กลุ่มบริษัท ทีเอพี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์คุณภาพอย่างไฮเนเก้น, ไทเกอร์, เชียร์, กินเนสส์ และคิลเคนนี่ พร้อมเปิดตัวน้องใหม่เติมเต็มทางเลือกของผู้บริโภคในพอร์ทสินค้าของกลุ่มบริษัททีเอพี กับเครื่องดื่มแอปเปิ้ล ไซเดอร์ ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลกจากประเทศอังกฤษอย่าง “สตรองโบว์” (Strongbow) เพื่อเป็นการนำเสนอความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้กลุ่มตลาดนักดื่มรุ่นใหม่กลุ่ม Gen-M หรือ Millennial Generations ผู้มีอายุตั้งแต่ 20 - 35 ปี ที่ชอบความแตกต่างและหาทางเลือกในการสังสรรค์ พร้อมปูพรมสร้างกิจกรรมทางการตลาดแบบLifestyle co-creationภายใต้มุมมองของแบรนด์ที่ว่า “A Fresh Remix of Nature” โดยพร้อมออกสู่ตลาดในประเภทของเครื่องดื่มระดับพรีเมี่ยมบนราคาที่สัมผัสได้ และปักหมุดแผนกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุกเพื่อปลุกยอดขายและครอบครองพื้นที่ส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยมูลค่า 5 แสนลิตร โดยตั้งเป้าก้าวเข้ามาเป็นผู้นำสร้างสีสันกระตุ้นตลาดแอปเปิ้ลไซเดอร์ในประเทศไทย
ภัททภาณี เอกะหิตานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ไฮเนเก้นและสตรองโบว์ ในกลุ่มบริษัททีเอพี กล่าวถึงสตรองโบว์ (Strongbow) แบรนด์แอปเปิ้ลไซเดอร์ และภาพรวมของตลาดว่า “จากที่เราบริหารและทำการตลาดมากับแบรนด์พรีเมียมระดับโลกอย่างไฮเนเก้น ทำให้เรามั่นใจและเห็นโอกาสของสินค้าทางเลือกที่มีอยู่ในพอร์ทอย่างสตรองโบว์ (Strongbow) ประกอบกับปัจจัยของกลุ่มเป้าหมายนักดื่มในยุคนี้ที่เปลี่ยนแปลง การเลือกเครื่องดื่มนั้นมักจะถูกมองหาซึ่งความหลากหลาย ซึ่งสตรองโบว์ (Strongbow) เป็นเครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ที่ผลิตจากแอปเปิ้ลแท้ 100% จากไร่แอปเปิ้ลใหญ่ที่สุดอันหนึ่งของโลก เมืองเฮริฟอร์ด ประเทศอังกฤษ นำเสนอมิติของรสชาติที่ดื่มง่ายพร้อมมอบความสดชื่นในโอกาสของการสังสรรค์ต่างๆ ดังนั้น การที่เราเป็นผู้นำในตลาดพรีเมียมนั้น สตรองโบว์ (Strongbow) จึงเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ ซึ่งหากพูดถึงเครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้น ถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่ในบ้านเรา แต่กลับกันในต่างประเทศนั้นได้รับความนิยมค่อนข้างสูงในหมู่กลุ่มนักดื่มรุ่นใหม่ ซึ่งการันตีได้จากอัตราการเติบโตที่รวดเร็วในตลาดโลก และสำหรับตลาดเครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ประเทศไทยในปี 2560 มีมูลค่า 30 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอยู่ที่ 120% โดยปัจจัยการเติบโตหลักมาจากที่เครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นเป็นหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นใหม่ในประเทศไทย และผู้บริโภคนักดื่มส่วนใหญ่คือกลุ่ม Gen M มิลเลนเนียล (Millennial Generations) ที่จะมองหาโอกาสของการสังสรรค์และสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างความมีชีวิตชีวาในโอกาสพิเศษนั้นๆ”
ภัททภาณี กล่าวถึงกลยุทธ์และแผนกิจกรรมการตลาดของสตรองโบว์ (Strongbow) ว่า “Experiential marketing strategy คือกลยุทธ์ของสตรองโบว์ที่จะมุ่งเน้นการสื่อสารให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่าง Gen M ภายใต้ Brand position statement “A Fresh Remix of Nature” โดยการทำกิจกรรมทางการตลาดของสตรองโบว์ (Strongbow) ยังคงอยู่ในรูปแบบของ Music และ Lifestyle platform ที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของสตรองโบว์ (Strongbow) เพื่อการสร้างสีสัน ความมีชีวิตชีวา เชื่อมไปยังกลุ่มเป้าหมายของเรา มีทั้งจัดขึ้นเองและรวมถึงการ co-creation กับเหล่าแบรนด์พันธมิตรหรือบุคคลที่มีความเป็นตัวตนสอดคล้องกับแบรนด์ และเลือกช่องทางของการสื่อสารหลักผ่านดิจิทัล (Digital) เพื่อให้เข้าถึงและเจาะลงไปในกลุ่ม Gen M ที่เราตั้งเป้าของการสื่อสารทางการตลาดเอาไว้ อีกทั้งการทำ Outlet activation กับร้านอาหารชั้นนำที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์สตรองโบว์ (Strongbow) ด้วยเช่นกัน”
“สตรองโบว์” (Strongbow) วางจำหน่ายแล้วกับ2รสชาติ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคนักดื่มได้ครบทุกมิติ คือ Gold apple และ Red Berries ด้วยราคา 59 บาท โดยช่องทางการจัดจำหน่ายมีทั้ง On premise และ Off Premise จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เราคาดว่าสตรองโบว์ (Strongbow) จะเป็นแบรนด์ผู้นำของตลาดเครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ในประเทศไทยได้ในปีหน้า” ภัททภาณี กล่าวปิดท้าย