“ถ้าคุณช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ คุณจะประสบความสำเร็จ”
ประโยคที่เรามักได้ยินเสมอๆ จาก นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจเครือข่ายที่ประสบความสำเร็จและสามารถสร้างการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องด้วยรายได้ปีละกว่า 1,200 ล้านบาท มีตัวแทนขายราว 1.5 แสนคน และยังเป็นบริษัทแรกในธุรกิจขายตรงที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ซึ่งกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จให้กับซัคเซสมอร์นั้น มาจากแนวคิด ‘HERO BRAND’ หรือ การสร้างธุรกิจที่เป็น HERO ที่เป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจและสร้างโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากประโยคข้างต้นได้เป็นอย่างดี และครั้งนี้เราจะพาไปถอดรหัส HERO BRAND แนวคิดสู่ความสำเร็จของซัคเซสมอร์พร้อมๆ กัน
โดย บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SUCCESSMORE (SCM) ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 โดย 2 ผู้ก่อตั้ง อย่าง นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ และ นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง
“ซัคเซสมอร์ คือเวทีแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อเป็นตัวคุณในแบบที่ดีที่สุด โดยพันธกิจของเราคือช่วยเหลือเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน การที่เราจะสามารถช่วยเหลือเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนนั้น ซัคเซสมอร์เลือกที่จะวางตัวเป็น HERO BRAND เป็นต้นแบบที่ลุกขึ้นมาปฏิวัติชีวิต
เอาความรู้และความสามารถที่เรามี ต่อสู้จนได้รับผลลัพธ์ที่ดี เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมีพลัง ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ แล้วเขาจะสามารถไปสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นให้มีพลังได้ ซึ่งในที่สุดเราก็จะสำเร็จไปด้วยกัน”
นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงที่มาของแนวคิด HERO BRAND ที่ซัคเซสมอร์ใช้เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
คำถามต่อมาคือ การไปสู่ HERO BRAND ต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง?
นพกฤษฏิ์ ได้ขยายความเพิ่มเติมว่าการสร้าง HERO BRAND มี 4 องค์ประกอบหลัก คือ ผู้ก่อตั้ง องค์กร คน และผลิตภัณฑ์
ผู้ก่อตั้ง
เพราะองค์กรคือ DNA ของผู้ก่อตั้ง ดังนั้นผู้ก่อตั้งต้องวางตนและสร้างตัวให้เป็นฮีโร่ เป็นผู้ชี้แนวทางและเป็นต้นแบบให้กับตัวแทนขายและคนทั่วไปได้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนสามารถเอาชนะปัญหาและอุปสรรคในชีวิต
“ผมในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง เราต้องเป็นฮีโร่และเป็นต้นแบบให้เขา ตอนนี้กำลังเป็นต้นแบบด้าน Social Media ใช้ TikTok มีเพจและช่องยูทูปที่คอยให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ สารที่ส่งไปสามารถเข้าถึงคนได้กว่า 17 ล้านคน และมีเอนเกจเมนต์กว่า 3 ล้านราย”
องค์กร
นอกจากผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่เป็นฮีโร่แล้ว ตัวองค์กรเองต้องมีวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่วางไว้ นั่นคือ ‘อยากให้มนุษย์ในโลกนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น’ มุ่งสร้างสิ่งที่ดีขึ้นกว่าเดิม มีแก่นแท้ และพร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนด้วยเช่นกัน
คน
ในธุรกิจเครือข่าย ‘คน’ คือส่วนสำคัญ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนจำนวนไม่น้อยยังมีมุมมองที่ไม่ดีนักต่อธุรกิจขายตรง เพราะฉะนั้นซัคเซสมอร์จึงทุ่มเทเพื่อสร้างผู้นำในองค์กรให้เป็นฮีโร่ พัฒนาคนให้เก่ง และดีควบคู่กัน
โดยปลูกฝัง Mindset ที่ถูกต้อง พัฒนาภาวะผู้นำ สร้างช่องทางการหารายได้ที่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเป็นเสมือนการสร้าง ‘ฮีโร่ต้นแบบ’ ที่เป็นตัวแทนความสำเร็จ และกลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนที่สามารถสร้างการเติบโตและขยายเครือข่ายต่อไปได้ในที่สุด
ผลิตภัณฑ์ หรือ Product Hero
นพกฤษฏิ์ กล่าวว่า ธุรกิจที่แท้จริงต้องมีผลิตภัณฑ์ที่แท้จริง ซึ่งหมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และแก้เพนพอยต์ของผู้บริโภคได้ และที่สำคัญต้องคุ้มค่าเงิน ต้องมีการศึกษาความต้องการของผู้บริโภค วิเคราะห์ตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ จนกระทั่งออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่สุด
นี่คือ 4 องค์ประกอบสำคัญในการสร้าง HERO BRAND ตามแบบฉบับของซัคเซสมอร์ สิ่งที่น่าสนใจตามมาคือ
‘HERO BRAND’ จะสามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างไร?
สำหรับประเด็นนี้ นพกฤษฏิ์กล่าวว่า การวางโพรซิชันนิงของซัคเซสมอร์ให้เป็น HERO BRAND นั้น ทำให้ภาพขององค์กรชัดขึ้น และความชัดเจนที่เห็นย่อมมีราคาและจะสร้างมูลค่าเพิ่มในตลาดได้เสมอ โดยกลยุทธ์ HERO BRAND จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจใน 3 ประเด็นหลักคือ
ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นข้างต้น ล้วนเป็นการสร้างฐานที่แข็งแรงให้กับบุคลากรอันเป็นกำลังสำคัญสำหรับธุรกิจทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่านี่คือการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้วยเช่นกัน
“ซัคเซสมอร์เป็นธุรกิจเกี่ยวกับผู้คน โดยเราเลือกใช้การตลาดแบบชนเผ่าเพราะเชื่อในพลังของศรัทธา เรามุ่งพัฒนาหัวหน้าชนเผ่า หรือผู้นำของเราให้เขาดูแลกลุ่มคนด้วยความรักและความผูกพัน ซึ่งมันมีพลังมาก หัวหน้าชนเผ่าหรือฮีโร่ 100 คนที่เราสร้าง สามารถดูแลคนได้เป็นแสนคน”
ปัจจุบันซัคเซสมอร์มีศูนย์กระจายสินค้า 23 แห่ง ใน 6 ประเทศ ปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้รวมถึง 1,180.56 ล้านบาท
โดยปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตที่ 15% และสำหรับแผนธุรกิจในอนาคตนั้น ซัคเซสมอร์มีแผนสเกลอัปธุรกิจเดิมที่มีอยู่ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการยกระดับระบบเทคโนโลยีเพื่อให้เข้าถึง เข้าใจ และเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้มากขึ้น
อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม โดยใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย รวมถึงการพัฒนาบุคลากรทุกระดับเพื่อพร้อมรับมือกับการแข่งขันในปัจจุบัน
นอกจากนั้นยังมีแผนลงทุนขยายธุรกิจใหม่ๆ เพื่อขยายพอร์ตทางการลงทุนและต่อยอดไปสู่ความยั่งยืน และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนในสังคม
เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และเทคโนโลยีเพื่อการเกษตร ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ อย่างเช่น บริการโดรนฉีดพ่นทางการเกษตร เป็นต้น
“เมื่อเรามีบริษัทที่เป็นฮีโร่ มองความยั่งยืน คนที่เราจ้างงานหรือคนที่เราทำให้เกิดรายได้อีกหลายแสนคน และทุกคนที่อยู่ใน Value Chain เขาก็จะมีความยั่งยืน ไม่ต้องเป็นภาระของสังคม
และเมื่อพวกเขาแข็งแรงขึ้น เขาก็มีบทบาทและโอกาสที่จะไปช่วยสังคมใกล้ตัวเขาให้แข็งแรงขึ้นไปด้วยกัน นี่คือสิ่งที่เป็นคุณค่าของความเป็น HERO BRAND” นพกฤษฏิ์ กล่าวทิ้งท้าย