2566 เป็นปีที่ บมจ. อาร์เอส  (อาร์เอส กรุ๊ป) และ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ บมจ. อาร์เอส ต้องจารึกประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ของตนเองอีกครั้ง หลังดำเนินธุรฺกิจขึ้นทศวรรษที่ 5 และเผชิญความท้าทายแบบ ‘แมว 9 ชีวิต’ มาตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจเพลง จนต้องชะลอการดำเนินธุรกิจนี้ออกไป แต่สำหรับปีนี้ อาร์เอส เขย่าพอร์ตโฟลิโอบริษัทในเครือใหม่ กลับมาบุกตลาดเพลงอีกครั้ง เหตุเพราะตอนนี้เป็นเวลาที่ ‘ใช่’  พร้อม Spin-Off บริษัทในเครือเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ กับกลยุทธ์ขยายฐานสู่โมเดลธุรกิจใหม่ๆ เคียงคู่กับกลุ่มธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ตลอดจนการขยายสู่ธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์องค์กรที่จะส่งเสริมให้โมเดล Entertainmerce เติบโตแข็งแกร่งขึ้นทั้งในแนวตั้งและแนวราบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Life Enriching และเป้าพิชิตรายได้ 1 แสนล้านบาทภายใน 3 ปี และ 5,500 ล้านบาทภายในปีนี้

จัดทัพใหม่สู่เป้าหมายใหญ่ Life Enriching

‘สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์’ หรือ ‘เฮียฮ้อ’ เบอร์หนึ่ง ‘อาร์เอสกรุ๊ป’ กล่าวอย่างเปิดเผยว่า “เมื่อ 3 ปีก่อน อาร์เอส กรุ๊ป ประกาศรีแบรนด์ และสามารถทรานฟอร์มองค์กร ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce ได้สำเร็จ จนเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำที่ได้รับการยกย่องให้เป็นกรณีศึกษาในการทรานฟอร์มธุรกิจ ถึงแม้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เราต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง ทั้งโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ แต่อาร์เอส กรุ๊ป ก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วและมองหา ‘โอกาสในวิกฤติ’ อยู่เสมอ จนสามารถยืนหยัดนำพาองค์กรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับความท้าทายในปีนี้ เราตั้งเป้าเป็น ‘Life Enriching’ มุ่งมั่นในการยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ”

การก้าวสู่ความท้าทายครั้งใหม่ในปีนี้ และถือเป็นย่างก้าวที่ครั้งสำคัญในชีวิตของ ‘เฮียฮ้อ’ คือ หัวเลี้ยวหัวต่อช่วงก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ที่อาร์เอสเขย่าบริษัทในพอร์ตลิโอของตนเอง แล้วปรับโครงสร้างองค์กรของตนเองครั้งใหญ่ พร้อมตั้งเป้าหมายสู่การเป็น ‘Life Enriching’ ที่เป็นมากกว่าการเติมเต็มความสุขและความต้องการของผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์และบริการเท่านั้น หากแต่ ‘ยกระดับในทุกมิติการใช้ชีวิต’ ของลูกค้า เพื่อสร้าง ‘ประสบการณ์แห่งความสุข’ ไปพร้อมกับ ‘สร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี’ ให้กับผู้คนและสัตว์เลี้ยงผ่านทุกธุรกิจในเครือ

