TechnoGym เปิดตัว TechnoGym Run นวัตกรรมลู่วิ่งไฟฟ้า ชูกลยุทธ์ Customized รับเทรนด์รักษ์สุขภาพ
26 Jun 2023

TechnoGym ประเทศไทย เปิดตัว TechnoGym Run ลู่วิ่งไฟฟ้าที่ปฏิวัติวงการจัดเต็มทั้งเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในโลก ผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบ Cardio และ Power ในเครื่องเดียว อัดแน่นด้วยฟังก์ชันการใช้งานครบครัน

พร้อมรุก เจาะกลุ่ม B2B, B2C รับเทรนด์ “รักษ์สุขภาพ” มาแรง ชู กลยุทธ์ Customized เน้นตอบโจทย์การออกกำลังกายที่หลากหลาย และมีความเฉพาะตัวมากขึ้น ตอกย้ำความเป็นแบรนด์อันดับ 1 ด้านอุปกรณ์ และเครื่องออกกำลังกายระดับโลกจากอิตาลี

 

 

 

เปิดตัวนวัตกรรมลู่วิ่ง TechnoGym Run

ตลาดอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายในประเทศไทยร้อนฉ่ากันอีกครั้ง เมื่อแบรนด์ผู้นำระดับโลกจากอิตาลีอย่าง TechnoGym ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ทั้งนี้ นายสุรเชษฐ์ อมรรัตนเวช กรรมการบริหาร TechnoGym ประเทศไทย เปิดเผยว่า

“บริษัทได้เปิดตัว TechnoGym Run นวัตกรรมลู่วิ่งไฟฟ้าปฏิวัติวงการที่มาพร้อมเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในโลก สามารถใช้งานได้หลายฟังก์ชั่น รวบรวมการออกกำลังกายอย่างหลากหลายไว้ในลู่วิ่งเครื่องเดียว ได้แก่ การวิ่ง การฝึกพละกำลัง (Power Training) การฝึกแบบกลุ่ม (Bootcamp เน้นท่าออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัวเป็นแรงด้าน เพื่อลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนและเสริมสร้างความแข็งแรง) ไว้ ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละเซ็กเมนต์ที่มีความต้องการแตกต่างกัน และเทรนด์ของตลาดที่มีความหลากหลายได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ด้วยหน้าจอคอนโซลขนาด 27 นิ้วของ TechnoGym Run จึงทำช่วยเติมเต็มประสบการณ์การวิ่งของผู้ใช้งานที่ต้องการได้ เนื่องจากมีโปรแกรมและโหมดการฝึกที่หลากหลายให้เลือก ได้แก่ Cardio, Strength หรือ High-Intensity จากโปรแกรมออกกำลังกายบน TechnoGym Live  เช่น 

Trainer-Led Sessions, Routines ที่ปรับการออกกำลังกายได้ตามเป้าหมาย และ Virtual Outdoor ที่จำลองการออกกำลังกายแบบเสมือนจริง สามารถปรับความเร็ว ความชันได้ตามเส้นทางที่ผู้ใช้งานเลือก พร้อมทั้งเสิร์ฟความบันเทิงไม่รู้จบ อาทิ Netflix, YouTube, TV, โซเชียลมีเดีย ฯลฯ จาก TechnoGym Live และที่ตัวคอนโซลยังมีโปรแกรมออกกำลังกายที่สามารถใช้งานร่วมกับ TechnoGym Bench เพื่อผลลัพธ์การออกกำลังกายที่ดีที่สุดอีกด้วย

 

ความโดดเด่นของแบรนด์

วามโดดเด่นที่เป็นจุดแข็งของแบรนด์ TechnoGym นั้นมาพร้อมกับความพรีเมียม ซึ่งยืนยันอย่างแข็งขันจากนายสุรเชษฐ์ที่ว่า “TechnoGym มีความโดดเด่นอันเป็นลักษณะเฉพาะของแบรนด์ที่ส่งให้กลายเป็น “แบรนด์อันดับหนึ่ง” ด้านอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายระดับโลกจากประเทศอิตาลีอีกทั้งเป็น “แบรนด์ผู้นำเทรนด์ตลาด” (Trendsetter Brand) ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายให้เลือกอย่างหลากหลาย ด้วยคุณภาพระดับพรีเมียม

โดดเด่นทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถติดตามและเข้าถึงคอนเทนต์การฝึกการออกกำลังกายตามเป้าหมายได้ จากหน้าจอคอนโซล TechnoGym Live ที่ทางแบรนด์ได้อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้เครื่องออกกำลังกายของ TechnoGym เพียงหนึ่งเครื่องสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มาก จากการผสมผสานนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการออกกำลังกายและสุขภาพเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมทั้งคอนเทนท์ TechnoGym Live ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเนรมิต Wellness On-the-Go ของตนเองได้ และสามารถเลือกโปรแกรมการออกกำลังกายที่ต้องการได้แบบเฉพาะตน” 

  

เทรนด์ “รักษ์สุขภาพ” มาแรง

“จากเทรนด์ตลาด พฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้งานทั้งกลุ่ม B2B ซึ่งได้แก่ โรงแรมที่อยู่อาศัย อาทิ คอนโด หมู่บ้านจัดสรร,โรงพยาบาลและ Wellness Center, บริษัท สำนักงาน  สถานศึกษาและฟิตเนส และลูกค้ากลุ่ม B2C เป็นตลาดของกลุ่มลูกค้าที่ซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายใช้ในบ้านและมีสัดส่วน 60-70% ของพอร์ตโฟลิโอบริษัทฯ ประกอบกับนักวิ่งแต่ละคนต่างก็มีเป้าหมายและความต้องการแตกต่างกัน อาทิ

การวิ่งเพื่อรักษาความฟิต การวิ่งเพื่อลดน้ำหนัก การวิ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองให้ดีขึ้น การวิ่งในระยะเริ่มต้นไปจนถึงการวิ่งเพื่อฝึกซ้อมสู่การแข่งขันมาราธอนและไตรกีฬา ฯลฯ ดังนั้น จากการทำความเข้าใจกับความต้องการของผู้ใช้งาน (Insight) จึงเป็นสิ่งสำคัญ” นายสุรเชษฐ์กล่าว

 

 

สำหรับภาวการณ์เปลี่ยนแปลง ของตลาดดังกล่าว ทั้งในเซ็กเม้นท์ B2B และ B2C ประกอบด้วย

  1. กลุ่ม B2B สำหรับตลาดนี้ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าจริง และเทรนด์การจัดสถานที่ฟิตเนสเป็นไปได้ที่มีทั้งแบบขนาดเล็ก เพื่อให้บรรยากาศความเป็นส่วนตัว และพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อให้เป็นการออกกำลังกายแบบคอมมูนิตี้ ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ การปรับตัวของกลุ่ม B2B เพื่อเพิ่มฟิตเนสมากกว่า จุด เพื่อให้ลูกค้าโรงแรมหรือผู้พักอาศัยในโครงการที่พักอาศัยเข้าถึงการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น, มีฟิตเนสสตูดิโอ (Fitness Studio) ขนาดเล็กให้ลูกค้าหรือผู้พักอาศัยสามารถจองใช้งานแบบส่วนตัว, จัดคลาสออกกำลังกายเป็นกลุ่มเล็กๆมีบริการจองพื้นที่แล้วเข้ามาใช้บริการได้แบบ Private Gym สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น การออกกำลังกายกับเพื่อน กับครอบครัว ฯลฯ ขณะที่กลุ่มธุรกิจฟิตเนสเองก็มีการออกแบบโปรแกรมที่เป็นส่วนตัว (Personalized) ให้กับสมาชิกมากขึ้น
  2. กลุ่ม B2C เป็นกลุ่มที่ลูกค้ากำลังปรับตัวและปรับพฤติกรรมจากเทรนด์รักษ์สุขภาพที่กำลังมาแรง ทำให้ตลาดในเซ็กเม้นท์นี้เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการปรับพื้นที่ภายในบ้าน อาทิ ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องที่ไม่ได้ใช้งาน ฯลฯ ให้เป็นพื้นที่ของการออกกำลังกาย ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายในบ้าน (โฮมยิม: Home Gym) ภายในบ้านมากขึ้น จากเดิมที่ตลาดนี้จะมีทัศนคติว่า การมีโฮมยิมในบ้านจะต้องเป็นกลุ่มที่มีรายได้ระดับไฮเอนด์และมีบริเวณของบ้านมากเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ได้อย่างหลากหลาย ทำให้ใช้พื้นที่ไม่มากอย่างที่เคยเข้าใจ

 

 

ช่องทางเข้าถึงลูกค้า

“ปัจจุบันสาขาของ TechnoGym ในประเทศไทยมี 2 สาขา และ 2 รูปแบบ โดยสาขาเอกมัยจะเป็นการผสมผสานระหว่าง Boutique และ Experience Center ตอบโจทย์ทั้งลูกค้า B2B และ B2C ซึ่งจำลองประสบการณ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานจะได้รับจากการออกกำลังกายในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมฟิตเนสสปอร์ตคลับเวลเนส เซ็นเตอร์ (Wellness Center) เพื่อให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้เครื่องได้อย่างเต็มที่ ขณะที่สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซีจะเป็น Boutique ที่มีการตกแต่งสวยงาม ตอบโจทย์ลูกค้า B2C 

โดยวางไอเท็มหลักที่ลูกค้ามักเลือกไว้ใน Home Gym ที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด นอกจากนี้ ในช่วงต้นปี 2567 TechnoGym ยังมีแผนเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะเป็นการผสมผสานระหว่าง Boutique และ Experience Center ไว้ในที่เดียว ขณะเดียวกัน ก็จะเน้นจัด Pop-up Event ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ” นายสุรเชษฐ์กล่าว

 

[อ่าน 791]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดิอาจิโอ เปิดตัว "น้าสติ" คาแรกเตอร์สุดปัง! พร้อมปลุกกระแส "ดื่มสนุก มีสติ"
กลุ่มบริษัทเอไอเอ ประกาศผลประกอบการ Q3/2567 ด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 16%
TOA คว้า 3 รางวัลใหญ่ ‘สุดยอดซีอีโอแห่งปี’
ฉลองครบรอบ 30 ปี “เฮเฟเล่ ประเทศไทย” จัดใหญ่มหกรรมลดราคาแห่งปี
สหพัฒนพิบูล ส่งผลิตภัณฑ์มาม่าร่วมเติมพลังนักวิ่ง "วิ่งผ่าเมือง ครั้งที่ 7"
“ICS BEAUTY AND THE LISTS” มหกรรมความงามแห่งปี ยกทัพบิวตี้ไอเท็มยอดฮิต ลดสูงสุดกว่า 70%
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved