เปิดตัว “LINK Collaboration Space” ศูนย์กลางรวมด้านดิจิทัล สำหรับคนสร้างสรรค์ยุคใหม่ที่ครบวงจรที่สุดแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมจะเป็นมากกว่าพื้นที่ทำงานที่สามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์เพื่อผลักดันคนทำงานด้านดิจิทัลผลิตผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการจัดสรรทรัพยากรและบริการที่ตอบสนองความต้องการอย่างครบครัน ตลอดจนเปิดหลักสูตรพัฒนาองค์ความรู้ซึ่งได้ถูกรวบรวมไว้ที่นี่เพื่อตอบโจทย์อย่างแท้จริง
รุ่งโรจน์ ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีฟเลิร์น ลิงค์ จำกัด กล่าวว่า ได้ริเริ่มแนวคิดจัดตั้งบริษัท ลีฟเลิร์น ลิงค์ จำกัด ขึ้น เพื่อให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ไอเดียแห่งใหม่ใจกลางเมือง พร้อมทั้งเป็นศูนย์รวมด้านดิจิทัลสำหรับผู้ที่ต้องการแชร์พื้นที่ทำงาน สร้างสรรค์ไอเดีย และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ร่วมกัน ภายใต้ชื่อ “LINK Collaboration Space”(ลิงค์ คอลลาบอเรชั่น สเปซ) ในทำเลศักยภาพย่านจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ภายใต้โครงสร้างกึ่งโกดังแนวอินดัสเทรียล โมเดิร์น ลอฟท์ ซึ่งออกแบบให้ทุก ๆ ตารางนิ้ว สามารถสร้างแรงบันดาลใจและทำงานร่วมกันได้อย่างไม่รู้จบ ด้วยงบลงทุนกว่า 10 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนยุคใหม่โดยขมวดไอเดียสร้างเป็นศูนย์กลางรวมคอนเนคชันคนสายงานดิจิทัล ตั้งแต่ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งไปจนถึงดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ที่สำคัญมากกว่าพื้นที่สร้างสรรค์ผลงาน อีกทั้งยังสามารถพัฒนาศักยภาพตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
“จากการที่ตลาดโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลครึ่งปีแรกของปี 2559 ที่ผ่านมา เติบโตกว่า 29% คาดการณ์ว่าจะจบปีด้วยตัวเลขรวมกว่า 12,000 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มขยับสูงขึ้นกว่าอีก20 - 30%ต่อเนื่องไปในอีกหลายปีข้างหน้าแต่ในสภาวะที่ตลาดเติบโตรวดเร็วขนาดนี้ มีปัญหาหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนในปัจจุบันคือ บุคลากรด้านดิจิทัลมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของLINK Collaboration Spaceซึ่งได้ต่อยอดแนวคิดเพื่อสร้างให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางสำหรับกลุ่มคนดิจิทัลโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Freelance, พนักงานบริษัทองค์กรต่าง ๆ และเอเจนซี ล้วนแต่มีเป้าหมายผลิตคนดิจิทัลออกสู่ตลาดแรงงาน, เป็นพื้นที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการทำงาน, แบ่งปันองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตลอดจนต่อยอดไอเดียทำสิ่งใหม่ ๆ ร่วมกันหรือแม้แต่นำความรู้มาปรับใช้ให้เกิดผลงานที่สร้างสรรค์ และมาตรฐานที่ดีของงานได้อย่างต่อเนื่องซึ่งถือได้ว่าที่นี่กำลังเป็นคอมมูนิตี้ย่อม ๆ แห่งใหม่ ที่ก่อตัวรวมเครือข่ายคนดิจิทัลไว้อย่างแท้จริงอีกด้วย”
LINK Collaboration Space ประกอบไปด้วยพื้นที่บริการ 4 + 1 ส่วน ได้แก่
1. LINK Digital Playground - พื้นที่โซนสร้างสรรค์ไอเดียการทำงานโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ในบรรยากาศที่มีต้นไม้บริเวณส่วนกลางภายในโกดังสูงกว่า12 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เหมาะสำหรับการนั่งคิดงาน รวมไปถึงห้องประชุมสำหรับการคุยงานต่างๆ, ห้องนอนสำหรับไว้พักผ่อนสายตา และร้านกาแฟที่ไว้เติมพลังไอเดียเป็นต้นนอกจากนี้ได้ร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับภูมิภาค ด้าน SocialInsight monitoring อย่าง Zanroo หรือ Platform สำหรับ Freelance ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่าง Fastwork.coและอื่นๆ อีกในอนาคต เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนดิจิทัลได้อย่างเต็มที่
2. LINK Digital Studio - จากปัจจุบันรูปแบบคอนเทนต์สำหรับคนดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป เปลี่ยนจากตัวหนังสือมาเป็นรูปภาพและภาพเคลื่อนไหวมากขึ้น เราจึงทำสตูดิโอที่สร้างสรรค์โปรดักชั่นสำหรับคนดิจิทัลโดยเฉพาะ เนื่องจากมีอุปกรณ์ให้ใช้งานอย่างครบครัน อาทิ กล้องถ่ายภาพคุณภาพสูง ชุดไฟ และฉาก เป็นต้น สำหรับการทำคอนเทนต์ดิจิทัลเช่นFacebook Live, YoutubeLive, ฉาก Green Screen ที่สามารถซ้อน Digital Background ได้อย่าง Real-Time, ระบบอัดเสียงสำหรับการทำรายการ Podcast ตลอดจนทีมงาน Post-Production ที่สามารถตัดต่อ อัดเสียงต่าง ๆ หลังจากการถ่ายทำได้ทันที
3. LINK Academy - เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ที่นอกจากเป็นแหล่งรวมกิจกรรม Speaker, Meetup, Workshop ต่างๆ ที่จัดขึ้นทุกเดือน ยังมีหลักสูตรเสริมศักยภาพสำหรับคนดิจิทัลหลากหลายด้าน ทั้งในรูปแบบระยะสั้น และระยะยาวอย่างครบวงจรเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เช่น Digital Transformation ที่สร้างหลักสูตรร่วมกันกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง Accenture หรือหลักสูตรเข้มข้น 1 - 2วัน กับผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่างๆ อาทิ Online Ad Optimization, Story-telling, In-bound Marketing ไปจนถึง Branding for Digital Era
4. LINK Digital Creator Hub - Solutions และ Service ต่าง ๆ สำหรับ Online Creator โดยเฉพาะทั้ง Influencer, Youtuber, Blogger, Podcaster และ Creator ที่จะให้ Creator แต่ละคนสามารถโฟกัสกับสิ่งที่ตนเองถนัดคือการทำคอนเทนต์ในขณะที่เราจะร่วมสร้างและพัฒนาในด้านอื่นๆ เช่น สถานที่ทำงาน, สตูดิโอ, พัฒนาองค์ความรู้ต่างๆ,วางแผนการตลาด เพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตาม ไปจนถึงสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากส่วนอื่นๆ อีกด้วย
นอกเหนือจาก 4 ส่วนข้างต้นนั้น LINK Collaboration Space ยังสนับสนุนและส่งเสริมให้คนดิจิทัลสามารถเติบโตและพัฒนาศักยภาพเฉพาะสายงานมากขึ้น เช่น ระบบฐานข้อมูลที่จะช่วยเชื่อมโยงกลุ่มคนดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะด้วยการต่อยอดไอเดียใหม่ๆ, การส่งงานจากลูกค้าที่มีอยู่ในเครือข่าย,การหาเพื่อนร่วมงานในแขนงต่างๆของแวดวงดิจิทัล รวมถึงการขยายโอกาสในการทำงานได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ในขณะเดียวกันด้านมุมมองของลูกค้าองค์กรต่าง ๆ ตั้งแต่แบรนด์ชั้นนำระดับประเทศ หรือระดับSMEs ก็สามารถเข้ามาใช้บริการและเชื่อมต่อคนดิจิทัลได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าแวดวงดิจิทัลในปัจจุบันกำลังเติบโตได้ดี และถือเป็นที่ต้องการของหลายองค์กรที่ต่างมองหาคนทำงานOutsource ด้านดิจิทัลด้วยเช่นกัน
สามารถติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดี ๆ จาก LINK Collaboration Space ได้ที่ www.linkbkk.com และ www.facebook.com/linkspacebkk หรือติดต่อ 092-262-7742