ช่วงเดือนมีนาคมของทุกปีจะเป็นช่วงเวลาประจำที่ Apple จะได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกของปี ซึ่งสำหรับปี 2022 หลายคนอาจผิดหวังจากการที่ไม่ได้เห็น ‘ชิป M2’ แต่งานครั้งนี้ก็ไม่ได้เงียบเหงาเพราะดาวเด่นสำหรับงานในครั้งนี้คือ ‘iPhone SE ที่มี 5G’
iPhone SE รุ่นที่ 3 มาพร้อมกับ 5G
Apple เปิดตัว ‘iPhone SE’ เป็นครั้งแรกในปี 2016 ท่ามกลางการเรียกร้องสำหรับ iPhone ขนาดเล็กกว่าและมีราคาถูกที่กว่า ซึ่งรุ่นที่ 2 ได้รับการอัปเกรดในปี 2020 และในปี 2022 ก็ได้ขยับเป็นรุ่นที่ 3
iPhone SE รุ่นใหม่มาพร้อมกับ 5G และโปรเซสเซอร์ iPhone รุ่นล่าสุด A15 เมื่อดูภายนอกยังคงดูคล้ายกับ iPhone 8 ที่เปิดตัวในปี 2017 โดนมีปุ่มโฮมที่มี Touch ID แทนที่จะเป็น Face ID ที่ใช้ในรุ่นระดับไฮเอนด์ มีหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ทำให้เป็น iPhone ที่เล็กที่สุดที่มีอยู่
“iPhone SE รุ่นใหม่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบโทรศัพท์ขนาดเล็ก” ทิม คุก ผู้เป็นแม่ทัพของ Apple กล่าวในงานเปิดตัว พร้อมกับเสริมว่า "iPhone SE ได้นำคุณสมบัติขั้นสูงและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมมาสู่ iPhone ราคาประหยัดที่สุดของเรา"
Ben Wood นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยตลาด CCS Insight กล่าวว่า "iPhone SE ยังคงมีบทบาทสำคัญในฐานะ iPhone ราคาไม่แพงสำหรับผู้บริโภคที่ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการควักเงินมาซื้อ iPhone ตัวท็อปหรือผู้ที่ไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้จ่ายมากกว่า เป็นสิ่งจำเป็น"
เนื่องจากผู้บริโภคแสวงหาอุปกรณ์ที่ใช้ 5G ดังนั้น iPhone SE รุ่นใหม่นี้อาจจะสามารถดึงดูดให้ลูกค้ายอมเปลี่ยน iPhone เครื่องใหม่ ตลอดจนแย่งชิงฐานลูกค้ามาจาก Android
กระนั้นด้วยราคาที่เพิ่งขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าก็ตาม ซึ่งสำหรับราคาไทยเริ่มต้นที่ 15,900 บาท ถือแพงกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 1,000 บาท ซึ่งเปิดตัวในราคา 14,900 บาท ก็ทำให้นักวิเคราะห์มองว่า อาจจะไม่ได้เข้าถึงลูกค้ามากเท่าที่ควรด้วยมีราคาที่แพงกว่าแบรนด์จีนหลายๆ แบรนด์
ที่ผ่านมา iPhone SE ทำยอดขายได้ 3 ใน 4 นอกสหรัฐอเมริกา และ คิดเป็น 12% ของยอดขาย iPhone นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2020 ขณะที่รุ่นใหม่อาจช่วยให้ Apple สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้มากขึ้นในโซนยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกาหลีใต้
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ก็มองว่า iPhone SE จะช่วยขยายฐานกำไรให้กับ Apple ซึ่งยอดขายจากเป็นสัดส่วนที่ทำรายได้มากที่สุด โดยสร้างรายได้มากกว่าครึ่งในปีงบการเงินที่แล้ว หรือประมาณ 192 พันล้านดอลลาร์
M1 Ultra ชิปที่เคลมว่าเร็วที่สุดในตอนนี้
ในงานยังได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็น ชิปที่อยู่ในไลน์อัป M1, M1 Pro และ M1 Max ได้มีชิปตัวใหม่จะมีชื่อว่า M1 Ultra
Apple เคลมว่า M1 Ultra จะทำให้เดสก์ท็อป Mac เร็วขึ้น ทรงพลังขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น ชิปใหม่มีทรานซิสเตอร์ 114 ล้านตัว (มากกว่า M1) ถึง 7 เท่า หน่วยความจำแบบรวม 128 GB และเร็วกว่า M1 เกือบ 8 เท่า
“เรียกได้ว่าชิป M1 Ultra เข้ามาเติมเต็มผลิตภัณฑ์ตระกูล M1 ในฐานะของชิปที่ทรงพลังและมากความสามารถที่สุดในโลกสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล” Johny Srouji รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าว
Apple เปิดตัวชิป M1 ที่ออกแบบเองเป็นครั้งแรก ซึ่งใช้เทคโนโลยีจาก Arm Design House ในเดือนพฤศจิกายน 2020 เพื่อแทนที่โปรเซสเซอร์ Intel โดยในขณะนั้น Apple กล่าวว่าจะใช้เวลาสองปีในการเปลี่ยนจากชิป Intel ในไลน์อัปสินค้ามาเป็นชิพของตัวเอง
iPad Air และ Mac ใหม่
ทางด้าน iPad Air ซึ่งเป็นแท็บเล็ตระดับกลางที่อัพเกรดครั้งล่าสุดในปี 2020 ล่าสุดได้มีการเปิดตัวใหม่ ซึ่งแม่ทัพของ Apple ย้ำว่า เป็นการเปิดตัว ‘iPad Air ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเดิม’
iPad Air 2022 มาพร้อมกับ M1 ของ Apple ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์เดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro มาพร้อมกับ 5G ส่วนกล้องหน้าได้รับการอัพเกรดเป็นกล้องความละเอียด 12 เมกะพิกเซลพร้อมเลนส์มุมกว้าง โดยสำหรับราคาไทย Apple ได้เคาะรุ่น Wi-Fi ในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท
ขณะเดียวกัน Apple เปิดตัว Mac รุ่นใหม่รุ่นแรกในรอบหลายปีกับ Mac Studio ที่จับกลุ่มมืออาชีพโดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับลักษณะเป็นกล่องอลูมิเนียมทรงลูกบาศก์ที่มีพอร์ต USB-C และช่องเสียบการ์ด SD ที่ด้านหน้า โดยสูงกว่า Mac Mini เนื่องจากมีพัดลมระบายอากาศ โดยวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 69,900 บาท
Apple ยังประกาศเปิดตัวจอแสดงผลขนาด 27 นิ้วแบบแยกต่างหากที่เรียกว่า Studio Display ที่มีความละเอียด 5K พร้อมชิป Apple ลำโพง และกล้องในตัว ซึ่ง Studio Display วางจำหน่ายในราคา 54,900 บาท
มีการประเมินว่า การเปิดตัว Mac Studio จะเข้ามาเสริมกำลังให้กับไลน์อัปสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดของ Apple ซึ่งในไตรมาสล่าสุดที่สิ้นสุดในเดือนธันวาคม Apple รายงานรายรับจาก Mac กว่า 1.08 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 25% โดย Mac นั้นเป็นธุรกิจที่ใหญ่กว่า iPad ในแง่ของยอดขาย