ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศทิศทางธุรกิจปี 2566 ‘Origin Infinity’ สู่เส้นทาง ‘Well-Being Lifetime Company’ ขยายอาณาจักรสินค้า-บริการครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ผู้บริโภค เปิดตัว 42 โครงการใหม่บ้าน-คอนโด มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท พร้อมดึงแบรนด์ The Origin กลับมาบุกตลาดครองใจคนรุ่นใหม่-First Jobber ขยาย Origin Multiverse เดินหน้ากลุ่มธุรกิจใหม่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ดูแลผู้บริโภคทุกเจน - ทุกช่วงชีวิต จัดทัพวัน ออริจิ้น-แอลฟา-ออริจิ้น เฮลท์แคร์-ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ ตบเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อเนื่องตามแผนงาน กางแผนเปิดธุรกิจใหม่ทั้ง Mediplex ในกลุ่มเฮลท์แคร์ จับมือพันธมิตรพัฒนาการศึกษา-ชุมชน-สิ่งแวดล้อม เดินหน้าสร้างสังคมที่ดี มุ่งเป้า Net-Zero ปี 2044 ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 4.5 หมื่นล้านบาท พร้อมเป้ารายได้ 1.9 หมื่นล้านบาท
จากวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการขยายอาณาจักรธุรกิจ ไม่ใช่เพียงกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่ครอบคลุมถึงเมกะเทรนด์ และธุรกิจใหม่ๆ เพื่อให้สามารถครอบคลุมทุกมิติการยกระดับการใช้ชีวิตของผู้บริโภค ล่าสุด พีระพงศ์ จรูญเอก ซีอีโอ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ครบวงจร เปิดเผยถึงแผนธุรกิจปี 2566 ว่า “ในปีนี้ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ดำเนินยุทธศาสตร์ภายใต้แนวคิด Origin Infinity เพื่อสร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด พร้อมทั้งพัฒนาบริษัทในเครือทั้งหมดให้กลายเป็น Well-Being Lifetime Company หรือ องค์กรที่มีธุรกิจครอบคลุมการดูแลผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต”
ทั้งนี้ บริษัทในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้มอบหมายให้ “คีย์แมน” ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของธุรกิจต่างๆ ในเครือ เพื่อร่วมขับเคลื่อนทุกธุรกิจสู่การเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด อาทิ
สำหรับแผนงาน Origin Infinity ประกอบด้วยการขับเคลื่อน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1.การขยายสินค้าและบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (Nationwide Serve) เริ่มจากกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย แบ่งเป็น
1.1 แผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่แบบ All Time High รวม 42 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5 หมื่นล้านบาท ครอบคลุม 13 จังหวัดทั่วประเทศ
o โครงการคอนโดมิเนียม 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2.75 หมื่นล้านบาท
o โครงการบ้านจัดสรร 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท
1.2 แผนการพัฒนาโครงการโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าใหม่ในปีนี้ มูลค่า REIT ประมาณการรวม 25,500 ล้านบาท โครงการกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Logistics & Warehouse) มูลค่า REIT ประมาณการรวม 4,500 ล้านบาท พร้อมทยอยนำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในเครือบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจบริการสุขภาพภายใต้ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ไปให้บริการในต่างจังหวัดด้วย โดยจะนำแบรนด์ต่างๆ ที่ไม่ได้เปิดตัวมาระยะหนึ่งกลับมาบุกตลาด เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าหลากเซ็กเมนท์และสอดคล้องกับสภาพความต้องการของตลาดในปีนี้ อาทิ
o แบรนด์ ‘ดิ ออริจิ้น’ กลับมาเจาะตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อคน Gen Z และกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน (First Jobber)
o แบรนด์ ‘เบลกราเวีย’ กลับมาเจาะตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรีรองรับดีมานด์หลากทำเล
1.3) แผนการรุกไปยังจังหวัดใหม่ๆ รวมถึงมีโครงการไฮไลต์ เป็นโครงการมิกซ์ยูส กระจายตัวในหัวเมืองใหญ่หลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ผสมผสานหลากหลายสูตร เช่น บ้าน คอนโด โรงแรม ศูนย์การค้า บริการสุขภาพ ต่อยอดความสำเร็จของการพัฒนาโครงการออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา และออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง
2.การขยายจักรวาลธุรกิจใหม่ให้มีเส้นทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง (Multiverse Expansion) มุ่งพัฒนาช่วงชีวิตที่ดีขึ้นต่อยอดจากแผน Origin Multiverse ในปี 2565 ด้วยการขยายธุรกิจนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยให้มีเส้นทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการดูแลคนทุกเจเนอเรชั่น ทุกช่วงจังหวะของชีวิต ตั้งแต่ยังโสด เพิ่งแต่งงาน ครอบครัวขยายตัว จนเกษียณอายุ ทุกแพลตฟอร์มทั้งออฟไลน์และออนไลน์ นำพาบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจใหม่ๆ เติบโตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องปีละ 1 บริษัท หลังจากนำ บมจ. บริทาเนีย (BRI) และบมจ. พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI) เข้าตลาดได้แล้วในปี 2564 และ 2565 (ตามลำดับ)
ตามแผนงาน ในปี 2566 มีแผนส่งบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เป็นธุรกิจถัดไป ตามด้วยบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด และบริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด โดยวัน ออริจิ้น จะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงานอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเฮลท์แคร์จะเริ่มวางรากฐานเปิดตัวธุรกิจใหม่ๆ อาทิ คลินิกทันตกรรม คลินิกความงาม คลินิก สัตว์เลี้ยง คลินิกเส้นผม กระจายตัวไปพร้อมกับโครงการที่อยู่อาศัยและมิกซ์ยูสเครือออริจิ้น โดยมีแผนเปิดสาขารวมทั้งหมด 25 แห่งในสิ้นปี 2566
3.การดูแลสังคม (Social Attention) ร่วมใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างสังคมที่ดี ได้แก่
o ด้านการพัฒนาบุคลากร (Talent Development) จับมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ สร้าง Origin Valley ร่วมกับสถาบันการศึกษานั้นๆ เพื่อพัฒนาทักษะคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับความต้องการขององค์กรและตลาดแรงงาน รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ที่มีมากกว่า 3,000 คน ให้พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
o ด้านการพัฒนาชุมชน (Community Development) ดำเนินโครงการ Origin Give เพื่อสร้างโอกาสและส่งมอบสิ่งดีๆ แก่ชุมชน อาทิ การมอบทุนการศึกษา การมอบอุปกรณ์การแพทย์ การลงพื้นที่พัฒนาโรงเรียน
o ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ร่วมเดินหน้าแผน Net-Zero Emission 2044 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติ อาทิ การออกแบบโครงการที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดปริมาณขยะ การลดใช้ไฟฟ้าทั้งในออฟฟิศและสำนักงานขาย การเริ่มติดตั้ง Solar Roof และ EV Charger ในโครงการใหม่ๆ
พีระพงศ์ กล่าวอีกว่า จากแผนงาน Origin Infinity บริษัทเชื่อมั่นว่าจะช่วยสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกมิติ และเป็นการกระจายการเติบโตพร้อมรับมือทุกสภาวะเศรษฐกิจ ปี 2566 นี้ จึงตั้งเป้าหมายยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยไว้ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท และเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท หรือเป็นเป้าหมายเติบโต All Time High