ผ่านพ้นไปแล้วกับการประลองแข้งและฝีเท้าของเยาวชน เรียกว่าสู้กันมันส์เทียบเท่าระดับมืออาชีพ ในโครงการ “อลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์” ระดับเอเชีย จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมีเยาวชน 57 ชีวิตจาก 9 ประเทศเอเชียเข้าร่วม เพื่อคัดเลือกจนเหลือ 9 ตัวแทนเยาวชนคนเก่ง ที่ฝีเท้าโดดเด่นบินลัดฟ้าไปสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต ณ สนามอลิอันซ์ อารีนา สโมสรบาเยิร์นมิวนิค ร่วมกับเยาวชนตัวแทนจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และฝึกซ้อมกับทีมโค้ชระดับโลกของสโมสรเสือใต้บาเยิร์นมิวนิค ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
มร.ไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า โครงการอลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ ปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “อยากได้คนไม่กลัวแพ้” เพื่อต้องการสื่อสารและกระตุ้นให้เยาวชนมุ่งมั่นในการเดินตามความฝัน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและกล้าที่จะเดินหน้าคว้าโอกาสที่มีอยู่ตรงหน้าและปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพแคมป์ระดับเอเชียพร้อมทั้งได้รับเกียรติจากทีมโค้ชจากสโมสรบาเยิร์นมิวนิค นำโดย คาร์สเทน เลกี้ส์ บินตรงมาสอนทักษะฟุตบอลให้กับเยาวชน 57 ชีวิตจาก 9 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ จีน, อินโดนีเซีย มาเลเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ศรีลังกา และ ไทย ในโอกาสนี้ อลิอันซ์ อยุธยา และประเทศไทยจะได้ต้อนรับทีมโค้ชจากสโมสรบาเยิร์นมิวนิค และเยาวชนจาก 9 ชาติเอเชีย เพื่อมาเรียนรู้ทักษะทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอล นอกเหนือจากทักษะในการเล่นฟุตบอลแล้ว ยังรวมถึงการทำงานเป็นทีมเวิร์คและก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่แสนงดงามระหว่างเยาวชนที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอลเหมือนกันอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่จะทำให้บุคลากรในวงการฟุตบอลของไทยได้เห็นถึงวิธีการและแนวทางในการฝึกซ้อมของนักฟุตบอลระดับโลกและนำมาปรับปรุงพัฒนาการฝึกซ้อมของไทยเราให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย”
โดยเยาวชนไทย 4 คนที่ได้รับคัดเลือก ได้แก่ 1.นาย -นายวรรุจน์ นามเวช 2.ฟิล์ม-นายพัชรพล พงศ์ปัญญา 3.บอย-นายเกียรติศักดิ์ สนิทขำ 4.โต้ง-นายศักดา นนท์ภักดีได้ร่วมกันเล่าถึงความประทับใจในโครงการนี้
เริ่มจาก นาย-วรรุจน์ นามเวช ตำแหน่งผู้รักษาประตู เล่าว่า “เคยเข้ามาร่วมคัดเลือกในโครงการนี้เมื่อปีที่เเล้วฝ่าฟันมาจนมาถึงรอบคัดตัวแทนแต่ละภาค แต่ไม่เคยกลัวคำว่าแพ้ เพราะทุกคนลุกขึ้นสู้ต่อได้เสมอ ปีนี้จึงมาร่วมอีกครั้งโดยเตรียมตัวฝึกซ้อมให้ดีและมากกว่าเดิม มีระเบียบวินัยมากขึ้น และทำเต็มที่ รู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่พบความสำเร็จเป็นหนึ่งใน 4 คนได้ไปเยอรมัน จะเก็บเกี่ยวความรู้ด้านทักษะฟุตบอลกลับมาให้ได้มากที่สุดเพื่อมาปรับใช้กับตัวเอง”
ขณะที่ โต้ง-ศักดา นนท์ภักดี ตำแหน่งกองกลาง กล่าวเสริมว่า ชัยชนะครั้งนี้อาจเพราะมีพร้อมอย่างมาก ทั้งฟิตร่างกายและจิตใจให้แข็งแกร่งมากพอ และมีความหวังเต็มเปี่ยม ภูมิใจมากที่ได้เป็นตัวแทนจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ล้ำค่ากลับมาพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมโครงการนี้ทำให้ได้ประสบการณ์ความคิดแปลกใหม่จากโค้ชต่างชาติมากขึ้น ขอบคุณอลิอันซ์ อยุธยาที่เปิดให้โอกาสให้เด็กๆได้มาทดลองฝีเท้าและไปพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม
ต่อด้วย บอย-เกียรติศักดิ์ สนิทขำ ตำแหน่งกองกลาง เล่าว่า เล่นฟุตบอลเพราะรุ่นพี่ชวนพอลองเล่นแล้วชอบเพราะนอกจากสนุกและทำให้แข็งแรงแล้วยังทำให้มีระเบียบวินัยเพิ่มขึ้น มีสังคมและเพื่อนมากขึ้น เข้าร่วมโครงการนี้เป็นครั้งแรก ได้เตรียมตัวโดยฝึกซ้อมอย่างหนัก จึงมีความพร้อมมาก พอได้รับคัดเลือกรู้สึกดีใจเพราะถือว่าประสบความสำเร็จในสิ่งที่เรารัก อยากไปเยอรมันเพื่อเก็บเกี่ยวเทคนิคและประสบการณ์เรื่องเบสิกของฟุตบอลที่ไม่มีที่เมืองไทยและอยากเจอโธมัสมุลเลอร์ ตำแหน่งกองกลาง เพราะชอบที่เล่นบอลแบบคลาสสิก มีความฝันคือได้ติดทีมชาติ
ด้าน ฟิล์ม-พัชรพล พงศ์ปัญญา ตำแหน่งกองหน้า,ปีกซ้าย บอกว่า ดีใจและประทับใจมากที่โค้ชเห็นความสามารถโค้ชไทยบอกว่า "พละกำลังของเรายังด้อยกว่าเพื่อนต่างชาติต้องกลับไปฟิตให้ดี" ส่วนโค้ชคาสเทนลาสกี้ได้บอกเทคนิคในเรื่องการเลี้ยงหลบหลีกคู่ต่อสู้ จะกลับไปฝึกฝนให้ได้และดีกว่าเดิม การไปเยอรมันครั้งนี้คาดว่าจะได้รับการฝึกรูปแบบใหม่ๆที่ไม่เคยเจอจากโค้ชของบาเยิร์นมิวนิค และได้เรียนรู้เทคนิคและวิธีการให้เป็นมืออาชีพอยากพบนักเตะคือ Joshua Kimmich ตำแหน่ง กองกลางตัวรับ และ James Rodríguez ตำแหน่งกลางตัวรุก คติส่วนตัวคือ ความขยันและความมุ่งมั่นจะคอยพัฒนาตัวเราเสมออนาคตอยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ
“นักฟุตบอลมืออาชีพ” อาจะเป็นความฝันของเด็กผู้ชายหลายๆ คน จะเป็นจริงได้ต้องลงมือตามหาด้วยตนเอง โครงการอลิอันซ์ จูเนียร์ ฟุตบอล แคมป์ 2018 จึงเป็นอีกเวทีหนึ่งที่อยู่ในใจของเด็กหลายคน เพราะจะช่วยส่งเสริมให้เด็กเป็นนักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่เก่งๆ และแจ้งเกิดบนถนนสายนี้ได้ไม่ยาก...ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.FootballForLifeThailand.com