กลุ่มบริษัทเอไอเอ แถลงผลปี 2565 มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6
10 Mar 2023

คณะกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสหลักทรัพย์: 1299) ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศผลประกอบการประจำปีของกลุ่มบริษัท สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

อัตราการเติบโตรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่:

ผลประกอบการของธุรกิจใหม่

  • สำหรับปี 2565 มีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) อยู่ที่ 3,092 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • มูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตขึ้นร้อยละ 6 ในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนเริ่มลดลง
  • เอไอเอ ประเทศจีน มีการเติบโตเชิงบวกของมูลค่าธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังและในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566
  • กลุ่มบริษัทที่ดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดทั้ง 5 ตลาด มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่เป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลัง

รายได้และทุน

  • เงินกองทุนส่วนเกิน เพิ่มขึ้นเป็น 23.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนจ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นคืนจำนวน 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • ส่วนที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน (UFSG) อยู่ที่ 6,039 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7(1) ต่อหุ้น
  • กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) มีมูลค่า 6,370 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อหุ้น
  • ส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัย (EV Equity) มีมูลค่า 77.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนการจ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นคืน
  • อัตราส่วนของวิธีผลรวมเงินกองทุนของแต่ละประเทศ (Group LCSM) ของกลุ่มบริษัท(2) แข็งแกร่งมาก อยู่ที่ร้อยละ 283 จากข้อกำหนด PCR ที่ประกาศใหม่ (ร้อยละ 552 จากข้อกำหนด MCR)

ผลกระทบเชิงบวกที่คาดการณ์ไว้โดยรวม บนมาตรฐาน IFRS 9 และ IFRS 17 เมื่อเทียบกับมาตรฐาน IAS 39 และ IFRS 4(3)

  • กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญตลอดปี 2565
  • กำไรสุทธิสำหรับปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • ส่วนของผู้ถือหุ้นที่จัดสรรแล้วและส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 จะสูงกว่า IFRS 4
  • อัตราส่วนโครงสร้างทางการเงิน (Leverage Ratio) ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ

เงินปันผลและโครงการซื้อหุ้นคืน

  • เงินปันผลรอบสุดท้าย 113.40 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น
  • เงินปันผลรวม 153.68 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3
  • โครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐที่ประกาศไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ยังคงเป็นไปตามแผน
  • จ่ายคืนแก่ผู้ถือหุ้น 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนในปี 2565

 

หลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า:

“ผลประกอบการทางการเงินที่มั่นคงของเราในสภาพแวดล้อมของตลาดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งของรูปแบบการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเอไอเอ ซึ่งเป็นผลจากการขายในช่องทางที่แตกต่างและข้อเสนอเฉพาะบุคคลของเรา แรงขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนได้ลดลงและผู้คนสามารถกลับมาทำกิจกรรมได้ปกติอีกครั้ง ขณะที่มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ตลอดทั้งปี จำนวน 3,092 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 5 แต่เรากลับมาเติบโตร้อยละ 6 ในช่วงครึ่งหลังโดยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ 5 ตลาด ซึ่งทำให้มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในเชิงบวก

สถานะทางการเงินของเรายังคงแข็งแกร่งและมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจที่มีคุณภาพสูงของเอไอเอ เพื่อรองรับกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) และส่วนที่เพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน (UFSG)(1) ที่ปรับเพิ่มขึ้น สถานะทางการเงินของกลุ่มบริษัทยังคงแข็งแกร่งมากแม้ว่าตลาดทุนจะผันผวนอย่างมากในปี 2565 โดยเงินกองทุนส่วนเกินเพิ่มขึ้นเป็น 23.7 พันล้านเหรียญสหรัฐก่อนคืนทุนให้แก่ผู้ถือหุ้น และวิธีผลรวมเงินกองทุนของแต่ละประเทศ (Group LCSM)(2) ของกลุ่มบริษัท ซึ่งมีอัตราส่วนถึงร้อยละ 283 สำหรับส่วนทุนตามมูลค่าธุรกิจประกันภัย (EV Equity) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ในปี 2565 เป็น 77.0 พันล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนคืนทุน 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐให้แก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนและการจ่ายเงินปันผล

คณะกรรมการบริหารได้พิจารณาจ่ายเงินปันผลรอบสุดท้ายที่ 113.40 เซนต์ฮ่องกงต่อหุ้น ซึ่งจะทำให้เงินปันผลรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 อยู่ที่ 153.68 ฮ่องกงเซนต์ต่อหุ้น โดยเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่รอบคอบ ยั่งยืน และก้าวหน้าของเอไอเอ ซึ่งจะผลักดันให้มีโอกาสการเติบโตในอนาคตและก่อให้เกิดความยืดหยุ่นทางการเงินของกลุ่มบริษัท"

 

“เอไอเอ ประเทศจีน กลับมาเติบโตในเชิงบวกช่วงครึ่งหลังของปี 2565 โดยมีมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 มูลค่าธุรกิจใหม่ลดลงในช่วงครึ่งแรกเมื่อเทียบกับปี 2564 เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของเราอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดของโรคระบาด ในช่วงครึ่งหลัง มูลค่าธุรกิจใหม่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งด้วยการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข สองหลักเมื่อเทียบปีต่อปีจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่การติดเชื้อ COVID-19 จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนธันวาคมซึ่งทำให้กิจกรรมการขายของธุรกิจใหม่ต้องหยุดชะงักลง หลังจากการเปิดประเทศจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง เราได้เห็นแรงขับเคลื่อนในธุรกิจใหม่ของเราฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและกลับมามีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในเชิงบวกในช่วงสองเดือนแรกของปี 2566

เรายังคงดำเนินกลยุทธ์การขยายธุรกิจของเอไอเอ ประเทศจีนต่อไป โดยคว้าโอกาสในการเติบโตใหม่โดยเพิ่มจำนวนต้นแบบพรีเมียร์เอเจนซีที่มีความแตกต่างและมีคุณภาพสูงของเราในภูมิภาคใหม่ และขยายสถานะของเราให้ลึกยิ่งขึ้นภายใต้รูปแบบของเรา เรามีความก้าวหน้าอย่างยอดเยี่ยมในช่องทางตัวแทนมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 และจำนวนตัวแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จากมณฑลเทียนจิน ฉือเจียจวง เสฉวน และหูเป่ย์ ในเดือนมกราคม 2565 เราได้เปิดตัวการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในหูเป่ย์ และเรายังอยู่ในขั้นตอนที่ได้เปรียบในการเตรียมพร้อมสำหรับสาขาใหม่ในมณฑลเหอหนาน รวมถึงเรื่องความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ของเอไอเอ ประเทศจีนในการขายประกันชีวิตผ่านธนาคารพาณิชย์กับ Postal Savings Bank of China ที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

เอไอเอ ฮ่องกง รายงานตัวเลขมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ในปี 2565 ซึ่งมีปัจจัยการเติบโตจากช่องทางตัวแทนและพันธมิตรทางธุรกิจของเรา โดยสาขามาเก๊าของเราได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากการกลับมาของแผนการเยือนรายบุคคล (Individual Visit Scheme) กับประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ โดยมูลค่าธุรกิจใหม่มาจากการขายให้แก่นักเดินทางชาวจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นสามเท่าในปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าธุรกิจใหม่ทั้งหมดของเอไอเอ ฮ่องกง  ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจใหม่ยังคงดำเนินต่อไปในตลอดสองเดือนแรกของปี 2566"

 

“เอไอเอ ประเทศไทย สร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ตลอดทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 5 โดยได้รับแรงหนุนจากช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ที่มีการเติบโตถึงร้อยละ 19 เรามองเห็นกิจกรรมการขายที่เพิ่มขึ้นจากทั้งช่องทางตัวแทนและแบงก์แอสชัวรันส์ ซึ่งช่วยสร้างผลตอบแทนจากธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี โดยช่องทางตัวแทนของเรายังคงเป็นผู้นำตลาดในปี 2565 ยิ่งไปกว่านั้น เรายังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสรรหาตัวแทนใหม่ ซึ่งมีส่วนสนับสนุนให้เรามีจำนวนตัวแทนที่สร้างผลงานได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564

เอไอเอ สิงคโปร์ รายงานมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 7 ในช่วงครึ่งปีหลัง สะท้อนถึงยอดขายที่มีการฟื้นตัว สำหรับ เอไอเอ มาเลเซีย สร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ถึงร้อยละ 15 ในปี 2565 และมีการเติบโตเทียบปีต่อปีสูงถึงร้อยละ 26 มาจากช่วงครึ่งปีหลังของปี ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเรามาจากทั้งฝั่งตัวแทนและช่องทางพันธมิตรธุรกิจ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการปรับตัวใช้เครื่องมือดิจิทัลและการเข้าถึงผู้มุ่งหวังใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล

มูลค่าธุรกิจใหม่ในตลาดอื่น ๆ ลดลงร้อยละ 12 ในปี 2565 ในขณะที่ในประเทศอินเดีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และไต้หวัน (จีน) เติบโตสองหลักในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งสามารถชดเชยการชะลอตัวของธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม ทั้งนี้ เอไอเอ ทาทา ประกันชีวิต ที่เราได้ร่วมทุนในประเทศอินเดีย สร้างการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ถึงร้อยละ 52 จากทุกช่องทางการขาย และถูกจัดอันดับให้เป็นบริษัทประกันชีวิตเอกชนอันดับ 3 ของประเทศ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565"

 

“การฟื้นตัวอันรวดเร็วจากสถานการณ์โรคระบาดในตลาดต่าง ๆ ของเรา ตลอดจนความยืดหยุ่นและความเป็นมืออาชีพของตัวแทน ได้สร้างความมั่นใจให้เราว่า โปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี อยู่ในตำแหน่งสำคัญที่สามารถช่วยสร้างโอกาสการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต และในช่วงครึ่งหลังของปี ตัวแทนของเรายังช่วยสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ให้กลับมาถึงร้อยละ 8 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตัวแทนที่สร้างผลงานได้เพิ่มสูงขึ้นและยังมีจำนวนตัวแทนที่มากขึ้นอีกด้วยเมื่อเทียบกับปี 2564

ในปี 2565 กลยุทธ์พันธมิตรระยะยาวกับธนาคารชั้นนำได้ช่วยสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ซึ่งมาจากการเติบโตของ Public Bank ในมาเลเซีย Bank Central Asia ในอินโดนีเซีย ASB Bank ในนิวซีแลนด์ รวมไปถึงพันธมิตรหลักทั้งหมดในอินเดีย The Bank of East Asia ในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ยังมีส่วนสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ให้เติบโตอย่างยอดเยี่ยมในปี 2565 ภาพรวมของช่องทางพันธมิตรได้สามารถช่วยสร้างการเติบโตเชิงบวกในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้ตลอดทั้งปี

ผมยินดีที่ได้เห็นการเติบโตที่รวดเร็วจากกลยุทธ์สำคัญหลักของเราในปี 2565 ตลอดจนความสามารถจากการลงทุนในด้านที่สำคัญอย่างด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล และการวิเคราะห์ (TDA) ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนในการสร้างผลงานจากช่องทางต่าง ๆ ได้เพิ่มสูงขึ้น และสามารถสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าและเฉพาะเจาะจงได้ยิ่งกว่าให้กับลูกค้า เรายังคงมุ่งเน้นในการใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่เหนือกว่าของเรา เพื่อให้เราสามารถยกระดับการดำเนินงานและคว้าโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งในทั้งหมด 18 ตลาดที่เราดำเนินธุรกิจอยู่"

 

“เอไอเอ ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตและประกันสุขภาพอยู่ในภูมิภาคที่น่าดึงดูดที่สุดในโลก ยิ่งในปัจจุบันที่ผู้บริโภคชาวเอเชียตระหนักถึงความสำคัญของความมั่นคงทางการเงินและความจำเป็นของการมีความคุ้มครองเพื่อปกป้องครอบครัว ผมมั่นใจอย่างยิ่งว่าลูกค้าระยะยาวของธุรกิจเอไอเอยังคงมีจำนวนมาก ทีมงานที่มีความทุ่มเทของเรายังมุ่งที่จะช่วยสนับสนุนผู้คนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น สอดคล้องตามกลยุทธ์หลักของเรา เพื่อสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของเราทุกคน”

[อ่าน 1,085]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ICS BEAUTY AND THE LISTS” มหกรรมความงามแห่งปี ยกทัพบิวตี้ไอเท็มยอดฮิต ลดสูงสุดกว่า 70%
ไมเร็กซ์ ส่งแบรนด์เรือธง CIRCULON A1 Series จากอเมริกา เจาะตลาดเครื่องครัวพรีเมี่ยม 5,000 ล้านบาท
Boonlapo และ Pasticceria Cova Montenapoleone ร่วมสร้างสรรค์ประสบการณ์ขนมหวานอิตาลีสุดพรีเมียม
อีซูซุ ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบกจัด “โครงการสร้างนักขับรถมืออาชีพ ปีที่ 2” ส่งนักขับคุณภาพสู่สังคมไทย
นีเวีย ครีม ตลับน้ำเงินในตำนาน ปรับโฉมใหม่ รับเทรนด์รักษ์โลก
Epson ส่งเครื่องพิมพ์หมึกยูวี ลุยตลาดของขวัญช่วงไฮซีซั่น
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved