ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 33.71 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 33.66 บาท/ดอลลาร์
19 Apr 2022

 

บรรยากาศในตลาดการเงินยังคงถูกกดดันโดยความกังวลแนวโน้มเฟดเร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะยังคงสะสมสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะเงินดอลลาร์ และยังไม่กล้าเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง กดดันให้ ในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวลงราว -0.14% ส่วน ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.02%

 

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจไม่ได้ปรับตัวลดลงรุนแรงมากนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างรอจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ว่าจะมีแนวโน้มดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ เพราะแนวโน้มผลประกอบการที่ยังเติบโตได้ดีกว่าคาด อาจสามารถช่วยพยุงตลาดหุ้นในช่วงนี้ได้

 

ส่วนทางด้านฝั่งตลาดบอนด์ ผู้เล่นในตลาดยังคงเดินหน้าทยอยลดการถือครองบอนด์ระยะยาวจากแนวโน้มเฟดเร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการเร่งลดงบดุล (QT) ได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 2.85% ทั้งนี้ ในระยะสั้นอาจต้องติดตามสถานการณ์สงครามที่อาจเข้ามากดดันบรรยากาศการลงทุนให้กลับสู่ภาวะปิดรับความเสี่ยงได้ ซึ่งในภาพดังกล่าวการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เพราะผู้เล่นบางส่วนอาจเลือกที่จะเข้ามาถือครองบอนด์ระยะยาวบ้างในช่วงที่ความเสี่ยงสงครามร้อนแรงขึ้น

 

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 100.8 จุด หนุนโดยความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความร้อนแรงของสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนและแรงหนุนจากแนวโน้มเฟดเร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น

 

ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดจะปิดรับความเสี่ยง แต่จะเห็นได้ว่า ผู้เล่นในตลาดกลับเลือกที่จะถือเงินดอลลาร์ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มากกว่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เนื่องจากส่วนต่างระหว่างบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ กับญี่ปุ่นนั้นยังคงเพิ่มขึ้น จากแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและเร่งลดงบดุลของเฟด ทำให้เงินเยน (JPY) อ่อนค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 127 เยนต่อดอลลาร์

 

นอกจากนี้ ความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อหลบความผันผวนในตลาดการเงิน ยังช่วยหนุนให้ ราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อีกครั้ง ก่อนที่จะเผชิญแรงกดดันจากทั้งแรงขายทำกำไร รวมถึงการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ กดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงสู่ระดับ  1,980 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเราประเมินว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways ต่อ หนุนโดยความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย แต่หากตลาดไม่ได้ปิดรับความเสี่ยงรุนแรง ราคาทองคำก็อาจติดแนวต้านแถว 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

 

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะจับตาสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังรัสเซียเดินหน้าบุกโจมตีพื้นที่ฝั่งตะวันออกและทางตอนใต้ของยูเครนหนักขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนยังคงกังวลว่าสถานการณ์สงครามอาจยืดเยื้อกว่าคาดและบรรดาประเทศฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะยุโรปอาจตัดสินใจใช้มาตรการคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียได้

 

ส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดมองว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 3.50% ไปก่อน จนกว่าจะมั่นใจแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ แม้ว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) รวมถึง ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์ก่อน

 

นอกจากนี้ ตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเราประเมินว่า หากผลกำไรยังเติบโตได้ดีกว่าคาดก็อาจพอช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในตลาดช่วงนี้ได้ ทำให้ แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงรุนเร้า ตลาดหุ้นก็อาจจะไม่ได้ปรับฐานหนัก

 

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทยังคงผันผวนในกรอบ Sideways ต่อ โดยมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ามาจากทิศทางของเงินดอลลาร์ที่ยังแข็งค่าขึ้นจากแนวโน้มเฟดเร่งใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดและความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในระยะสั้น นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้จะมีโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลราว 4-5 พันล้านบาท ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินบาทได้ อนึ่ง เรามองว่า โฟลว์ขายทำกำไรราคาทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นแตะแนวต้านสำคัญก็อาจพอช่วยไม่ให้เงินบาทอ่อนค่าไปมากได้ในช่วงนี้

 

นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ในช่วงโซน 33.70-33.80 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้หากตลาดไม่ได้อยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงไปมาก เงินบาทก็อาจไม่ได้เผชิญแรงกดดันจนอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าวได้ง่าย

 

ทั้งนี้ ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง เราแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.80 บาท/ดอลลาร์

 


พูน พานิชพิบูลย์

นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย

[อ่าน 1,619]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับการเลือกร้านขายของชำร่วยงานศพให้คุ้มค่า คุ้มราคา
บริการรับซื้อรถติดไฟแนนซ์ ปล่อยรถไว ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสาร
อโกด้าเผย เซี่ยงไฮ้กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักเดินทางชาวไทย
ส่งออกเดือน พ.ย. ขยายตัวได้ 8.2% YoY คาดการส่งออกไทยปี 68 จะชะลอลงจากปัจจัยรุมเร้า
สถาบันวิจัยฮาคูโฮโดเผย THAIDOM EFFECT มาแรง สร้างความสุขในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว
ประกันชีวิตคุ้มครองตลอดชีพ เพื่อวางแผนชีวิตตัวเองและครอบครัว
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved