กรุงเทพมหานคร ยังคงครองอันดับหนึ่งเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาเยือนมากที่สุด ติดต่อกันเป็นปีที่สอง ตามมาด้วยกรุงลอนดอน จากการสำรวจ สุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ดประจำปี 2560 (MastercardGlobal Destinations Cities Index –GDCI 2017) ซึ่งทำการสำรวจติดต่อกันเป็นปีที่ 7
กรุงเทพฯ ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มีการค้างคืนมากถึง 19.41 ล้านคนในปี2559 และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะเติบโตขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น20.2 ล้านคนในปี2560 นี้ และจากการสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ด ประจำปี 2560 นี้ กรุงเทพฯ ยังติด1 ใน 5 ของเมืองที่นักท่องเที่ยวพักค้างคืนมีการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุดถึง14.08 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การสำรวจดังกล่าวไม่เพียงจัดอันดับ 132 เมืองทั่วโลกที่มีผู้มาเยือนมากที่สุด และมีการใช้จ่ายมากที่สุดเท่านั้น แต่ยังวิเคราะห์จำนวนนักท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในปีปฏิทิน 2559 เพื่อใช้คาดการณ์การเติบโตในปีถัดไป พร้อมกับนำเสนอข้อมูลที่ทำให้เข้าใจถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองจุดหมายปลายทาง รวมถึงรูปแบบการเดินทางและการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในเชิงลึกอีกด้วย
จากผลการสำรวจฯ นักเดินทางที่มาเยือนกรุงเทพฯ (88.6%) เป็นการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อนเป็นจุดประสงค์หลัก ซึ่งมีมากกว่าการเดินทางมาเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด (11.4%) และมี 3 สิ่งที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายมากที่สุดในกรุงเทพฯ ได้แก่ ช้อปปิ้ง (22.9%) ที่พัก (22.6%) และการบริการต่างๆ ในกรุงเทพฯ (21.5%)และจากผลการสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การ์ดล่าสุด ยังนำเสนอข้อมูลใหม่เกี่ยวกับประเทศต้นทาง5อันดับแรกที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปยังเมืองจุดหมายปลายทาง โดย 5 ประเทศต้นทางที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวยังกรุงเทพฯ มากที่สุดได้แก่ ประเทศจีน (34.3%) ญี่ปุ่น (7.1%) เกาหลีใต้ (4.3%) อินเดีย (4.1%) และ สหราชอาณาจักร (3.8%) ตามลำดับ
ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า เอเชียแปซิฟิกมีเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางสุดยอดของโลกติด 10 อันดับแรกมากที่สุด และยังมีการใช้จ่ายมากกว่าเมืองจุดหมายปลายทางในภูมิภาคอื่น นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเมืองต่างๆ ที่ติด 10 อันดับในอาเซียน มีการใช้จ่ายรวมในปี 2559 อยู่ที่ 91.16พันล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายในยุโรปซึ่งอยู่ที่74.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในอเมริกาเหนือที่ 55.02 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ในโอกาสนี้ อีริค ชไนเดอร์ รองประธานอาวุโส เอเชียแปซิฟิก ที่ปรึกษามาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “จากการที่เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตด้านการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศมากที่สุด ธุรกิจท่องเที่ยวจะยังคงเป็นภาคธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ การที่มีจำนวนนักเดินทางทั้งเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อนและเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วทั้งภูมิภาคชี้ให้เห็นถึงถึงความจำเป็นที่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเทศควรหันมาลงทุนในเครือข่ายอัจฉริยะและสาธารณูปโภค ที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวที่ราบรื่นให้กับทั้งประชาชนที่อยู่อาศัยในเมือง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพื่อพักผ่อน และนักธุรกิจ และเมืองที่ลงทุนในเครือข่ายและสาธารณูปโภคดังกล่าว จะสามารถพัฒนาศักยภาพของการเป็นเมืองจุดหมายปลายทางโลกอย่างแท้จริง และได้รับประโยชน์มหาศาลทางเศรษฐกิจจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นและอัตราการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย”
ทั้งนี้ จากผลสำรวจฯ นี้ ระบุว่า ลอนดอน ซึ่งอยู่ในอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่19.06 ล้านคน ในขณะที่สิงคโปร์มีนักท่องเที่ยวจำนวน 13.11 ล้านคน แซงนิวยอร์กที่ 12.7 ล้านคน ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 5 เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่ ในขณะที่โซล กระโดดขึ้นมาถึงสามอันดับจนมาอยู่ที่อันดับ 7 ที่ 12.39 ล้านคนผลสำรวจเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางโลกของมาสเตอร์การดยังคาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2560 ยกเว้นนิวยอร์กขณะที่โตเกียวคาดว่าจะมีการเติบโตมากที่สุด 12.2 เปอร์เซนต์
เมืองจุดหมายปลายทาง 10 อันดับแรกที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มีการค้างคืนมากที่สุดในปี 2559 พร้อมคาดการณ์การเติบโตในปี 2560 ได้แก่
|
เมือง |
จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีการค้างคืน ในปี 2559 |
คาดการณ์ จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีการค้างคืน ในปี 2560 |
1 |
กรุงเทพมหานคร |
19.41 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 4% |
2 |
ลอนดอน |
19.06 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 5% |
3 |
ปารีส |
15.45 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 4.4% |
4 |
ดูไบ |
14.87 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 7.7% |
5 |
สิงคโปร |
13.11 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 2.6% |
6 |
นิวยอร์ก |
12.70 ล้านคน |
ลดลง -2.4% |
7 |
โซล |
12.39 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 0.4% |
8 |
กัวลาลัมเปอร์ |
11.28 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 7.2% |
9 |
โตเกียว |
11.15 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 12.2% |
10 |
อิสตันบูล |
9.16 ล้านคน |
เพิ่มขึ้น 0.9% |