ปฏิเสธไม่ได้ว่า AI เป็นเครื่องมือทางเทคโนโลยีสำคัญที่แทบทุกบริษัท โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำได้นำมาใช้ในกระบวนการต่างๆ

ต่อไปนี้คือมุมมองที่แยบคายและความคิดอันเฉียบคมจากคนดัง นักธุรกิจ และผู้บริหารระดับสูงที่เล็งเห็นถึงทั้งข้อดี และข้อเสียของ AI ซึ่งหลายคนแสดงความคิดเห็นต่างกรรมต่างวาระ

 

Tim Cook

ซีอีโอ Apple

"สิ่งที่เราทุกคนต้องทำคือใช้ AI ในทางที่เป็นประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ ไม่ใช่เพื่อสร้างความเสียหายต่อมวลมนุษยชาติ การทำให้ AI ก้าวหน้าโดยการรวบรวมโปรไฟล์ส่วนตัวจำนวนมากนั้นเป็นความเกียจคร้าน ไม่ใช่ประสิทธิภาพ เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์มีความฉลาดอย่างแท้จริง ปัญญาประดิษฐ์จะต้องเคารพในคุณค่าของมนุษย์ รวมถึงความเป็นส่วนตัวด้วย หากเราเข้าใจผิด นั่นคืออันตรายอย่างใหญ่หลวง"

 

Jeff Bezos

ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร Amazon

"เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของยุคทองของ AI ความก้าวหน้าล่าสุดได้นำไปสู่การประดิษฐ์ที่ก่อนหน้านี้เคยอยู่ในขอบเขตของนิยายวิทยาศาสตร์ เนื่องจากการที่ปัญญาประดิษฐ์และความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในการทำงานบางอย่างให้เป็นอัตโนมัติซึ่งในอดีตไม่สามารถทำได้ ไม่เพียงแต่จะทำให้เราจะมีอารยธรรมที่มั่งคั่งมากขึ้นเท่านั้น แต่คุณภาพของงานจะเพิ่มขึ้นอย่างมากด้วย นี่จึงเป็นยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่น่าทึ่งจริงๆ"

Shou Zi Chew

ซีอีโอ TikTok

“ความก้าวหน้าในปัจจุบันของ AI นั้นน่าตื่นเต้นและน่าทึ่งจริงๆ และจากทุกสิ่งที่เราได้เห็นจนถึงตอนนี้ มันสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในหลายๆ สิ่งได้อย่างลึกซึ้ง”

“มันเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับเราในการปรับปรุงชีวิตประจำวันและการทำงานของเรา รวมถึงการทำคลิปวิดีโอบน TikTok เช่นกัน ที่สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์และนำความสุขมาให้กับคนดู เราสามารถจินตนาการถึงการใช้เครื่องมือที่สร้างสรรค์เหล่านี้เพื่อให้ผู้คนแสดงออกในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม และเช่นเดียวกับทุกสิ่งที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เราควรลงทุนเพื่อที่จะทำความเข้าใจในความเสี่ยง จำเป็นต้องมีกฎระเบียบที่รอบคอบและระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าเรากำลังสร้างแนวป้องกันอันตราย แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ทำลายนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นสำหรับทุกคน"

Elon Musk

ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัทนวัตกรรมยักษ์ใหญ่อย่าง SpaceX, Tesla เจ้าของ Twitter และผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI

“หากคุณไม่กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ AI คุณควรกังวลได้แล้ว เพราะมันเสี่ยงกว่าท่าทีของเกาหลีเหนืออย่างมากจะมีการหยุดชะงักของงานอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือหุ่นยนต์จะสามารถทำทุกอย่างได้ดีกว่าเรา เราในที่นี้ก็หมายถึงพวกเราทุกคนนั่นแหละ นอกจากนี้ ถ้า AI มีเป้าหมายจะทำลายมนุษยชาติ และบังเอิญว่าเราเข้าไปขวางทาง มันจะทำลายล้างโดยที่ไม่ต้องคิดอะไร และไม่รู้สึกลำบากใจแต่อย่างใด เพราะมันปราศจากอารมรณ์ความรู้สึก”

“ความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์นั้นเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อ เว้นแต่คุณจะสัมผัสโดยตรงกับกลุ่มต่างๆ ที่เป็นวงใน เช่น บริษัทผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์อย่าง Deepmind คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันเติบโตเร็วแค่ไหน ในอัตราที่ใกล้เคียงกับเลขชี้กำลัง โดยความเสี่ยงของสิ่งที่อันตรายร้ายแรงจะเกิดขึ้นนั้นอยู่ในกรอบเวลา 5 ปี มากที่สุด 10 ปี”

“ควรมีการกำกับดูแลบางอย่างเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ อาจจะเป็นระดับชาติและระดับนานาชาติ เพียงเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรที่โง่เขลามากนัก กับการอัญเชิญปีศาจให้มีฤทธิ์เดชแก่กล้ามากขึ้นเรื่อยๆ”

Satya Nadella

ประธานและซีอีโอ Microsoft

"AI เป็นเทคโนโลยีที่กำหนดยุคสมัยของเรา AI และแมชชีนเลิร์นนิงกำลังแทรกซึมเข้าไปในทุกประสบการณ์อย่างลึกซึ้ง และทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆ มากมายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เราได้เห็นแล้วว่า AI สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร แต่เราก็ต้องป้องกันผลที่ตามมาโดยไม่ตั้งใจด้วย ถึงเวลาแล้วที่จะตรวจสอบว่าเราสร้าง AI อย่างมีความรับผิดชอบและหลีกเลี่ยงการแข่งกันที่จะนำไปสู่จุดต่ำสุดได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องให้ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันดำเนินการ"

Stephen Hawking

นักฟิสิกส์ทฤษฎี นักจักรวาลวิทยา นักเขียนเจ้าของผลงานขายดีระดับโลก "A Brief History of Time” และอดีตศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

"การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มรูปแบบมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่จุดจบของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพราะมันจะเริ่มต้นเองและออกแบบตัวเองใหม่ด้วยอัตราที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์ซึ่งถูกจำกัดด้วยวิวัฒนาการทางชีววิทยาที่เชื่องช้า ไม่สามารถแข่งขันได้และจะถูกแทนที่ด้วย AI ในที่สุด”

“ความสำเร็จในการสร้าง AI ที่มีประสิทธิภาพ อาจเป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอารยธรรมของเรา หรือแย่ที่สุดก็ได้ เราไม่รู้ ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเราจะได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่มีสิ้นสุดจาก AI หรือถูกมันละเลยและถูกกีดกัน หรืออาจถูกมันทำลาย”

Jensen Huang

ซีอีโอ NVIDIA บริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลทางด้านกราฟิก (GPUs) หรือการ์ดจอสำหรับคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก

"ซอฟต์แวร์กำลังเขมือบโลก แต่ AI กำลังจะกินซอฟต์แวร์ แน่นอนว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อน แต่ความสามารถและประโยชน์ของ AI ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ เป็นที่ชัดเจนว่า AI จะส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม ทุกประเทศจึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า AI เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ เพราะทุกประเทศจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน"

Tom Golway

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี Hewlett Packard Enterprise

“อันตรายของ Generative AI คือการขาดความสามารถในการเข้าใจว่าข้อมูลใดเป็นข้อมูลที่ผิด นำไปสู่การเทียบเคียงความสัมพันธ์ที่ผิดฝาผิดตัว โดยอิงจากข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์/ไม่ถูกต้อง หรือขาดความตระหนักตามบริบทที่จำเป็นในการทำความเข้าใจในความละเอียดอ่อนระหว่างชุดข้อมูล ทำให้เกิดผลที่ตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจคือ เทคโนโลยีที่สร้างมุมมองทางสังคมเกี่ยวกับการเมือง วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ที่ผิดแผกและบิดเบือนไปจากความจริง”

Geoffrey Hinton

นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับโลก

"เชื่อเสมอว่าวิธีเดียวที่จะทำให้ปัญญาประดิษฐ์ทำงานได้คือการคำนวณในลักษณะที่คล้ายกับสมองของมนุษย์ นั่นคือเป้าหมายที่ใฝ่หา น่ายินดีที่เรากำลังก้าวหน้า แม้ว่าเราจะยังมีเส้นทางและเรื่องราวอีกมากที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำงานของสมอง"

บทความจากนิตยสาร MarketPlus Magazine Issue 157 May-June 2023