โดย Re-Structure องค์กรใหม่เป็น 6 กลุ่มหลัก ดังนี้

• RS Multimedia ธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ประกอบด้วย ช่อง 8 และ COOLfahrenheit
• RS Music ธุรกิจเพลงธุรกิจที่อาร์เอสพักทัพไปพักใหญ่ และจะกลับมารุกอีกครั้งด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ ประกอบด้วยค่ายเพลง RSIAM, kamikaze, RoseSound และบริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล
• RS LiveWell ธุรกิจคอมเมิร์ซที่มีสินค้าหลากหลายหมวดเพิ่มเติมเข้ามาในตลาดแมสและถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย RS Mall และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ well u, Vitanature+, Lifemate และ Camu C
• RS Connect ธุรกิจที่อาร์เอสซื้อกิจการ MLM จากยูนิลีเวอร์มา เพื่อทำโมเดลธุรกิจใหม่ เน้นเป็นธุรกิจ People Connect ประกอบด้วย ULife และ De Beste
• RS Pet All ธุรกิจใหม่ที่ประกอบธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง รับเทรนด์ Petconomy ซึ่งขณะนี้มีแบรนด์สินค้าในพอร์ตแล้วคือ Lifemate และมีสินค้า มากถึง 81 SKUs แล้ว และเพิ่มเครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศเกือบกว่า 600 แห่ง ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่อาร์เอสมองเห็นโอกาสและช่องทางการขยายตัวทางธุรกิจ ด้วยการออกสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
• R Alliance ธุรกิจด้านการลงทุนของอาร์เอส (ปัจจุบันถือหุ้นใน เชฎฐ์ เอเชีย บริษัทบริหารหนี้สินครบวงจร) เพื่อขยายองค์กรทางลัดให้กับอาร์เอส ด้วยการรวมกิจการ (M&A) หรืออาจเป็นการร่วมทุน (JV) เพื่อส่งเสริมให้โมเดล Entertainmerce เติบโตแข็งแกร่งขึ้นทั้งในแนวตั้งและแนวราบ โดยในอนาคตอันใกล้ เป้าหมายของอาร์เอส คือ การนำบริษัทที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และพร้อมแล้วที่จะทำ IPO ในช่วงQ1/2566 นี้

เป้ารายได้ 1 แสนล้านไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน

“เป้าหมาย 1 แสนล้านบาทภายใน 3 ปีไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และเป็นรายได้ที่จะมาจากการแยกกลุ่มธุรกิจให้มีความแข็งแรง เพื่อแตกบริษัทเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเมื่อรวม Market Cap (มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด) เชื่อว่า เป้าหมาย 1 แสนล้านบาทไม่ใช่เรื่องยาก ขณะที่เมื่อ 2-3 ปีก่อน อาร์เอสมี Market Cap สูงสุดประมาณ 3 หมื่นล้านบาท” สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ บมจ. อาร์เอส กล่าวอย่างมั่นใจ

ส่วนเป้ารายได้รวมในปี 2566 อาร์เอสตั้งไว้ที่ 5,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

1. ธุรกิจคอมเมิร์ซ 3,100 ล้านบาท ประกอบด้วย
   • 1,800 ล้านบาท RS Live Well โดยเป็นรายได้มาจากแบรนด์สินค้า ดังนี้ RS Mall, well u, Vitanature, Camu C, Lifemate
   • 900 ล้านบาท RS Connect
   • 400 ล้านบาท RS Pet All
2. ธุรกิจสื่อและบันเทิง 2,400 ล้านบาท
   • 1,450 ล้านบาท RS Multimedia โดยเป็นรายได้มาจากช่อง 8, COOLISM
   • 400 ล้านบาท RS Music
   • 550 ล้านบาท โดยเป็นรายได้มาจากการจัดคอนเสิร์ต, อีเว้นท์ และอื่นๆ

Mass X Accessibility > Life Enriching   

ด้วยเป้าหมาย Life Enriching ของอาร์เอสนั้น อาร์เอสได้วางกลยุทธ์การขับเคลื่อนในสองส่วนผ่านความเป็นแมส (Mass) และเพิ่มความสามารถในการเข้าถึง (Accessibility)

ทั้งนี้ วิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.อาร์เอส เปิดเผยว่า “ในปีนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังคงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยโมเดล Entertainmerce ที่แข็งแกร่ง พร้อมมุ่งสู่การเป็น Life Enriching โดยโฟกัสที่  

1) เน้นเจาะตลาด Mass มากขึ้น ด้วยการหารายได้ และสินค้า/บริการจากโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่มีความหลากหลาย การทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และการผลิตคอนเทนท์ใหม่ๆ

2) เพิ่ม Accessibility การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านโซลูชั่นทางการตลาดใหม่ๆ ที่ครบจบในที่เดียว, และการจับมือพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างพลังผนึก (Synergy) ใหม่ๆ ร่วมกัน”

