บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ (SUCCESSMORE Being หรือชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: SCM) ประกาศเป้าหมายสู่ดวงจันทร์ ฉลองการก้าวสู่ปีที่ 10 อย่างยั่งยืน ตั้งเป้าขับเคลื่อนองค์กรในปีนี้ให้เติบโตถึง 50% ด้วยกลยุทธ์ LEADING CHANGE ภายใต้ 4 แนวทาง มุ่งขับเคลื่อน ด้วยพลังแบรนด์ การตลาดดิจิทัล ระบบที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจของลูกค้า รุกสร้างการเติบโต ทั้งใน และต่างประเทศ พร้อมเพิ่มยอดขาย และฐานสมาชิก ส่งผลิตภัณฑ์ดูแล และทำความสะอาดช่องปาก Benfite’ (เบนฟิเต้) ภายใต้แบรนด์ BODY CHEER ปิดท้าย Q1/2565 และ ส่งแคมเปญ เปย์หนัก จัดใหญ่ แจกจริง ชิงรางวัลรถยนต์ BMW รุ่น 220i Gran Coupe M Sport และอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท

เปิดตัว Benefite

นายแพทย์ สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ ผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร ระดับ TOP 5 ของอุตสาหกรรมธุรกิจเครือข่าย เปิดเผยถึงทิศทางการก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ของบริษัทฯ ว่า

ซัคเซสมอร์ฯ ตั้งเป้าเดินหน้าอย่างยั่งยืนและมั่นคง ด้วยยุทธศาสตร์ Moonshot แบบ LEADING CHANGE ซึ่งเป็นเป้าหมายเชิงรุกที่ต้องการขยายทั้งยอดขายและสมาชิกให้ได้ 50% จากปีก่อนที่มียอดขายกว่า 1,200 ล้านบาท และฐานสมาชิกกว่า 1.2 แสนราย ด้วยความเข้มแข็งที่บริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2563 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน พร้อมด้วยจุดแข็งและการสร้างความแตกต่างของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง การออกสินค้าใหม่เพื่อตอบโจทย์ยุค New Normal

สำหรับไตรมาส 1/2565 เราได้เปิดตัว Benfite’ (เบนฟิเต้) กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก (Oral Care) ทั้งเม้าท์วอช (น้ำยาบ้วนปาก) ยาสีฟัน (เนื้อครีม ขนาด 100 กรัม) เม้าท์สเปรย์ที่มีส่วนผสมของกระชายขาว และฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นส่วนผสมที่อยู่ในกระแสและเป็นการขยายฐานผู้บริโภคให้กับบริษัทฯ เนื่องจากฟ้าทะลายโจร มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) มีสรรพคุณบรรเทาอาการของโรคหวัด และยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสได้ ขณะที่กระชายขาวมีคุณสมบัติเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และป้องกันเชื้อโควิดและเชื้อโรคได้

นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยให้ฟันขาวขึ้น ยับยั้งแบคทีเรียในช่องปาก ทำให้ลดกลิ่นปาก และเชื่อว่า Benfite’ (เบนฟิเต้) จะเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจและมีผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกกับเราเพิ่มขึ้นเพื่อทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ และสามารถเพิ่มปริมาณการซื้อ (Basket Size) ให้มากยิ่งขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์ Benfite’ (เบนฟิเต้)

ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากซัคเซสมอร์ มีทั้งหมด 3 รายการ

• ยาสีฟัน Benfite’ Natural Care Toothpaste  ราคา 185 บาท
• น้ำยาบ้วนปาก Benfite’ Natural Care Mouth Wash ราคา 200 บาท
• สเปรย์ระงับกลิ่นปาก Benfite’ Natural Care Mouth Spray ราคา 180 บาท

ยุทธศาสตร์เชิงรุกปีนี้ 

ขณะเดียวกัน การดำเนินยุทธศาสตร์เชิงรุกในปีนี้ที่ซัสเซสมอร์ฯ ดำเนินการผ่านคีย์เวิร์ด ‘ขยาย & สร้าง’ (Expand & Create) ซึ่งประกอบด้วย การขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง, การขยายฐานสมาชิก, การสร้างทักษะให้กับบุคลากร และการสร้างการแข่งขัน ทั้งนี้ CEO นพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ ได้เปิดเผยโดยสรุป ดังนี้

• Market Expansion

การขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ทำตลาดต่างประเทศในกลุ่ม CLMV สิงคโปร์ และมาเลเซีย โดยเฉพาะการทำตลาดสินค้ากลุ่มที่ประเทศเหล่านี้ ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี อาทิ S Vera Plus น้ำว่านหางจระเข้ ภายใต้แบรนด์ นูทรินอล ซึ่งขายดีในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยเสริมภูมิในช่วงที่ เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19, ธาตุรองเสริม Transform plus (ทรานส์ฟอร์ม พลัส) สูตร 1 (นาโนเอ็นไซม์) และ สูตร 2 (ธาตุรอง ธาตุเสริม) ภายใต้แบรนด์ Growing More ที่ขายดีในกลุ่ม CLMV มีคุณสมบัติช่วยบำรุงพืชผลการเกษตร ที่ผลิตจาก ‘ธาตุรอง/เสริม’ (แร่ธาตุธรรมชาติ) อีกทั้งเป็นสินค้านวัตกรรมที่สามารถเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนให้กับเกษตรกรได้ เนื่องจาก Transform plus 1 ขวดใช้ได้ 10 ไร่ ขณะที่ปุ๋ยทั่วไป 1 กระสอบใช้ได้ 1 ไร่เท่านั้น อย่างทุเรียนที่ใช้ปุ๋ยของเราก็ทำให้มีเนื้อแน่นขึ้น รสหวานขึ้น ขายดีมากที่ประเทศกัมพูชา เมียนมาร์ และมาเลเซีย และขณะนี้จากสถานการณ์สงครามรัสเซียและยูเครนทำให้ราคาปุ๋ยยูเรียแพงขึ้น 25% ก็ยิ่งจะทำให้ราคาปุ๋ยของเราสามารถแข่งขันได้ เป็นโอกาสสำหรับการทำตลาดปุ๋ยน้ำ 

• Active Member Expansion

เป้าหมายที่ต้องการเพิ่มฐานสมาชิกที่แอคทีฟต่อเดือน 12% เป็น 20% หรือประมาณ 2 หมื่นกว่าคน จากฐานสมาชิกที่มี 1.2 แสนราย ส่วนหนึ่งมาจากยุทธศาสตร์ Digital Transformation ในปีก่อนหน้านี้ที่บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบด้าน Data Science และเตรียมบุคลากร อีกทั้งเพื่อทำการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ (CRM) อย่างต่อเนื่องกับกลุ่มสมาชิกที่มีกว่า 1 แสนราย

• Skill Extension

การสร้างทักษะให้กับบุคลากร โดยเฉพาะทักษะทางด้านไอที และสามารถดูแลทีมแบบแยกย่อยตามลำดับชั้นได้ เพื่อการเติบโตของทีมงานอย่างมีคุณภาพและก้าวกระโดด

• Creation of Value Creator & Community Creator

การพัฒนาทักษะของบุคลากรด้วยหลักสูตร ‘ผู้สร้างคุณค่า’ และ ‘ผู้สร้างชุมชน’ ทั้งนี้ ก่อนที่จะสร้าง ‘ชุมชน’ ได้นั้น จะต้องสามารถสร้าง ‘คุณค่า’ ของตนเองให้ได้ โดยต้องเป็น Value Creator ก่อนจึงจะขยับเป็น Community Creator ได้ ซึ่ง CEO นพกฤษฎิ์ ถือเป็นตัวอย่างของการสร้าง Community Creator ที่มีคนติดตามเกือบ 3 แสนคนบน Facebook, TikTok ในนามของ CEO Noppakrit การให้องค์ความรู้และเวิร์คช็อป พร้อมทั้งจัดการแข่งขันคอนเทนท์ เพื่อสร้างคุณค่าและแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็น Best Practice แก่กันและกัน และสร้าง Change Agent โดยเริ่มที่ผู้นำ ก่อนที่จะขยายออกไป ซึ่งเป็น Change Management ที่ต้องใช้เวลาพอสมควร

• Campaign Creation

การทำแคมเปญโปรโมชั่น เพื่อสนับสนุนนักธุรกิจซัคเซสมอร์ และลูกค้าทั่วไปของซัคเซสมอร์ ชิงรางวัลรถยนต์ BMW รุ่น BMW 220i Gran Coupé M Sport และอื่นๆ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท โดยสามารถร่วมสนุกได้ตลอดปี 2565 เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ ซัคเซสมอร์ ครบทุก 1,500 บาท รับ e-Coupon ลุ้นโชค 1 ใบ โดยจะประกาศผลทาง Facebook: Successmore Thailand 4 ครั้ง ดังนี้ 8 พ.ค. 2565, 6 ส.ค. 2565, 6 พ.ย. 2565. และ 21 ม.ค. 2566 

จุดแข็ง - จุดต่าง 

สำหรับการก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ของ ซัสเซสมอร์ฯ นั้น CEO นพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ กล่าวด้วยความเชื่อมั่นว่า มาจากการสร้างความแตกต่างสู่ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ จาก 3 ปัจจัย นั่นคือ BPP: Brand, Product, People

Brand

ความแข็งแกร่งของแบรนด์องค์กรที่ทำให้นักธุรกิจเครือข่ายซัสเซสมอร์ฯ มั่นใจได้ถึงความยั่งยืน และแข็งแรงของแบรนด์ บวกกับประสบการณ์ของผู้บริหารในอุตสาหกรรมนี้กว่า 15 ปี ซึ่งได้วางแผนยุทธศาสตร์ในระยะยาว พร้อมทั้งปรับเป้าหมาย วิสัยทัศน์ การสร้างความคิดใหม่ (Mindset) พัฒนาคนและสินค้า พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมองค์กร และรักษาคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ อย่างมั่นคงและต่อเนื่องมาตลอด การเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของซัสเซสมอร์ฯ ที่ยิ่งสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจให้กับทีมงานด้วย

Product

ซัสเซสมอร์ฯ มีความเข้มแข็งของผลิตภัณฑ์ 6 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มเสริมสุขภาพ, กลุ่มของใช้ส่วนตัว, กลุ่มของใช้ในบ้าน, กลุ่มความงาม, กลุ่มเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร และกลุ่มนวัตกรรมเทคโนโลยีโดยจุดแข็งของสินค้าซัสเซสมอร์ฯ คือ กลุ่มที่ซื้อซ้ำได้ และกลุ่มที่มีการพัฒนาใหม่อย่างต่อเนื่อง 

• Repeated Purchasing Product กลุ่มสินค้าในชีวิตประจำวันที่สามารถซื้อซ้ำได้ ทำให้สามารถสร้างยอดขาย/รายได้ประจำ (Recurring Sale/Income) และเมื่อมีสินค้าใหม่ๆ เข้ามาก็จะเป็นพื้นฐานเพื่อสร้างการเติบโตของบริษัทฯ และผู้คนในธุรกิจเครือข่ายต่อไปอีก ดังนั้น แน่นอนว่าสินค้าในกลุ่มนี้จึงต้องพิสูจน์ตัวเองได้ว่า มีคุณภาพดีจริง คุ้มค่าเงิน และสร้างประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์
• R&D Product กลุ่มสินค้าที่ ซัสเซสมอร์ฯ พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพขององค์กรที่มาจาก 3 ปัจจัยสำคัญ นั่นคือ 1) ความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์จาก นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 2) ทีมงานวิจัยและพัฒนาและโรงงานผลิตของเราเอง 3) ทีมการตลาดที่มีความเชี่ยวชาญทั้งทำตลาดและสร้างแบรนด์ นำทีมโดย CEO นพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ และก่อนปิดท้ายไตรมาส 3 ซัคเซสมอร์ ก็มีแผนที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์คนในยุค New Normal แบบจัดเต็มทั้ง Functional Benefit, Emotional Benefit

People

เนื่องจากธุรกิจเครือข่ายเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้คน (People Business) ซึ่งพัฒนาศักยภาพ และ Soft Skill ผ่านสถาบัน SLA (SuccessMore Leadership Academy) ซึ่งจุดเด่นจาก CEO นพกฤษฎิ์ ในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการสถาบันดังกล่าวและทำหน้าที่เป็นโค้ชด้วย เนื่องจากได้ไลเซนส์จากการเป็นโค้ชพัฒนาภาวะผู้นำจากสถาบัน John C. Maxwell ผู้ทรงอิทธิพลที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำ เพื่อสอนเกี่ยวกับ Leadership (ภาวะผู้นำ), NLP ที่จบระดับมาสเตอร์ บวกการแบ่งปันความรู้ทั้งใน Facebook Fanpage, TikTok ในนาม CEO Noppakrit

ยุทธศาสตร์ Moonshot และ กลยุทธ์ที่วางไว้อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งจังหวะการก้าวรุกอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่ของทั้งองค์กรเข้าสู่ปีที่ 10 ของซัคเซสมอร์ จึงเป็นการมุ่งหน้าสู่ ‘ดวงจันทร์’ อย่างไม่พลาดเป้าแน่นอน !! 

บทความจากนิตยสาร MarketPlus Issue 145 May 2022