ปัจจุบันยูนิลีเวอร์ (Unilever) กำลังใช้ AI ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยช่วยระบุส่วนผสมทางเลือกที่สามารถเสริมสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน ทำให้สูตรของแต่ละผลิตภัณฑ์มีความยั่งยืนและประหยัดต้นทุนมากขึ้น
อีกทั้งยังทำให้กระบวนการผลิตง่ายขึ้น ด้วยการลดจำนวนส่วนผสมโดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพหรือประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันก็ใช้ AI ในการพลิกโฉมกระบวนการสรรหาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และได้คนที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน
ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบและกระบวนการผลิตผ่านการจำลองเสมือนจริง เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ และการตัดสินใจที่ใช้ข้อมูลซึ่งผ่านการประมวลผลและวิเคราะห์โดยปัญญาประดิษฐ์
ยูนิลีเวอร์จึงกำลังยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ มีอิสระในการมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดย AI ยูนิลีเวอร์ได้ทำการวิจัยไมโครไบโอม ซึ่งเป็นจุลินทรีย์กว่า 100 ล้านล้านตัวที่มีอยู่ทั้งบนร่างกายและภายในร่างกายของเรา ซึ่งมีบทบาทในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของเรา และทำให้ผิวแข็งแรง
โดยยูนิลีเวอร์ค้นพบว่า ทั้งไมโครไบโอมของผิวหนังและเซราไมด์ของผิวหนัง สามารถจัดการได้ด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านคุณภาพผิวและความชุ่มชื้นได้อย่างไร เพื่อทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างไมโครไบโอมกับแรงภายนอก ทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์ต้องดำดิ่งลงไปในข้อมูล 12 เทราไบต์ และดึงข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนใครมาใช้งาน เพื่อสร้างการปฏิวัติเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตร พร้อมส่งมอบสุขภาพที่ดีซึ่งนั่นก็คือผิวพรรณที่ดูเปล่งปลั่งให้กับผู้บริโภค
นอกจากนี้ ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ โดย Axe AI Body Spray ได้รับการพัฒนาโดยใช้ข้อมูล 46 เทราไบต์ ส่วนผสม 6,000 รายการ และส่วนผสมของน้ำหอม 3.5 ล้านกลิ่น เพื่อสร้างกลิ่นที่ไม่เหมือนใคร ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นล่าสุดนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ Gen Z ที่มีความหลงใหลในโลกแห่งเทคโนโลยี และกระตุ้นความตื่นเต้นในตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
ยูนิลีเวอร์สร้างผลิตภัณฑ์นี้โดยความร่วมมือกับ Firmenich บริษัทน้ำหอมจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งรวมการสร้างแบบจำลอง การทำนายสูตร รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเข้ากับความรู้และความเชี่ยวชาญด้านแนวโน้มผู้บริโภคของ Axe เพื่อสร้างการผสมผสานกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์
ไม่เพียงเท่านี้ ยูนิลีเวอร์ยังพัฒนาตู้แช่แข็งอัจฉริยะเพื่อตอบโจทย์คนรักไอศกรีม
เมื่อสต็อกของไอศกรีมในตู้นี้ใกล้หมด จะส่งข้อความอัตโนมัติไปยังร้านค้าเพื่อแนะนำปริมาณที่ต้องสั่งซื้อใหม่ ซึ่งช่วยทำให้ร้านค้าไม่สูญเสียโอกาสทางการขาย
ในภาพที่กว้างขึ้น ด้วยแนวทางใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจาก AI ผู้บริหารยูนิลีเวอร์สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และเฉียบคมขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจาก AI ทำให้ยูนิลีเวอร์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงสินค้าบนชั้นวางทั้งในร้านค้าจริงและร้านค้าออนไลน์
เพื่อให้มั่นใจว่าจะจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ในรูปแบบที่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายต้องการ ผ่านช่องทางที่พวกเขาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลที่สุด
การเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของยูนิลีเวอร์ เกี่ยวข้องกับกระบวนการบริหารจัดการ SKU ที่ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยพิจารณาว่าควรเก็บสินค้าใดไว้บนชั้นวางเพื่อจำหน่ายต่อไปหรือเลิกผลิตเป็นการถาวร หรือต้องจับตาความเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ การเพิกถอนผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสในการขายต่ำหรือมียอดขายไม่ดี ทำให้ยูนิลีเวอร์มีที่ว่างสำหรับการผลักดันผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้เติบโต เช่น การให้ความสำคัญกับ SKU หลักมากขึ้น หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น
ยูนิเวอร์ทำเช่นนี้ได้ เนื่องจากใช้เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลใหม่ ซึ่งช่วยให้ประเมินพอร์ตโฟลิโอแบบองค์รวมแต่มีความละเอียด เพราะผ่านการวิเคราะห์ขั้นสูงจากข้อมูลเชิงลึก
เป็นการรวบรวมสิ่งที่ดีที่สุดของเครื่องจักรและความฉลาดของมนุษย์เพื่อให้บริษัทฯ สามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้น บนพื้นฐานของข้อมูลที่ดีขึ้นและแม่นยำขึ้นนั่นเอง
นอกจากการใช้ AI ในการสร้างนวัตกรรมการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้ว ยูนิลีเวอร์ยังใช้ AI ในการสรรหาบุคลากรอีกด้วย
ปัจจุบัน ยูนิลีเวอร์มีพนักงานทั่วโลก 127,000 คน แต่ก็ยังเปิดรับสมัครพนักงานมากกว่า 30,000 คนต่อปี และต้องพิจารณาใบสมัครงานมากถึง 1.8 ล้านใบ
การดำเนินการนี้ใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมหาศาล ในฐานะแบรนด์ข้ามชาติที่ดำเนินงานอยู่ทั่วทุกมุมโลก ผู้สมัครจึงมาจากทั่วโลกเช่นกัน
การค้นหาพนักงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้นๆ ที่สุด ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญสู่ความสำเร็จ และยูนิลีเวอร์ไม่ต้องการมองข้ามความสามารถหรือทักษะใดๆ ของผู้สมัคร เพียงเพราะมันกองอยู่ที่ด้านล่างใบสมัคร
เพื่อจัดการกับปัญหานี้ ยูนิลีเวอร์ร่วมมือกับ Pymetrics ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดหางานด้วย AI เพื่อสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ เปิดโอกาสให้ผู้สมัครสามารถรับการประเมินเบื้องต้นได้จากที่บ้านของตนเอง ผ่านหน้าคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
ขั้นแรก พวกเขาจะถูกขอให้เล่นเกมที่คัดเลือกมาเพื่อทดสอบความถนัด ตรรกะ เหตุผล และความกล้าที่จะเสี่ยง
จากนั้นอัลกอริทึมการเรียนรู้ด้วยเครื่องจะถูกใช้เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งใดก็ตามที่พวกเขาสมัคร โดยการจับคู่โปรไฟล์กับพนักงานที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้
ขั้นตอนที่สองของกระบวนการสรรหาบุคลากรด้วย AI คือการส่งวิดีโอสัมภาษณ์ความยาว 30 นาที ซึ่งผู้ตรวจสอบและประเมินวิดีโอสัมภาษณ์เหล่านั้น ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง
ผนวกกับการประมวลผลภาษาธรรมชาติและการวิเคราะห์ภาษากาย เพื่อตัดสินว่าใครบ้างที่เหมาะสมกับตำแหน่งต่างๆ ที่เปิดรับสมัคร
Leena Nair หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของยูนิลีเวอร์ บอกว่า การสัมภาษณ์และประเมินผู้สมัครประมาณ 70,000 ชั่วโมงถูกคัดออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องขอบคุณระบบการคัดกรองอัตโนมัติ
“เรามองหาคนที่มีจุดมุ่งหมาย การคิดอย่างเป็นระบบ มีความยืดหยุ่น และมุมมองทางธุรกิจที่เฉียบแหลม
ข้อมูลทั้งหมดจากโปรไฟล์ เกมและวิดีโอสัมภาษณ์ ได้รับการตั้งโปรแกรมให้ค้นหาคุณสมบัติดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจและตัดสินใจเลือกได้ถูกต้องว่าใครบ้างที่เหมาะกับยูนิลีเวอร์”
ที่น่าประทับใจอย่างยิ่งคือ ระบบนี้ยังออกแบบมาเพื่อให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้สมัครทุกคน แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือไม่ได้รับการคัดเลือก
“สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับกระบวนการนี้คือทุกคนที่สมัครงานกับเราจะได้รับคำติชมบางอย่าง เพราะโดยปกติแล้ว เมื่อมีคนส่งใบสมัครงานไปยังบริษัทขนาดใหญ่ ใบสมัครอาจตกอยู่ในหลุมดำ
อย่างมากก็มีแค่คำกล่าวว่า... ขอบคุณมากสำหรับประวัติส่วนตัวของคุณ เราจะติดต่อกลับ... แต่ความจริงแล้วทุกอย่างกลับเงียบงัน ต่างจากการสรรหาบุคลากรด้วย AI ของยูนิลีเวอร์ เพราะผู้สมัครของเราทุกคนจะได้รับคำติชมยาว 2-3 หน้า
โดยพวกเขาจะได้รู้ว่าผลลัพธ์จากการเล่นเกมเป็นอย่างไร มีพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างไรในการสัมภาษณ์ทางวิดีโอ เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร และถ้าไม่เหมาะสม เหตุผลคืออะไร
และสิ่งที่เราคิดว่าพวกเขาควรทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการสมัครในอนาคต นี่จึงเป็นตัวอย่างของปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยให้เราเป็นมนุษย์มากขึ้น”
ทั้งนี้ ยูนิลีเวอร์เป็นบริษัท FMCG ยักษ์ใหญ่ระดับโลก มีแบรนด์มากกว่า 400 แบรนด์ ครอบคลุมอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน และสุขอนามัยส่วนบุคคล วางจำหน่ายในกว่า 190 ประเทศ มีประชากรโลกมากกว่า 3,400 ล้านคนใช้สินค้าของบริษัทฯ เป็นประจำทุกวัน มีผลประกอบการ 60.1 พันล้านยูโร ในปี 2565