หากมองเข้ามาที่ตลาดสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงในบ้านเราแล้ว พบว่า ตลาดนี้มีมูลค่าสูงถึงกว่า 45,000 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว เมื่อมองมาที่ไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่หันมาให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองมากขึ้น ทำให้ไม่แปลกใจที่ตลาดจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี

หากเจาะลึกในรายละเอียดของตลาดแล้ว พบว่า ตลาดกว่า 40,000 ล้านนี้ จะประกอบไปด้วย ตลาดอาหารสัตว์หรือ Pet Food ที่มีขนาดตลาดที่ใหญ่ที่สุดถึงกว่า 20,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุดจากบรรดาแบรนด์ใหญ่น้อย โดยเฉพาะกับผู้เล่นที่ทำตลาดอาหารคนที่ขยายไลน์เข้ามาทำตลาดนี้เพื่อต่อยอดหรือสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจหลักที่ทำอยู่

รองลงไปจากเป็นตลาด Health Care หรือตลาดที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาสัตว์เลี้ยง เช่นโรงพยาบาลหรือคลินิกรักษาสัตว์เลี้ยง มีมูลค่าประมาณ 17,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกตลาดก็คือ ตลาด Personal Care หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าตลาด ประมาณ 3,000 ล้านบาท

การเติบโตของตลาด มาจากไลฟ์สไตล์ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะกับการเปลี่ยนของโครงสร้างสังคมที่ครอบครัวคนไทยมีขนาดเล็กลง เช่นเดียวกับคนไทยที่แต่งงานช้าหรือไม่แต่งงาน ขณะที่การเข้าสู่สังคมสูงวัยก็มีส่วนในการเติบโตของตลาด เพราะคนสูงวัยจะมองหาสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนมากขึ้น

เซ็นทรัล รีเทล เปิด ‘เพ็ทแอนด์มี’ ออมนิชาแนล เพ็ทช้อปรายแรกในไทย

ด้วยมูลค่าตลาดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แถมมีการเติบโตค่อนข้างดี ทำให้เชนค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของบ้านเรา ต่างกระโจนเข้ามาทำตลาดกันอย่างเต็มรูปแบบ อย่างกรณีของเซ็นทรัล เพ็ทแอนด์มี ออมนิชาแนลเพ็ทช้อปรายแรกในเมืองไทย เพื่อเป็นผู้นำในตลาด โดยเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวสต์เกต

คุณไท จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงิน บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เคยออกมาให้ข่าวถึงการเปิดตัว เพ็ท แอนด์ มี ว่า 

การเข้าสู่ธุรกิจสัตว์เลี้ยงในครั้งนี้มาจากปัจจัยสำคัญ ไล่ตั้งแต่ การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย คนมีลูกน้อย และแต่งงานช้าลง เหล่านี้ล้วนทำให้คนเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เทียบเท่ากับสมาชิกในครอบครัว ดูแลเหมือนลูกคนหนึ่ง เลือกสิ่งที่ดีที่สุด มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงค่อนข้างสูงในแต่ละเดือน โดยปัจจุบันยอดการจำหน่ายสินค้าสัตว์เลี้ยงในกลุ่ม เซ็นทรัล รีเทล ผ่านช่องทางซูเปอร์มาร์เก็ตและดีพาร์ทเมนต์สโตร์มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทุกปี เช่นเดียวกับที่ตลาดสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่กว่า 40,000 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่องกว่าปีละ10% ยังมีแต่ผู้เล่นรายย่อย ไม่มีผู้เล่นรายใดเป็นผู้นำตลาดอย่างชัดเจน โดยตลาดค่อนข้างจะแฟล็กเมนต์  จึงน่าจะกลายเป็นอีกโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างสำหรับการเข้ามาทำตลาดของเซ็นทรัล รีเทล

---

“เซ็นทรัล รีเทล เล็งเห็นโอกาสที่จะพัฒนา เพ็ทแอนด์มี ออมนิชาแนลเพ็ทช้อปที่แรกในเมืองไทย เพื่อเป็นผู้นำในตลาด โดยเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวสต์เกต และตั้งเป้าขยายสาขากว่า 50 สาขา ใน 3 รูปแบบ ทั้งขนาด เล็ก กลาง และ แฟลกชิปสโตร์ ควบคู่กับการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์”

---

 

ก่อนหน้าที่เซ็นทรัล รีเทล จะเปิดร้านเพ็ทแอนด์มีนั้น เซ็นทรัลรีเทล ทำตลาดเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว โดยมี PETSTER” โซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร และของใช้สำหรับสัตว์ เปิดอยู่ในเชนซูเปอร์มาร์เก็ตเครือ  ‘ท็อปส์’ ภายใต้การบริหารของ  ‘เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล’ ที่ขยายไปแล้วมากกว่า 20 สาขา และเตรียมขยายให้ถึง 100 สาขา

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเปิด  ‘Cool Pets’ โซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร ของเล่น ของใช้สำหรับน้องหมา – น้องแมว ภายใต้การบริหารของกลุ่มห้างสรรพสินค้า เปิดในห้างเซ็นทรัล ปัจจุบันมี 7 สาขา และมีแผนขยายต่อเนื่อง

‘เพ็ทแอนด์มี’ จึงเป็นแบรนด์ล่าสุด ที่พัฒนารูปแบบเชนค้าปลีก Specialty Store สัตว์เลี้ยงครบวงจรของเซ็นทรัล รีเทล เปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต และเตรียมขยาย 50 สาขาทั่วประเทศภายใน 3 – 5 ปีนี้ โดยรูปแบบของร้านที่เป็น Physical Store นั้น จะประกอบไปด้วย 3 ฟอร์แมตหลักๆ คือ ร้านขนาดเล็ก 100 – 150 ตารางเมตร จำนวน 25 – 30 สาขา ร้านขนาดกลาง 300 – 400 ตารางเมตร จำนวน 10 – 15 สาขา ร้านขนาดใหญ่ 600 – 700 ตารางเมตร จำนวน 8 สาขา และสุดท้ายจะเป็นร้าน Flagship Store 1,000 ตารางเมตร จำนวน 2 สาขา คาดว่าจะมีที่กรุงเทพฯ 1 สาขา และภูเก็ต 1 สาขา

เห็นได้ชัดเจนว่า การมีฐานดาต้าของลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มลอยัลตี้โปรแกรมอย่าง  ‘เดอะวัน’ ที่มีฐานคนใช้งานมากกว่า 18 ล้านคน กลายเป็นดาต้าชั้นดี ที่เป็นเสมือนเข็มทิศในการช่วยขยายฐานในตลาดค้าปลีกให้กับเซ็นทรัล รีเทล โดยการเปิด  ‘เพ็ทแอนด์มี’ ในครั้งนี้ ยังคงใช้ดาต้าเข้ามาขับเคลื่อน ซึ่งสาขาแต่ละสาขาจะนำเสนอสินค้าและบริการไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละโลเกชั่น อย่าง ร้านขนาดเล็ก มีสินค้า – บริการ Grooming และ Café หรือร้านขนาดใหญ่ และ Flagship Store จะมีการให้บริการที่ครบวงจร เช่น บริการ Pet Wellness Center, โรงเรียนฝึกสุนัข โรงแรมสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

เป็นอีกการขยับตัวที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากเทรนด์การเติบโตของกลุ่ม ‘Pet Lover’ อย่างแท้จริง

โลตัส ลุยเปิด “Pet Us”

เช่นเดียวกับโลตัสของกลุ่มซีพี ที่เปิดตัวร้าน Pet Us และนำร่อง 2 สาขา บางนา และพัฒนาการ โดย Pet Us (เพ็ทอัส) ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์และให้บริการครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง  ตอบสนองเทรนด์ Pet Humanization ที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัว ชูจุดขาย คลับของของคนรักสัตว์ที่สะดวก-ครบ-จบ-คุ้ม มีทั้งสินค้าและบริการที่ครบครันและตอบโจทย์ทุกความต้องการในราคาที่คุ้มค่า ด้วยสินค้าหลากหลายแบรนด์ให้เลือกสรร ครอบคลุมสัตว์เลี้ยงหลายประเภท พร้อมบริการ Pet Care แนะนำยารักษาโรค ให้คำปรึกษา และฉีดวัคซีนโดยสัตวแพทย์ และบริการ Pet Grooming อาบน้ำตัดขนจากทีมงานมืออาชีพ

