เดินหน้ารุกตลาดรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง สำหรับเจ้าตลาด 29 ปีซ้อนอย่าง บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ถึงแม้เศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาจะชะลอตัวไปบ้าง แต่ก็ดูท่าจะไม่สามารถหยุดการเติบโตของฮอนด้าไปได้ และจากสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีแรก 2560 พร้อมสัญญานที่ดีของทั้งภาคการเกษตร ท่องเที่ยว และผลิตภัณฑมวลรวมของประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ออกมากระตุ้นตลาด ยิ่งเสริมความเชื่อมั่นของฮอนด้า ที่จะเดินหน้าสู่ความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เผยว่า ตลาดรวมรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศในครึ่งปีแรก 2560 (ม.ค.-ก.ค.) มีการปรับตัวดีขึ้น โดยมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 1,084,995 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ตลาดครึ่งปีหลัง คาดจะกลับมาคึกคักมากขึ้น เป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น การเมืองที่นิ่งขึ้น พร้อมด้วยปัจจัยราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี และพัทยา รวมไปถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คาดตัวเลขยอดจดทะเบียนของตลาดรวมรถจักรยานยนต์จะอยู่ที่ 1,850,000 คัน ภายในปีนี้ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1,800,000 คัน
นอกจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ฮอนด้ายังได้ส่งรถจักรยานยนต์ 3 รุ่นใหม่ ออกมากระตุ้นตลาดตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ได้แก่ Honda Rebel 300 และ 500, Honda MSX ABS ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำยอดขายกว่าหมื่นคันต่อเดือน และ All New Scoopy i ซึ่งมียอดขายต่อเดือนกว่า 13,000 - 14,000 คัน รวมไปถึงการออก Minor Change อีก 5 รุ่น ได้แก่ New Wave 110i, New MOOVE, New MSX125SF, CBR150R และ New Zoomer-X
สำหรับผลประกอบการ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ครึ่งปีแรกมียอดจดทะเบียน 850,955 คัน เติบโตเทียบเท่าตลาดอยู่ที่ 4% ส่วนแบ่งการตลาดครึ่งปีแรกอยู่ที่ 78% ครองผู้นำตลาดเป็นปีที่ 29 ติดต่อกัน โดยยอดขายในพื้นที่ต่างๆ ยังคงเติบโตด้วยดี แม้บางพื้นที่จะเจอวิกฤตน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ถึงกับกระทบมากนัก คาดจะสามารถปิดปีอยู่ที่ 1,460,000 คัน จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้ที่ 1,410,000 คัน
สัดส่วนลูกค้าของ ฮอนด้า แบ่งตามภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพฯ 25% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 25% ภาคเหนือ 15% ภาคใต้ 15% ภาคตะวันออก 10% และ ภาคตะวันตก 10% ซึ่งจังหวัดที่มียอดขายดีที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ, ชลบุรี และตามหัวเมืองใหญ่ๆ โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดของฮอนด้า ได้แก่ Wave 110 ด้วยยอดขายกว่า 5-6 หมื่นคันต่อเดือน
รถจักรยานยนต์ใน กลุ่มรถครอบครัว ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยสัดส่วน 48.3% เพิ่มขึ้นจาก 48% ในปีที่ผ่านมา ถัดมา ได้แก่ รถในกลุ่มเอ.ที มีสัดส่วน 34.6% ลดลงเล็กน้อยจาก 35% ในปี 2559 เนื่องจากผู้บริโภคหันไปใช้รถพรีเมียม เอ.ที มากขึ้น และ รถในกลุ่มสปอร์ต 17% ซึ่งปัจจุบัน มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีสัดส่วนอยู่เพียงแค่ 3% เท่านั้น เนื่องจากรถในกลุ่มนี้ถือเป็นเทรนด์ใหม่ ด้วยดีไซน์ เทคโนโลยี ถือเป็นจุดขายที่เข้ามาตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่มักจะเลือกรถให้เข้ากับบุคลิกของตนเองมากขึ้นนั้นเอง
ทั้งนี้ ตลาดรถในกลุ่มบิ๊กไบค์ ยังเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องและมีการเติบโตมากที่สุด โดยตลาดรวมมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 17,098 คัน แบ่งเป็น ฮอนด้าบิ๊กไบค์ 7,234 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 42% โดยในช่วงต้นปี ฮอนด้า ได้คาดการณ์ตลาดบิ๊กไบค์ไว้ที่ 27,000 คัน เป็นฮอนด้าอยู่ที่ 10,500 คัน แต่จากสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการแก้ปัญหาการส่งมอบรถของฮอนด้า ให้ได้ทันตามความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ฮอนด้า ปรับตัวเลขคาดการณ์ไว้ที่ 11,600 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 43%
สำหรับอีกครึ่งปีนับจากนี้ ฮอนด้า ยังคงรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมส่ง 3 รุ่นใหม่ ออกสู่ตลาด ได้แก่ รถในกลุ่มของรถครอบครัว รถพรีเมียมเอ.ที และรถประเภทสปอร์ตรุ่นใหม่ตระกูล 150 ซีซี. ที่ได้มีการส่ง Teaser ยั่วเงินในกระเป๋าของบรรดาคนรักรถไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมเปิดให้จองด้วยราคาเริ่มต้นที่ 99,800 บาท ปัจจุบันมียอดจองไปแล้วกว่า 500 คัน ในเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจและเชื่อใจของผู้บริโภคที่มีต่อฮอนด้าเสมอมา