ด้วยลักษณะโครงสร้างของประชากรในหลายประเทศได้เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ เนื่องจากอัตราการเกิดมีแนวโน้มลดลง ผู้คนอยู่เป็นโสดมากขึ้น และหลายคู่แต่งงานไม่นิยมมีลูก สัตว์เลี้ยงจึงกลายเป็นสมาชิกคนสำคัญที่เติมเต็มความเป็นครอบครัวให้แก่คนยุคปัจจุบัน ด้วยความที่รักสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นลูกหลาน คนเหล่านี้จึงทุ่มเทหาซื้อสินค้าและบริการที่ดีที่สุดมอบให้แก่บรรดาลูกๆ สัตว์เลี้ยงแสนรัก เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการพาสุนัขไปใช้บริการสปาผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพดี อาหารเสริมบำรุงร่างกาย แชมพูสำหรับบำรุงขนและผิวหนัง ของเล่นที่สร้างความเพลิดเพลิน รวมถึงเสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งร่างกายสัตว์เลี้ยงให้สวยงาม
ตลาดสัตว์เลี้ยงของโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงและค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากรายงานของ Pet Secure พบว่าสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกคือ สุนัข รองลงมาคือ แมว โดยประเทศที่เลี้ยงสุนัข 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา บราซิล จีน รัสเซีย และญี่ปุ่น ตามลำดับ
ส่วนประเทศที่เลี้ยงแมวมากที่สุด 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย บราซิล และฝรั่งเศส ตามลำดับ
สหรัฐอเมริกานับเป็นตลาดสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยชาวอเมริกันเกินกว่าครึ่งจะเลี้ยงสุนัขและแมวในบ้าน ทั้งนี้ American Pet Products Association (APPA) ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงของชาวอเมริกันในปี 2560 จะมีมูลค่าราว 70 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2.32 ล้านล้านบาท 1) หรือเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุการมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจเพื่อคลายเหงา จึงทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นตลาดสัตว์เลี้ยงที่มีศักยภาพ โดยบริษัทวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำในญี่ปุ่นประเมินว่าในปี 2560 ตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยงจะมีมูลค่าประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 2.6 เติบโตสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.2 เท่านั้น
จีนเป็นอีกหนึ่งตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่ที่น่าจับตา จากข้อมูลของ technode.com ระบุว่าในปี 2559 ชาวจีนใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงราว 1.3 แสนล้านหยวน (6.64 แสนล้านบาท ) เติบโตจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 21.4 และได้มีการคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงจะเพิ่มสูงกว่า 2 แสนล้านหยวน (1.02 ล้านล้านบาท 2) ในปี 2563 ในส่วนของไทยข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ หัวข้อ ‘ตลาด‘สัตว์เลี้ยง’ ระอุ แบรนด์ไทย-เทศจัดเต็มชิงเค้ก 2.2 หมื่นล้าน’ ระบุว่าไทยมีมูลค่ารวมของธุรกิจสำหรับสัตว์เลี้ยงอยู่ที่กว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการขยายตัวในแต่ละปีถึงร้อยละ 5-10 เลยทีเดียว
สร้อยคอสุนัข จากTheChicDogBoutique Etsy.com
เนื่องจากสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกคนสำคัญของครอบครัว เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงทำทุกอย่างให้สัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นมนุษย์ มีการพูดคุย นำสัตว์เลี้ยงไปเที่ยวหรือเดินเล่น มอบของขวัญในเทศกาลสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันปีใหม่ วันคริสต์มาส วันวาเลนไทน์ เป็นต้น ซึ่งของขวัญก็จะเป็นจำพวกขนมขบเคี้ยว เสื้อผ้า และเครื่องประดับ เป็นต้น อีกทั้งเจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนไม่น้อยจะชอบแต่งตัวให้สัตว์เลี้ยงสวยงามไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน เจ้าของก็จะจับสัตว์เลี้ยงแต่งตัวใส่เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือแอคเซสเซอรีต่างๆ จึงทำให้มีธุรกิจสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงทั้งมีแบรนด์และไม่มีแบรนด์ให้คนรักสัตว์ได้เลือกหลากหลาย ในส่วนของเครื่องประดับส่วนใหญ่จะผลิตสำหรับสุนัข และแมวซึ่งมีทั้งที่ทำเป็นสร้อยคอ จี้/ป้ายห้อยคอ หรือนำอัญมณีแท้และเทียมติดกับปลอกคอของสัตว์เลี้ยง โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เล็งเห็นถึงโอกาสนี้และได้วางจำหน่ายเครื่องประดับสำหรับสัตว์เลี้ยงจับกลุ่มตลาดคนรักสัตว์มากขึ้น สินค้ามีแบรนด์เจาะกลุ่ม High End อาทิ Louisdog แบรนด์ของเกาหลีซึ่งจำหน่ายของเล่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ และแอคเซสเซอรีสำหรับสุนัขทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก สนนราคาเครื่องประดับสุนัขเริ่มต้นที่ 20 เหรียญสหรัฐจนถึงกว่า 100 เหรียญสหรัฐ แม้กระทั่งแบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton และ Gucci ก็ไม่พลาดที่จะจับกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ โดยทำเป็นสร้อยคอพร้อมป้ายห้อยคอสุนัขจำหน่าย สำหรับสินค้าเครื่องประดับสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีแบรนด์มีวางจำหน่ายบน E - Marketplace อย่าง Amazon.com, Ebay.com, Alibaba.com หรือ Etsy.com
ปลอกคอสุนัขประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้
$ 201 จากร้าน Dog Collar Boutique
นอกจากนี้ ตลาดเครื่องประดับรูปสัตว์สำหรับคนรักสัตว์ก็มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น โดยมีผู้เล่นรายใหญ่และรายเล็กต่างแข่งกันดึงลูกค้ากลุ่มนี้ อาทิ Pandora จำหน่ายสร้อยชาร์มรูปสัตว์ชนิดต่างๆ หรือสินค้าสัญชาติอิตาลีแบรนด์ Dog Fever ซึ่งผลิตขึ้นสำหรับคนที่รักสุนัขโดยเฉพาะ และวางจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลกทั้งในยุโรป อเมริกา แคนาดา และเอเชีย เป็นต้น
สร้อยคอและกำไลข้อมือแบรนด์ Dog Fever
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่ามูลค่าการค้าของตลาดสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น ทำให้เครื่องประดับทั้งสำหรับสัตว์เลี้ยงและคนรักสัตว์เป็นสินค้าที่มีโอกาสมากขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีผู้ขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ หากแต่ก็ยังมีที่ว่างเหลือสำหรับผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์สินค้าได้อย่างโดดเด่น แตกต่างจากรายอื่นอย่างชัดเจน อาทิ การผลิตเครื่องประดับที่สามารถเคลื่อนไหวได้ (ตา หรือปากขยับได้ เป็นต้น) การรับผลิตตามสั่งในรูปแบบเหมือนสัตว์เลี้ยงของตน หรือสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการนำพลอยสีติดส่วนใดส่วนหนึ่งของชิ้นงาน เป็นต้น นอกจากนี้ การสร้างแรงบันดาลใจสำหรับผู้ผลิต จะเป็นส่วนกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตสินค้า รวมทั้งการที่สินค้ามี ‘กิมมิค’ หรือมี ‘ธีม’ ที่เป็นเรื่องราว จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะสร้างความจดจำของลูกค้า และนำมาซึ่งความสำเร็จในระยะยาว
1 อัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 19 กันยายน 2560 1 เหรียญสหรัฐ = 33.25 บาท
2 อัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 19 กันยายน 2560 1 หยวน = 5.11 บาท
ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
กันยายน 2560
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามข้อมูลได้ที่ infocenter.git.or.th ทางไลน์ที่ git_info_center
หรือติดตามผ่านเฟซบุ๊ค facebook.com/GITInfoCenter