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนผ่านบริษัืในเครือ  ประกอบด้วย

1. RS Connect (บริษัท อาร์เอส คอนเน็ค จำกัด) ซึ่งได้ปรับโครงสร้างธุรกิจและเปิดโมเดลธุรกิจใหม่ ในส่วนของ ‘ULife’ ด้วยการเปิดตัว ‘ปิ่นโต’ ธุรกิจโมเดลใหม่สำหรับจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพแบบบอกรับสมาชิก (Subscription) และโมเดลธุรกิจ ‘PROMPT’ เพื่อจัดจำหน่ายสินค้ากลุ่มพันธมิตรที่น่าสนใจผ่านช่องทางออนไลน์ และยังวางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 4 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงาม ภายใต้แบรนด์ aviance และ beyonde นอกจากนี้ ULife ยังได้สร้าง ULife space คอมมูนิตี้สำหรับ Business Partners และตั้ง R&D Creation Center ที่มีพันธมิตรเป็นสถาบันวิจัยและ Supplier ชั้นนำกว่า 100 แห่งทั่วโลกและในส่วนของ De Beste (เดอร์ เบสส์เต) ผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับชาวเอเชีย เน้นจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์-โซเชียลคอมเมิร์ซ และเปิดระบบตัวแทนออนไลน์ (Online Marketing) ก็เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 SKUs ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ในหมวดสบู่ ผลิตภัณฑ์กันแดด และผลิตภัณฑ์บิวตี้ดีท็อกซ์
2. RS Pet All (บริษัท อาร์เอส เพ็ท ออล จำกัด) ธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่ประกอบด้วยโรงงานผลิตอาหารสัตว์ รีเทลสัตว์เลี้ยง สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงธุรกิจเวลเนส สำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย
3. RS LiveWell (บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด) นั้นในส่วนของแบรนด์ well u และ Vitanature+ ปีนี้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 19 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ส่วนแบรนด์ Lifemate ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 22 SKUs ในหมวดอาหารกลุ่ม Specialty Food, สแน็คสำหรับสุนัขและแมว และผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายไปยัง โมเดิร์นเทรด และตลาดต่างประเทศด้วย นอกจากนี้  สินค้าบางส่วนในเครือ อาร์เอส ลิฟเวลล์ ยังได้จับมือพันธมิตร เพื่อขยายช่องทางไปสู่สเปเชียลสโตร์ และดิวตี้ฟรี เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย แลผ่าน RS Mall แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามเน้นจับมือกับพันธมิตรหลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ สถาบันการเงิน โรงพยาบาล คลินิก และบริษัทประกันชั้นนำ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ รวมไปถึงการสร้างระบบ CRM ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
4. RS Mulimedia (บริษัท อาร์เอส มัลติมีเดีย จำกัด) เน้นสร้าง ‘บิ๊กอิมแพค] โดยจะมีทั้งโมเดลธุรกิจเพลงที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงนำเสนอคอนเทนต์และประสบการณ์ทั้งออนไลน์-ออนกราวด์ ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ครบทุกกลุ่ม ทั้ง Gen X, Gen Y และ Gen Z รวมไปถึงการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการหาพาร์ทเนอร์ และการทำ M&A โดยแบ่งความน่าสนใจตามธุรกิจได้ดังนี้
   • โฟร์ท แอปเปิ้ล (4^th Apple) พร้อมลุยโปรเจค VIBE VERSE โดยแบ่งกิจกรรมใหญ่ออกเป็น ‘VIBE HOUSE’ เวทีออดิชันคัดเลือกศิลปิน T-Pop เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้าสู่วงการ และ ‘VIBE SQUARE’ เป็นโชว์เคสพิเศษจากศิลปินไทยที่มีคอนเซปต์แตกต่างจากการจัดโชว์แสดงดนตรีทั่วไป โดยเน้นโรดโชว์ไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ชายหาดริมทะเล และสวนสาธารณะ เป็นต้น เพื่อให้แฟนคลับได้รับประสบการณ์สุดพิเศษร่วมกับศิลปินที่ชื่นชอ
   • COOLfahrenheit คลื่นวิทยุที่มีผู้ฟังสูงสุดมาอย่างยาวนาน จะเพิ่มคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมมุ่งเน้นรักษาฐานผู้ฟัง โดยผู้ฟังสามารถเข้าถึง COOLfahrenheit ได้หลากหลายช่องทางทั้งคลื่น FM 93, แอปพลิเคชัน COOLISM และผ่านสตรีมมิง เช่น Joox, Siri, Apple Music, Google Home และ Google Assistant พร้อมกิจกรรมโดนๆ อาทิ COOL Outing และ อิ๊งค์ Eat All Around กิจกรรมที่ได้รับการต้อนรับมาด้วยดีมาโดยตลอด ด้าน COOLive วางแผนจัด 4 คอนเสิร์ตใหญ่ ได้แก่ RS Hits Journey 2023, D2B 22^nd Anniversary Concert 2023, kamikaze party reunion และ RS Meeting Hits Marathon Concert 2023 และ 4 เฟสติวัล ได้แก่ COOL Summer Fest, COOL Rainy Fest, COOL Urban Fest และ COOL Winter Fest ตลอดทั้งปี
   • ช่อง 8 จัดเต็มครบเครื่อง เข้มข้น โดยโฟกัสที่การตลาดรูปแบบ ‘ภูธรมาร์เก็ตติ้ง’ ในขณะที่คอนเทนต์ต่างๆ อาทิ ละคร จะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ครบรสยิ่งขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ ‘ช่อง 8  สุดทุกจอ’ กับคอนเซ็ปต์ ‘ละครช่อง 8 ดูก่อนใคร สนุกก่อนใคร’  พร้อมพาเหรดเหล่าคนดังในโลกออนไลน์มากมายมามอบความสุขสนุกถึงหน้าจอทั้งไทยและเอเชียน พร้อมตอกย้ำการเป็น King of Fighting Sports ด้วย 4 รายการมวยเด็ด และคอนเทนต์ออนไลน์มากมาย ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม และสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ผ่านผู้ให้บริการ OTT ที่หลากหลาย ทั้ง iQIYI, Viu, WeTV, AIS PLAY, POPS.TV และ TrueID
5. RS Music (อาร์เอส มิวสิค) ธุรกิจเพลงที่ อาร์เอส จะกลับมาลุยอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าการกลับมาครั้งนี้ ​‘ถูกที่-ถูกเวลา’ ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน พาร์ทเนอร์ใหม่ที่แข็งแกร่ง และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ภายใต้ 3 ค่ายเพลง RSIAM, kamikaze และ RoseSound ด้วยโปรเจกต์ RS Homecoming และ RS Newcomers เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการเพลงในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ วิทวัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “อาร์เอส กรุ๊ป ได้เพิ่มอีกหนึ่งสายงานขึ้นมา ภายใต้ชื่อ ‘สายงานการตลาดและขายสื่อโฆษณา’ (Media Sales and Marketing) เพื่อดูแลการซื้อสื่อและการทำการตลาดแบบ One Stop Service ครอบคลุมและเชื่อมโยงสื่อและบันเทิงในทุกธุรกิจของ อาร์เอส กรุ๊ป เข้าไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้การซื้อสื่อโฆษณาและการทำการตลาดของลูกค้ามีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด สามารถเข้าถึงตลาด Mass และเพิ่ม Accessibility ได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ อาร์เอส กรุ๊ป ยังคงให้ความสำคัญกับการหาพารท์เนอร์ทางธุรกิจจากการทำ M&A อีก 2-3 ดีล โดยมีขนาดการลงทุนประมาณ 300-600 ล้านบาท เพื่อต่อยอดโมเดลธุรกิจ Entertainmerce ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะเอื้อให้ อาร์เอส กรุ๊ป เติบโตขึ้นทั้งแนวตั้งและแนวราบ และช่วยเพิ่มมูลค่าของแต่ละธุรกิจพร้อมทั้งสามารถ Spin-Off ได้อย่างรวดเร็ว”