สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมั่นใจตลาดรถปีนี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง พร้อมขานรับมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐ
26 Mar 2022

 

สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (The Thai Automotive Industry Association : TAIA) จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลชน (TAIA Meets the Press) ในหัวข้อ “ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” มองแนวโน้มตลาดรถสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ในประเทศที่เริ่มคลี่คลาย มั่นใจนโยบายภาครัฐต่างๆ ที่พร้อมสนับสนุนการพลิกฟื้นภาคเศรษฐกิจทั้งระบบ รวมถึงมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้มากยิ่งขึ้น  

 

 

นายสุวัชร์ ศุภกาญจน์เดชากุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เผยว่า “ในปี พ.ศ. 2565 คาดการณ์การผลิตรถยนต์ของไทยโดยรวมที่ 1.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มียอดผลิต 1.68 ล้านคัน โดยแบ่งเป็นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 8 แสนคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน และได้คาดการณ์ยอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทในปีนี้จะอยู่ที่ 8.5 แสนคัน เพิ่มขึ้น 90,000 คันจากยอดจำหน่ายปีที่แล้ว หรือประมาณ 12%  ส่วนตัวเลขรถจักรยานยนต์ คาดการณ์ยอดผลิตที่ 2,000,000 คัน และยอดจำหน่ายปีนี้ 1,650,000 คัน  เพิ่มขึ้น 3% เพราะมีปัจจัยบวกสนับสนุนในหลายส่วน ได้แก่ การที่รัฐบาลเตรียมประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เนื่องจากมีผู้ได้รับวัคซีนมากกว่า 80% ของประชากรทั้งประเทศและมีการปรับวิถีชีวิตอยู่ร่วมกับโควิดได้ดีขึ้น นโยบายเปิดประเทศโดยการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ การเพิ่มพื้นที่สีฟ้าเพื่อนำร่องการท่องเที่ยว การเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ เช่น มาตรการ Test & Go ยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนการเดินทางที่จะเริ่มในวันที่ 1 เมษายนนี้  เป็นต้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยตลอดปี พ.ศ. 2565 ว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 4% โดยมาจากการขยายตัวของภาคการส่งออก 4.9% การอุปโภคบริโภค 4.5% การลงทุนภาคเอกชน 3.8%  และการลงทุนภาครัฐ 4.6% รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ ในการช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการ และผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา” 

 

 

ส่วนด้านปัจจัยลบ ทางสมาคมฯ มองว่า มี 2 สาเหตุหลัก กล่าวคือ

  • ปัจจัยลบนอกประเทศ เช่น ปัญหาการขาดแคลนและการถูกปรับราคาขึ้นของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ปัญหา Logistic & Supply chain disruption จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ การแข่งขันทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ปัญหาความรุนแรงระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้น รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
  • ปัจจัยลบภายในประเทศ ได้แก่ ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่องทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น  และปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อกำลังการซื้อของประชาชนที่ลดลง  

 

สำหรับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่กำลังเป็นเทรนด์ของทั่วโลก เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ได้เข้ามาตอบโจทย์การลดภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ประเทศต่างๆ หันมาส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น โดยเฉพาะในจีนและสหรัฐอเมริกา ล่าสุดรัฐบาลไทยได้ผ่านร่างมติคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) กำหนดนโยบาย 30@30 คือ การตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle)  หรือรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ.2030  หรือ พ.ศ.2573 เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และการเป็นฐานการผลิต        ยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกหรือศูนย์กลางของภูมิภาค (EV Hub)

 

 

นายสุวัชร์กล่าวเสริมว่า “มาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐที่เพิ่งประกาศล่าสุด เช่น การสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์และภาษีของยานยนต์ไฟฟ้าเป็นการกระตุ้นตลาด เพื่อให้รถไฟฟ้ามีราคาที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค โดยในปีนี้คาดการณ์ยอดจดทะเบียนใหม่ยานยนต์ไฟฟ้าจะมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด สำหรับประเภทรถยนต์นั่งไฟฟ้า คาดว่าน่าจะทะลุ 10,000 คัน ส่วนเรื่องการสร้างไทยให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกับรถกระบะ และรถอีโค่คาร์นั้น สมาคมฯ มองว่าไทยมีศักยภาพที่เหนือกว่าประเทศอื่นๆ ในด้านบุคลากรทักษะสูง ประสบการณ์ ความชำนาญในการประกอบและผลิตรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากลมาอย่างยาวนาน รวมทั้งยังมีเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง และยังมีนโยบายรัฐเพื่อส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันเรายังต้องการตลาดขนาดใหญ่ขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อให้การผลิตมี Economy of Scales รวมถึงเราต้องมีการประเมินศักยภาพของประเทศรอบข้าง และมาตรการสนับสนุนต่างๆอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้”

[อ่าน 2,821]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ซีพี ออลล์” ร่วมรำลึกพระคุณครู เชิดชูครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง
Valentine’s Item! สมูทอีคอลแลปส์หลิง-ออม เปิดตัว “Smooth E x Ling-Orm Exclusive Valentine’s Box Set”
LPN มุ่งสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน เดินหน้าสร้าง Carbon Neutrality
SCG ร่วมกับสภาอุตฯ ชวนผู้ประกอบการสัมผัสนวัตกรรม Low Carbon และเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม 4.0
ไฮเออร์ ประเทศไทย ยิ้มรับปี 68 กวาดรายได้ปี 67 โต 11,000 ล้านบาท
เอ็ม ดิสทริค จับมือพันธมิตรสร้าง มอบอภิมหาโปรโมชั่น ฉลองเทศกาลตรุษจีนปีมะเส็งสุดยิ่งใหญ่
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved