ไทยยูเนี่ยนรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก รายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
09 May 2022

ไทยยูเนี่ยนรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก รายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความต้องการสินค้าทั่วโลกที่สูงขึ้นและธุรกิจหลักที่ทำผลงานได้ดี

 

  • ยอดขายเพิ่มขึ้น 16.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่  36,272 ล้านบาท
  • กำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้น  15.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ที่ 6,355 ล้านบาท
  • บริษัทยังคงเดินหน้ากำลังการผลิตทั่วโลกได้ปกติ

 

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี โดยมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 36,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ความต้องการสินค้าทั่วโลกที่สูงขึ้นเนื่องจากหลายประเทศได้กลับสู่สภาวะปกติ และผ่อนคลายมาตรการป้องการการแพร่ระบาดต่างๆ

 

ด้วยการบริหารจัดการต้นทุน ประกอบกับผู้บริโภคเชื่อมั่นและต้องการผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 15.4 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 6,355 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ด้วยแรงกดดันจากสถานการณ์เงินเฟ้อและอุปสรรคในห่วงโซ่อุปทานและการขนส่งทั่วโลก ทำให้กำไรสุทธิของไทยยูเนี่ยนในไตรมาสแรกของปีลดลง 3.2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 1,746 ล้านบาท

 

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “แม้ว่าเราจะต้องเผชิญกับความท้าทายทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไทยยูเนี่ยนยังสามารถทำผลงานได้ดี รวมถึงยอดขายจากหน่วยธุรกิจหลักทั้ง 3 ส่วน  โดยไทยยูเนี่ยนยังคงให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความเป็นอยู่ และความปลอดภัยของพนักงาน ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด เรามีมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด  ทำให้บริษัทสามารถจัดการฐานการผลิตทั่วโลกของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถผลิตสินค้าคุณภาพให้กับผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง”

 

ความต้องการสินค้าทั่วโลกส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัท ซึ่งธุรกิจหลักทั้ง 3 ส่วนของบริษัทมียอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปบรรจุกระป๋องมียอดขายเพิ่มขึ้น 14.3 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 15,527 ล้านบาทในไตรมาสแรก มีปัจจัยบวกจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ส่งผลบวกต่อธุรกิจ และราคาขายของสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งและแช่เย็นมียอดขายเพิ่มขึ้น 14.2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 13,790 ล้านบาท สืบเนื่องจากความต้องการที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ที่มีความต้องการสินค้าประเภทกุ้งสูงขึ้น  อีกทั้งธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเริ่มทยอยฟื้นตัว และเช่นเดียวกัน อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ส่งผลบวกต่อยอดขาย  นอกจากนี้บริษัทยังได้นำระบบเครื่องจักรอัตโนมัติเข้ามาใช้ในโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริหารจัดการต้นทุนต่อหน่วย

 

ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้าเพิ่มมูลค่า ยังคงมีส่วนสำคัญในการเติบโตทางธุรกิจของไทยยูเนี่ยนอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี ด้วยยอดขายที่พุ่งสูงขึ้น 27.2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 6,955 ล้านบาท จากการที่ผู้คนใช้เวลาอยู่กับสัตว์เลี้ยงมากขึ้นและบริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมต่างๆ นอกจากนี้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยังมียอดขายที่สูงขึ้นด้วย

 

ในไตรมาสแรกของปีนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นๆ และมีการตั้งบริษัทร่วมทุน ร่วมกับ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท Srinivasa Cystine Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออะแวนติ กรุ๊ป โดยใช้ชื่อ บริษัท อาร์บีเอฟ-ทียู ฟู้ด อินกรีเดียนท์ ไพรเวท จำกัด  เพื่อดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายส่วนผสมในอาหารคุณภาพสูงในประเทศอินเดีย

 

 

ในไตรมาสแรกเช่นเดียวกัน ไทยยูเนี่ยนยังเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้กับ บริษัทแปซิฟิค ห้องเย็น ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ในนาม บริษัท แปซิฟิค ทียูเอ็ม โคลด์ สโตเรจ จำกัด บริษัทร่วมทุนใหม่นี้จะดำเนินการก่อสร้างคลังสินค้าห้องเย็นในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรองรับการจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

 

“ท่ามกลางวิกฤตนั้นมีโอกาส และในขณะเดียวกันในวิกฤตก็มีความท้าทายอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบจากโอไมครอน  รวมถึงสถานการณ์ห่วงโซ่อุปทานและการขนส่งทั่วโลก และแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ  อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงยึดกลยุทธ์หลักในเรื่องความหลากหลายของธุรกิจ โดยได้ลงทุนและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในธุรกิจที่มีอัตราการทำกำไรสูง ซึ่งเราจะสามารถใช้นวัตกรรมสร้างมูลค่าและใช้วัตถุดิบในโรงงานได้อย่างคุ้มค่า  และให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ผ่านผลิตภัณฑ์และธุรกิจต่างๆ ของเรา เพื่อให้ธุรกิจหลักเติบโตและทำกำไร รวมถึงขยายตัวไปยังธุรกิจที่น่าสนใจเพื่อสร้างสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนและได้ดูแลสิ่งแวดล้อมและท้องทะเลไปพร้อมกัน” นายธีรพงศ์กล่าวทิ้งท้าย

 

[อ่าน 1,599]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซัมซุง ส่งผลิตภัณฑ์ทีวีและเครื่องเสียง คว้า 6 รางวัล จาก Best of The Best TV Award โดย LCDTVTHAILAND
วาโก้ คอลแลปส์ ยูน-ปัณพัท “Wacoal x Phannapast Chinese New Year” ต้อนรับตรุษจีน 2025
‘พูลพิพัฒน์’ จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ คลังสินค้าแหลมฉบัง 1 รองรับ EEC ตั้งเป้าก้าวสู่ศูนย์กลางกระจายสินค้าในอนาคต
มูลนิธิแมค แฮปปี้ แฟมิลี่ สนับสนุนบริการหน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่
COTY เปิดตัวน้ำหอม adidas คอลเลกชัน ‘Vibes’ ในประเทศไทย
“ซีพี ออลล์” ร่วมรำลึกพระคุณครู ต่อเนื่องปีที่ 17 จัดเสวนา พร้อมเปิดตัวโฆษณา “เชิดชูครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved