จากจำนวนผู้ใช้ Facebook ในปัจจุบันที่มีมากถึง 48 ล้านคนต่อเดือน รวมไปถึงจำนวนคนไทยกว่า 51% ที่นิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน และคนไทยกว่า 93% ของผู้ใช้ Facebook ค้นหาสินค้าและแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มนี้ ดังนั้น เราจึงได้เห็นว่าปัจจุบัน ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ เบนเข็มมาเจาะกลุ่มผู้บริโภคในสื่อออนไลน์มากยิ่งขึ้น
การกระโดดเข้ามาเล่นในสื่อออนไลน์นี้ ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วน 12% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) การทำความเข้าใจพื้นฐานของการโฆษณาบน Facebook อย่างถ่องแท้ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์รถยนต์ในไทยเริ่มต้นแคมเปญประจำปี 2561 บน Facebook ได้อย่างประสบความสำเร็จ เรียกได้ว่า ใครช้าระวังจะตามเขาไม่ทัน!
อย่างที่เราๆ รู้กันดีว่าโทรศัพท์มือถือกลายเป็นเครื่องมือในการค้นหาข้อมูลและคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจได้ง่ายที่สุดของคนในยุคปัจจุบัน และนี่คือสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในการทำวิดีโอสำหรับการขายและนำเสนอโปรโมชั่นผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายในทันที ภายในระยะเวลาที่คุณมี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นครีเอทีฟ
เนื่องจากในปัจจุบัน มีแอปพลิเคชั่นหลากหลายที่พร้อมมาให้คุณเลือกใช้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย อาทิเช่น แอปพลิเคชั่นแอนนิเมชั่นแบบข้อความอย่าง Legend ซึ่งมีให้โหลดทั้ง Google Play และ iOS Store ช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์วิดีโอได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ด้วยวิธีที่คุ้มค่าด้านต้นทุนมากขึ้น และสร้างสรรค์วิดีโอที่น่าสนใจดึงดูดผู้บริโภคได้ทุกที่ทุกเวลา
The Facebook Pixel คือการเขียนโค้ดสำหรับเว็บไซต์ที่ทำให้คุณสามารถสร้างกลุ่มผู้รับชมของคุณเองจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ รวมถึงกำหนดกลุ่มผู้รับชมสำหรับแคมเปญโฆษณาบน Facebook ของคุณ คุณสามารถใช้โค้ด Facebook Pixel ในแต่ละหน้าบนเว็บไซต์เพื่อติดตามพฤติกรรมแบบเฉพาะเจาะจงของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ เวลาที่มีคนทำกิจกรรมอะไรบางอย่างบนเว็บไซต์ เช่น การจองนัดเข้ารับบริการต่างๆ Facebook Pixel ก็จะรายงานกิจกรรมนี้ โดยสามารถตรวจสอบได้จากแดชบอร์ด Pixel ของคุณ และยังสามารถปรับการกำหนดกลุ่มผู้รับชมตามความต้องการ เพื่อการสื่อข้อความที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายผ่านโฆษณาบน Facebook ได้อีกด้วย
ล่าสุด Facebook’s Offline Conversions ได้เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการเติมเต็มขั้นตอนที่ใช้ในการวัดผล และคำนวณมูลค่าและปริมาณของยอดขายออฟไลน์ที่มาจาก Facebook, Instagram และ Audience Network เริ่มต้นด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ (CRM system) ของผู้ใช้งานที่ประกอบด้วยข้อมูลที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือยอดขายรถยนต์นั่นเอง โดยผู้ใช้สามารถอัพโหลดข้อมูลยอดขายรถยนต์ได้ง่ายๆ ไปที่ Business Manager บน Facebook ซึ่งจะเชื่อมโยงข้อมูลออฟไลน์นี้เข้ากับช่องทางอื่นๆ ในการติดต่อผ่านออนไลน์เพื่อบอกว่าผู้บริโภคออฟไลน์รายใดบ้างที่เห็นโฆษณาจากแคมเปญของคุณเมื่อไม่นานมานี้ นับว่าบริการนี้เข้าได้เข้ามาตอบโจทย์และเพิ่มความสะดวกสบายในการเก็บข้อมูลได้อย่างดียิ่งขึ้น และทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้รอบทิศทางมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ นอกจาก Facebook แล้ว Instagram ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน จากจำนวนผู้ใช้งานราว 800 ล้านคนในแต่ละเดือน ค้นหาและติดตามสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ และมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ใช้ Instagram เพื่อเชื่อมต่อกับธุรกิจที่ตรงกับความสนใจ และกว่า 80% ของผู้ใช้งาน Instagram จะติดตามผู้ใช้งานที่เป็นธุรกิจ ในขณะที่ผู้ใช้งาน Instagram ราว 200 ล้านคน จะเข้าเยี่ยมชมเพจธุรกิจที่ตนสนใจทุกวัน ดังนั้น การจับคู่แคมเปญบน Instagram เข้ากับ Facebook ถือเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ด้วยวิธีที่คุ้มค่าทางต้นทุน พร้อมกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
สามารถติดตามเรื่องราวความสำเร็จล่าสุดของแวดวงรถยนต์บน Facebook และ Instagram ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/business/industries/automotive