครั้งของกรุงไทย

คุณรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงการสร้างมิติใหม่อีกครั้ง ในแวดวงการเงินของธนาคารกรุงไทย ว่า

"ธนาคารกรุงไทย ได้รับอนุญาต จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ให้เป็นผู้ออกตราสาร แสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) หรือ DR Issuer เพื่อทำการซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศ และเก็บไว้กับผู้รับฝากทรัพย์สินที่ต่างประเทศ แล้วทำการออกหลักทรัพย์ DR เสนอขายให้กับนักลงทุนในรูปของสกุลเงินบาท ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนับเป็นการออก DR อ้างอิงหุ้นสามัญต่างประเทศเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

โดยอ้างอิงกับหุ้นสามัญของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก อย่างอาลีบาบา (Alibaba) เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศชั้นนำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเหมือนหุ้นทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ  นอกจากนี้ ธนาคารฯยังมีแผนที่จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยมีทางเลือกในการลงทุนรอบโลกที่หลากหลาย เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ด้วยการออก DR อ้างอิงหุ้น และ Exchange Traded Fund (ETF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีนโยบายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีหรือราคาของสินทรัพย์ที่กองทุนใช้อ้างอิง โดยที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย ETF ได้เหมือนหุ้นตัวหนึ่งเช่นกัน"

ทางเลือกใหม่ ลงทุน DR

ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) ถือเป็นทางเลือกของการลงทุนประเภทหนึ่งที่จดทะเบียนให้ซื้อขายได้เหมือนหุ้น โดยผู้ถือ DR จะได้รับสิทธิเสมือนการลงทุนในหลักทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศโดยตรง และ DR ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้การลงทุนในต่างประเทศง่ายดายขึ้น

ดังนั้น การออกตราสาร DR ของธนาคารกรุงไทยครั้งนี้ จึงถือเป็นการยกระดับการลงทุน และลดข้อจำกัดการลงทุนหุ้นต่างประเทศของนักลงทุนไทยในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเหมือนหุ้นทั่วไป ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่ได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ที่สำคัญ การซื้อขายในตลาดรองเริ่มต้นเพียง 1 DR และเป็นเงินสกุลบาท จึงตัดปัญหาเรื่องความยุ่งยาก ซับซ้อน ในการลงทุนต่างประเทศที่ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ต้องแลกสกุลเงินตราต่างประเทศ มีการกำหนดการลงทุนขั้นต่ำ และมีค่าธรรมเนียมซื้อขายสูง  

สำหรับการลงทุนใน DR นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทน ดังนี้

• กำไรจากส่วนต่างของราคา (Capital Gain) หากผู้ลงทุนขาย DR ได้ในราคาที่สูงกว่าราคาตอนที่ซื้อมา ก็จะได้รับกำไรจากส่วนต่างราคา
• เงินปันผล (Dividend) ผู้ถือ DR มีโอกาสได้รับเงินปันผลหรือสิทธิประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์ต่างประเทศ หลังหักค่าใช้จ่ายของการดำเนินการ (ถ้ามี) ตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิ ทั้งนี้ นักลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์และข้อกำหนดสิทธิก่อนการลงทุน DR ด้วย

ทั้งนี้ คุณรวินทร์ กล่าวเพิ่มเติมถึงบทบาทของธนาคารกรุงไทยว่า "ธนาคารฯ ในฐานะผู้ออก DR จะทำหน้าที่ซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศ แล้วนำมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมทั้งดูแลสภาพคล่องในตลาดรอง เพื่อให้ DR ที่ออกโดยธนาคารกรุงไทยมีสภาพคล่อง รวมถึงทำหน้าที่ในการติดตามข่าวสารอัพเดทให้กับนักลงทุนผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ และเมื่อหุ้นอ้างอิงต่างประเทศจ่ายเงินปันผล ธนาคารจะส่งผ่านเงินปันผลหลังหักค่าใช้จ่ายให้กับผู้ถือ DR ด้วย"

Key Benefits การลงทุนใน DR จากธนาคารกรุงไทย

• ลงทุนง่ายๆ ซื้อขายเป็นสกุลเงินบาท
• โอกาสลงทุน ในหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลก
• ลงทุนขั้นต่ำที่  1 DR ค่าธรรมเนียมเท่าการเทรดฯ ผ่านตลาดหลักทรัพย์

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงไทยได้กล่าวถึงสาเหตุที่นำเสนอการลงทุนในหุ้นของ Alibaba ว่า เป็นที่มีความน่าสนใจ เพราะเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทย และนักลงทุนทั่วโลก มีสภาพคล่องสูง โดยเฉลี่ยมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงสุดติด 5 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมาโดยตลอด อีกทั้งในปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ราคาหุ้นตลาดฮ่องกงได้ปรับฐานลงมาอยู่ในจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะราคาที่ปรับลงสะท้อนข่าวร้าย (Price-in) ไปค่อนข้างมากแล้ว

ล่าสุด ธนาคารกรุงไทยนำร่องการลงทุน DR อ้างอิงหุ้น Alibaba ซึ่งเป็นหุ้น ของบริษัท Alibaba Group Holding Limited จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในหมวด IT โดยจะเปิดให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อ Alibaba DR หรือ “BABA80” เป็นครั้งแรก (IPO) ด้วยจำนวน 2,000,000,000 หน่วย (1 หุ้นของ Alibaba เท่ากับ 100 DRs)

ทั้งนี้ จะเปิดให้จองซื้อ IPO ในระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 08.30 น. ถึง 17 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12.00 น. ผ่านผู้จัดจำหน่าย 2 รายคือ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ตั้งราคาเสนอขายที่ 4.00 – 8.00 บาทต่อ DR โดยผู้จองซื้อต้องชำระเงินค่าจองซื้อเต็มจำนวนที่ราคา DR ละ 8 บาท และจะได้รับเงินส่วนต่างคืนหากราคาเสนอขายสุดท้ายต่างจากราคาจองซื้อ สำหรับการจองซื้อ IPO จะมีจำนวนจองซื้อขั้นต่ำที่ 2,000 หน่วย ทวีคูณครั้งละ 100 หน่วย โดยจะประกาศราคาเสนอซื้อสุดท้ายในวันที่ 18 ก.พ. 2565 ก่อนเวลา 12.00 น.         

และจะเปิดให้นักลงทุนสามารถซื้อขายผ่าน SET ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 65 เป็นต้นไป ผู้สนใจลงทุนใน DR สามารถใช้บัญชีซื้อขายหุ้นไทยที่มีอยู่กับบริษัทหลักทรัพย์ใดก็ได้ เพื่อส่งคำสั่งซื้อขาย DR ได้ทันที โดยค้นหาสัญลักษณ์ BABA80

การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน

นักลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th

รายละเอียดเพิ่มเติม https://krungthai.com/th/krungthai-update/promotion-detail/956

#Krungthai #กรุงไทย #หุ้นDR #หุ้นAlibaba #BABA80 #AlibabaDR