หนึ่งในปัญหาใหญ่ของโลกการเงินยุคดิจิทัลก็คือ “ภัยการเงินจากมิจฉาชีพออนไลน์” ซึ่งนับวันยิ่งมีจำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื้อยๆ พร้อมกับอัพเดทกลโกงใหม่ๆ ตลอดเวลา
เป็นเรื่องที่ธนาคารกสิกรไทย หรือ K Bank กำลังจริงจังกับเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยีการเงินดิจิทัลที่สะดวกรวดเร็ว และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย แต่การสร้างความปลอดภัยทางการเงินให้แก่ลูกค้า เป็นเรื่องสำคัญที่ธนาคารต้องสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้ามากที่สุด
โดย คุณชัชวัฒน์ อัศวรักวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป และผู้บริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า
“ส่วนใหญ่มิจฉาชีพออนไลน์จะหลอกล่อให้เหยื่อร่วมมือกับตัวเอง เช่น ชวนเพิ่มเพื่อน LINE ปลอม พูดคุยโน้มน้าวให้ติดตั้งแอปพลิเคชันอันตราย
เพื่อให้มิจฉาชีพควบคุมโทรศัพท์มือถือ และเข้าถึงโมบายแบงก์กิ้งของเหยื่อได้ง่ายๆ จากนั้นจะขโมยข้อมูลสำคัญของเหยื่อ หรือหลอกให้เหยื่อโอนเงินจากบัญชีของตัวเองไปยังบัญชีของมิจฉาชีพ”
โดยปัจจุบันมีลูกค้าใช้งานแอพพลิเคชั่น K PLUS กว่า 20 ล้านคน เป็นอันดับหนึ่งในธนาคารพาณิชย์เมืองไทย โดยในทุก 1 วินาที จะมีจำนวนการทำธุรกรรมผ่าน K PLUS กว่า 1,000 รายการ และมีมูลค่าการทำธุรกรรมต่อเดือนเฉลี่ยแล้วมากกว่า 2 ล้านล้านบาท
เมื่อมีทั้งจำนวนลูกค้า และยอดธุรกรรมต่อเดือนมหาศาล ทำให้ล่าสุด K BANK ลงทุน 170 ล้านบาท เพื่อช่วยสร้างเกราะคุ้มกันทางการเงินที่แข็งแกร่งให้แก่ ลูกค้าของธนาคาร
“เราลงทุนประมาณ 170 ล้านบาท ผ่านโครงการต่างๆ เพื่อสื่อสารไปถึงลูกค้า 22 ล้านราย ช่วยให้รอดพ้นจากมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์
และหนึ่งวิธีที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ คือจะส่ง SMS แจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบว่า ธนาคารจะไม่ส่งลิงก์ไปกับข้อความ SMS ”
“ขณะเดียวกันทาง K BANK ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าตำรวจ ช่วยสอดส่องดูแลธุรกรรมที่น่าสงสัย พร้อมประสานงานกับธนาคารอื่นๆ และเพิ่มจำนวนทีมงานดูแล จนถึงมีประชุมภายในแต่ละหน่วยงาน เพื่อพิจารณาสถานการณ์ทุกวัน และในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมิจฉาชีพที่ส่ง SMS หลอกลวงประชาชนได้จำนวนหนึ่ง” คุณชัชวัฒน์ กล่าว
ที่น่าสนใจทาง K BANK แนะนำว่า เกราะป้องกันที่ดีที่สุดจากมิจฉาชีพออนไลน์ คือตัวลูกค้าเอง โดยได้เสนอแนะ 3 วิธีง่ายๆ ที่ลูกค้าทำเองก็ได้ ดังนี้
ด้านทาง คุณขัตติยา อินทรวิชัย CEO ของธนาคารกสิกรไทย ได้ให้ความเห็นประเด็นนี้อย่างน่าสนใจ
“มิจฉาชีพมักจะเน้นไปที่กลุ่มคนที่เดือดร้อนมากที่สุด และหากเขาต้องสูญเสียเงินออมอีก จากลำบากอยู่แล้ว ก็จะลำบากขึ้นอีก
ทำให้ K BANK ทุ่มเท ตั้งใจจะเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยของลูกค้า เราลงทุนไปมหาศาลกับเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมทำงานเชิงรุก เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพออนไลน์”
โดย คุณขัตติยา บอกถึงข้อมูลที่น่าสนใจว่า ณ วันนี้ กว่า 87% ของบัญชีออนไลน์ธนาคารกสิกรไทยทั้งหมด ได้เปลี่ยนไปใช้ระบบยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ช่วยยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมให้มากขึ้น และกว่า 90% ของธุรกรรมของธนาคารเป็นการดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ เราจึงได้ลงทุนไปกับวิธีการที่จะช่วยให้ลูกค้าใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ของธนาคารกสิกรไทยที่อยู่บนพื้นฐานของคำว่า ทำได้ง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัยอยู่เสมอ
โดยก่อนหน้านี้ K BANK ได้ประกาศลงทุน 22,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับเทคโนโลยีการเงินดิจิทัล ในช่วงระหว่างปี 2565 - 2567 และหนึ่งเทคโนโลยีที่ธนาคารให้ความสำคัญ ก็คือ การสร้างความปลอดภัยทางการเงิน เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจทุกครั้ง ที่ใช้บริการของธนาคาร