Pet Us เปิดให้บริการแล้วใน 2 สาขา ได้แก่สาขาพัฒนาการ และสาขาบางนา โดยคอนเซ็ปต์ของ Pet Us คือการเป็นคลับของคนรักสัตว์เลี้ยง โดยจะเป็น One-stop shopping destination ที่มีสินค้าหลากหลายชนิด หลายประเภทสินค้า และครอบคลุม ตั้งแต่สินค้าระดับพรีเมียมจนถึงสินค้าแบรนด์ยอดนิยม นอกเหนือจากสินค้าแล้ว ยังมีบริการ Pet Care และ Pet Grooming ที่ให้น้องๆ ได้สามารถมาพบสัตวแพทย์ รับคำปรึกษา ฉีดวัคซีน และอาบน้ำ-ตัดขน โดยยังคงตอกย้ำความคุ้มค่าตามแบบฉบับของโลตัส  พร้อมโปรโมชั่นและส่วนลดพิเศษ นอกจากนั้น สมาชิกมายโลตัส ยังสามารถสะสมแต้มสมาชิกและรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้อีกด้วย

ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส ส่ง “เพ็ทฮับ” ชิงใจคนรักสัตว์

การขยับตัวของซี.เจ.เอ็กซ์เพรส ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะการเปิดตัว แบรนด์ “เพ็ทฮับ” (PET HUB) ร้านขายอาหารและอุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงครบวงจร เมื่อกลางปีที่แล้ว ไม่เพียงแค่การมองเห็นเทรนด์การเติบโตของตลาดเท่านั้น แต่เพ็ท ฮับ ยังเป็นตัวเข้ามาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับร้าน “ซี.เจ.มอร์” ซึ่งเป็นศูนย์การค้าขนาดเล็กในชุมชนของผู้เล่นรายนี้

ถือเป็นร้านที่เข้ามาช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับซี.เจ. มอร์ ซึ่งเป็น Umbrella Brand ค้าปลีกของ ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด ที่มีแบรนด์ค้าปลีกต่างๆ ที่ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป พัฒนาขึ้นมาเปิดให้บริการอย่างครบครันในที่เดียว เปรียบเสมือนศูนย์การค้าขนาดเล็กในชุมชนที่จะดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น

ประกอบด้วย ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต (CJ Supermarket), นายน์ บิวตี้ (Nine Beauty) เครื่องสำอาง และความงามมัลติแบรนด์, บาว คาเฟ่ (Bao Café)  ร้านกาแฟสดใกล้บ้าน, บาว วอช (Bao Wash) ร้านสะดวกซัก, อูโนะ (UNO) สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และ เอ-โฮม (A-Home) สินค้าสำหรับคนรักบ้าน

ไม่เพียงเท่านั้น เพ็ท ฮับ ยังช่วย ทำให้ภาพของซี.เจ.เอ็กซ์เพรส เป็นมากกว่าแค่คอนวีเนียนสโตร์หรือซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กใกล้บ้าน โดยเพ็ทฮับ เป็นร้านของคนรักสัตว์ ในสโลแกน “เพื่อนซี้สัตว์เลี้ยง (Your Pet’s Best Friend)” นำเสนอความครบครันของสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในทุกๆ หมวด ทั้งอาหาร ขนม อาหารเสริม ของเล่น รวมไปถึงอุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว นก สัตว์เล็ก และสัตว์น้ำต่างๆ

การขยับเข้ามาเล่นในตลาดสัตว์เลี้ยงของเชนโมเดิร์นเทรด ถือเป็นอีกปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ เพราะว่าไปแล้ว ช่องทางขายสินค้าประเภทนี้ร้านเพ็ทช้อปดั้งเดิม และสถานดูแลรักษาสัตว์เลี้ยง ยังคงเป็นช่องทางขายสำคัญที่วันนี้สัดส่วนน่าจะอยู่ที่ประมาณ 80%

แต่ด้วยการเข้ามาเขย่าตลาดของเชนค้าปลีกขนาดใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองว่า โฉมหน้าของตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปได้เร็วขนาดไหน....