‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ (KFIN) บริษัทร่วมลงทุน (Corporate Venture Capital : CVC) ในเครือกรุงศรี ตั้งเป้าเดินหน้าสู่ตำแหน่ง TOP CVC ในระดับภูมิภาค พร้อมประกาศปักธงสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านฟินเทคและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้านการธนาคารทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เติบโตไปยังเป้าหมายที่วางไว้ และยกระดับขึ้นเป็น ‘ยูนิคอร์น’ ให้ได้มากที่สุด เผยเตรียมเงินลงทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยสูงถึง 1,350 ล้าน บาท พร้อมเปิดศักราชใหม่ในไตรมาสแรกด้วยโปรแกรมหลักล่าสุด ‘Krungsri UPcelerator’ ที่จับมือร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ภายใต้แนวคิด ‘Accelerating the Sustainable Future’
สู่ตำแหน่ง Top CVC
แซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด เปิดเผยทิศทางการดำเนินงานในปี2566 ว่า “เป้าหมายสู่ตำแหน่ง Top CVC ในระดับภูมิภาคนั้นถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่ ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ ต้องดำเนินงานควบคู่ไปกับ Innovation Strategy หรือยุทธศาสตร์ทางด้านนวัตกรรมของ MUFG และจะต้องสามารถสร้างรายได้ให้กับองค์กรด้วย ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจในทุกภาคพื้นเศรษฐกิจนั้นต่างมุ่งเน้นไปที่การสร้าง การดำเนินงาน ซึ่งไม่เพียงให้เติบโตแต่ต้องนำไปสู่ความยั่งยืนให้ได้ รวมทั้ง ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ ด้วย โดยก็พร้อมขับเคลื่อน และสนับสนุนแนวคิดภายใต้ 3 เป้าหมายสำคัญเพื่อปูทางไปสู่ความยั่งยืนได้แก่
แซม เปิดเผยต่อไปถึงแนวทางการส่งเสริมสตาร์ทอัพ ว่า
“เรายังคงเน้นสนับสนุนสตาร์อัพไทย 70% เนื่องจากมีความใกล้ชิดมากกว่า และพูดคุยกันได้ง่ายขึ้น ส่วนสตาร์ทอัพจากต่างประเทศสัดส่วน 30% เราจะเริ่มในปีนี้
โดยจะเริ่มมองหามากขึ้น ส่วนจำนวนเม็ดเงินลงทุนนั้น KFIN ได้ลงทุนไปแล้ว 2,500 ล้านบาท เหลืออีก 3,500 ล้านบาท ซึ่งเรามีแผนที่จะทะยอยลงทุนทั้งหมดภายในปี 2024 อีกทั้งมีโอกาสที่จะขยายเงินลงทุนเพิ่มด้วย”
Krungsri UPcelerator
สำหรับกิจกรรมช่วงเปิดศักราชใหม่นี้ ‘กรุงศรี ฟินโนเวต’ ได้เปิดตัวโปรแกรมหลักล่าสุด ‘Krungsri UPcelerator’ ที่จับมือร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ภายใต้แนวคิด ‘Accelerating the Sustainable Future’ ในธีม ‘โชว์เหนือ’โดยได้จัดงาน ‘Open House’ในวันที่ 18 มกราคม 2566 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP)
ทั้งนี้ ‘Krungsri UPcelerator’ เป็นโปรแกรมที่เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพในพื้นที่ภาคเหนือได้ยื่นใบสมัครนำเสนอ Prototype หรือโปรดักส์ที่น่าสนใจมาเข้าร่วมโปรแกรม โดยมีกำหนดรับสมัครถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 จากนั้นคณะกรรมการจะคัดเลือกให้เหลือ 12 ทีม เพื่อเข้าสู่ Bootcamp สุดเข้มข้นจากเหล่า Mentor ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในวงการสตาร์ทอัพมาหลายปี เช่น
หลักเกณฑ์ และ รางวัล
สำหรับหลักเกณฑ์ของผู้สมัครโครงการ Krungsri UPcelerator ในปีแรกนี้ ประกอบด้วย
“การจัด Bootcamp ครั้งนี้ เราคาดหวังว่า จะมีสตาร์ทอัพส่งใบสมัครไม่น้อยกว่า 50 ทีม ระยะเวลาของโครงการ 2 เดือนเต็มก่อนที่จะเข้าสู่วัน Demo Day ที่จะเข้าสู่รอบสุดท้าย ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 3 แสนบาทและมีโอกาสไปร่วมงาน Rise Asia World Expo ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมไปถึงรางวัลพิเศษสำหรับ 3 - 5 ทีมที่จะมีโอกาสได้ร่วมงานต่อยอดกันกับทาง Krungsri Innovation Center” แซม กล่าว
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพในด้านดังกล่าวที่สนใจ สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊คเพจ Krungsri Finnovate หรือ https://fb.me/e/3NgikDBdX