‘อีลอน มัสก์’ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากความทะเยอทะยานในกิจการยานยนต์ไฟฟ้า และการสำรวจอวกาศ ได้เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ การควบคุมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) แม้จะมีอุปสรรคและความพ่ายแพ้มากมายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

แต่มัสก์ยังคงสนับสนุนการเติบโตของ AI อย่างรับผิดชอบผ่านโครงการริเริ่มล่าสุดของเขา

หนึ่งในผู้ก่อตั้ง OpenAI

เป็นเวลาหลายปีที่ ‘อีลอน มัสก์’ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนา AI ที่ไม่มีการควบคุม เขาเตือนอยู่เสมอว่า AI ที่ออกแบบมาอย่างไม่เหมาะสมอาจส่งผลร้ายต่อสังคม ความเชื่อนี้ทำให้เขาร่วมก่อตั้ง OpenAI ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งเป้าไปที่การปรับใช้ AI อย่างโปร่งใส และเป็นประโยชน์

อย่างไรก็ตาม หลังจากเผชิญกับการแย่งชิงอำนาจภายในองค์กร มัสก์ก็ก้าวออกไป

การจากไปของมัสก์ไม่ได้ขัดขวางความทะเยอทะยานของเขา ในทางกลับกัน หลังจากความสำเร็จของโมเดลภาษา AI ของ OpenAI นั่นคือ ChatGPT     

นับตั้งแต่เปิดตัว ChatGPT ของ OpenAI มัสก์ก็กลายเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยแสดงความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการเติบโตอย่างไร้การควบคุมและแนะนำว่าอาจทำให้ AI มีพลังเกินกว่าที่มนุษย์จะควบคุมได้

ความพยายามครั้งใหม่ในแวดวง AI

ธุรกิจใหม่คือ TruthGPT ส่งสัญญาณถึงความพยายามครั้งใหม่ใน AI เขาจดทะเบียนบริษัท X.AI อย่างเป็นทางการในเนวาดา อย่างไรก็ตาม ทิศทางที่แน่นอนของการเริ่มต้นนี้ยังคงคลุมเครือ เนื่องจาก มัสก์ยังคงรวบรวมทีมและปรับปรุงวิสัยทัศน์ของเขา

เป้าหมายหลักของ TruthGPT คือการสร้างโมเดล AI ที่สามารถค้นหาความจริงและเข้าใจจักรวาลได้ แต่การวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับ OpenAI อาจทำให้ผู้มีความสามารถบางส่วนไม่อยากทำงานร่วมกับเขา

ในขณะที่มัสก์หลงใหลใน AI แต่ความกังวลของเขาเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นก็ชัดเจนไม่แพ้กัน มัสก์เตือนอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นจาก AI ที่ควบคุมอย่างไม่เหมาะสม  และเขายังยอมรับถึงความกลัวของเขาเกี่ยวกับการเร่งการพัฒนา AI ในระหว่างการนำเสนอต่อนักลงทุนของ Tesla

เมื่อเร็วๆ นี้ มัสก์รียกร้องให้หยุดชั่วคราวในการพัฒนาโมเดล AI ที่มีศักยภาพมากกว่าโมเดล GPT-4 ล่าสุดของ OpenAI เขาทำสิ่งนี้โดยร่วมมือกับ Future of Life Institute ซึ่งมีเป้าหมายในการกำกับเทคโนโลยีแห่งการเปลี่ยนแปลงให้ห่างไกลจากความเสี่ยงขนาดใหญ่

ล้มเหลวมาหลายครั้ง

แม้เขาจะมีชื่อเสียงในฐานะเจ้าพ่อแห่งนวัตกรรม แต่ความพยายามก่อนหน้านี้ของ มัสก์ที่จะมีอิทธิพลต่อ AI มักจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้เสมอไป

ตัวอย่างเช่น มัสก์แพ้การประมูลซื้อ DeepMind ให้กับ Google ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนา AI ของ Google

การที่มัสก์ต้องการซื้อ DeepMind เป็นเพราะเขาไม่เชื่อในความสามารถของ Google ในการดูแลการพัฒนา AI ขั้นสูงอย่างมีความรับผิดชอบ

อีกส่วนสำคัญในเส้นทาง AI ของมัสก์คือการร่วมก่อตั้ง OpenAI ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านอำนาจของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google ในแวดวง AI วิสัยทัศน์ของมัสก์คือให้ OpenAI ทำงานอย่างโปร่งใสและปลอดภัย แต่ด้วยความแตกต่างเกิดขึ้นภายในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสนอให้ตั้งธุรกิจเพื่อหากำไรทำให้มัสก์ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และในที่สุดก็ต้องออกมา

แม้จะมีประวัติศาสตร์อันยุ่งเหยิงในโลก AI แต่ความกระตือรือร้นของมัสก์ที่มีต่อ AI ก็ยังคงแข็งแกร่ง ปัจจุบันความพยายามด้าน AI ของเขามุ่งเน้นไปที่ Tesla เป็นหลัก ซึ่ง AI ถูกนำมาใช้เพื่อปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

สำหรับมัสก์เป้าหมายของเขาคือการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบมากขึ้น เขาได้แสดงความหวาดวิตกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มีอยู่จริงของ AI ที่อาจก่อให้เกิดต่อมนุษยชาติ หากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม

ดังนั้น การร่วมทุนครั้งใหม่ของเขา X.AI จึงถูกมองว่าเป็นความต่อเนื่องของภารกิจอันแน่วแน่ของเขาในการโน้มน้าวและนำพาการพัฒนา AI ไปในทิศทางที่เขาเห็นว่าปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ

คงต้องรอดูกันต่อไปว่า X.AI และ TruthGPT จะสร้างภูมิทัศน์ของปัญญาประดิษฐ์ต่อไปได้อย่างไร สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ มัสก์จะยังคงเป็นผู้เล่นหลักในการสนทนาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอนาคตของ AI

บทความจากนิตยสาร MarketPlus Magazine Issue 157 May-June 2023