ส่องเทรนด์การลงทุน: คว้าโอกาสการลงทุนเตรียมพร้อมกลับสู่สภาวะปกติ
08 Apr 2022

 

หลังจากที่โลกมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 การเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกอาจเริ่มกลับชะลอตัวลงในปี 2565 การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรอบใหม่ต่อรัสเซีย ทำให้เกิดการคาดเดาถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบมาแล้วอย่างหนักจากการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถสบายใจได้จากปัจจัยพื้นฐานของเอเชียที่เป็นไปในแนวบวกและยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ พลังงานและการเงินของเอเชียยังสามารถทำผลงานได้เหนือกว่าภูมิภาคอื่นของโลก คุณยุทธชัย เตยะราชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จะมาแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนสามารถใช้เพื่อบริหารพอร์ตและคว้าโอกาสการลงทุนที่เหมาะสม

 

ลงทุนในหุ้นมากกว่าตราสารหนี้ในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย

ในปี 2565 เราคาดว่าหน่วยงานกลางด้านการเงินในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่งจะเริ่มดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดขึ้น และถอนสภาพคล่องทางการเงินออกจากตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยทั้งระยะสั้นและระยะยาวสูงขึ้น ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อตราสารหนี้ทั่วโลก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ถูกใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานของโลก ในการกำหนดราคาตราสารหนี้และเงินกู้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโอกาสสำหรับนักลงทุนที่จะลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากเราคาดว่ากำไรของบริษัทต่างๆ จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 6.6 ในปี 2565

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลเชิงบวกต่อหุ้น และเชิงลบต่อตราสารหนี้ ดังนั้น นักลงทุนควรพิจารณาจัดสรรเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนในหุ้นเพิ่มและลดตราสารหนี้ในพอร์ตเพื่อให้พอร์ตมีความหลากหลายเตรียมพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนในอนาคต

 

เลือกตราสารหนี้ที่มีคุณภาพสูง และเกี่ยวข้องกับความยั่งยืน เพื่อรายได้ที่สม่ำเสมอ

สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ เราคิดว่าตราสารหนี้คุณภาพสูงที่มีการจัดอันดับ BBB เป็นอย่างน้อย และออกโดยบริษัทที่มีพื้นฐานที่ดี มีอัตราการกู้ยืมต่ำ และมีแหล่งรายได้จากหลากหลายช่องทางเป็นตัวเลือกที่ดี บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีสถานะกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง มีความสามารถในการชำระคืนที่ดีและให้รายได้ที่มั่นคงสำหรับนักลงทุน เรายังมองว่าตราสารหนี้ระยะสั้นในเอเชีย Asian Investment Grade (IG) ที่ให้ผลตอบแทนร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 2.5 มีความน่าสนใจ เนื่องจากมีความสมดุลระหว่างความผันผวนที่ต่ำ และผลตอบแทนที่น่าสนใจ

เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้นตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน จึงเป็นที่ต้องการมากขึ้นเนื่องจากมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับการลงทุนในตราสารหนี้แบบดั้งเดิม ความต้องการของนักลงทุนอย่างที่มีอย่างต่อเนื่องทำให้สามารถรักษาราคาให้มีเสถียรภาพแม้ว่าตราสารหนี้แบบดั้งเดิมจะประสบกับความผันผวน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระวังบริษัทที่นำเสนอเกี่ยวกับนโยบายเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เกินความเป็นจริง หรือที่เรียกว่า "การฟอกเขียว"

 

ลงทุนเพื่อรับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างในระยะยาว และภูมิภาคที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวเพื่อโอกาสในการเติบโต

แม้ว่าเศรษฐกิจโลกอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนในระยะสั้น เช่น การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ๆ หรือความตึงเครียด ความขัดแย้งทางการเมือง นักลงทุนยังสามารถมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในโครงสร้างระยะยาวที่มีเสถียรภาพในการเติบโต เราขอแนะนำสามเมกะเทรนด์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในปัจจุบันและเป็นพลังขับเคลื่อนโลกแห่งอนาคต

 

เครื่องมือแห่งอนาคต – เครื่องมือแห่งอนาคตประกอบด้วยการพัฒนาพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเทคโนโลยีที่เร่งการเติบโตของธุรกิจและขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนสามารถพิจารณาลงทุนในเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน ตลอดจนบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการนำระบบ AI มาใช้

 

การบริโภคแห่งอนาคต - การเปลี่ยนแปลงทางประชากรนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งจะส่งผลต่อรูปแบบการใช้จ่ายของคนในรุ่นต่างๆ ปริมาณชนชั้นกลางที่มีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาจะนำไปสู่ความต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพมากขึ้นในขณะเดียวกัน บางประเทศกำลังเผชิญกับประชากรสูงอายุ ซึ่งหมายความว่าจะมีการใช้จ่ายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของคนในรุ่นต่างๆ องค์กรจะต้องปรับกลยุทธ์และลำดับความสำคัญใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นมิลเลนเนียลและเจเนอเรชัน Z ซึ่งเป็นคนยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสังคม นักลงทุนสามารถพิจารณาลงทุนในธุรกิจที่เข้าถึงดิจิทัลอย่างยั่งยืน เพื่อได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคนี้

ผู้นำเศรษฐกิจในอนาคต - การแข่งขันเชิงกลยุทธ์ระหว่างผู้นำเศรษฐกิจที่ทรงอำนาจของศตวรรษนี้ – สหรัฐอเมริกาและจีน – มักจะใช้อิทธิพลเหนือกรอบการกำกับดูแล นโยบายเศรษฐกิจ และการปรับเปลี่ยนตลาดของประเทศอื่นๆ ตลาดการเงินที่มีขนาดใหญ่ของทั้งในสหรัฐอเมริกาและจีน จะสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนในการแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนในทั้ง 2 ประเทศ

 

เป็นเรื่องธรรมดาที่นักลงทุนจะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนมากกว่าหนึ่งครั้งในเส้นทางการลงทุน แต่นักลงทุนจะต้องตระหนักถึงความเสี่ยงของตนเองและรักษาพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลายเพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ด้วยหลักการ Risk-First ของธนาคารยูโอบี สามารถช่วยให้เส้นทางการลงทุนของคุณราบรื่นขึ้น โดยจะแนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมเพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีหลากหลายและสอดคล้องกับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละราย ก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ ผู้ลงทุนควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าเข้าใจในสิ่งที่กำลังจะลงทุนและได้พิจารณาปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วน

 


บทความโดย คุณยุทธชัย เตยะราชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

[อ่าน 3,230]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาหลีใต้เปิดศูนย์ KTSC ในไทย เชื่อมโยงนวัตกรรม Travel Tech
KXVC เปิดตัว KX Horizon โปรแกรมส่งเสริมสตาร์ทอัพ AI และ Web3 ระยะเริ่มต้น
True Space: จากพื้นที่กิจกรรมสู่เส้นทางสตาร์ทอัพสำหรับชมรมเล็กในมหาวิทยาลัย
สร้างประสบการณ์พูดคุยเสมือนจริงมากขึ้น ด้วยโฮโลแกรม 3 มิติ ขนาดเท่าคนจริงจาก Proto
Succession + Passion ธุรกิจครอบครัวสไตล์ “ตระกูลสุโกศล”
AIS ยืนหนึ่งวงการสตาร์ทอัพไทย คว้ารางวัล Prime Minister Award ในหมวด National Startup 2024
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved