โค้ก - เป๊ปซี่ - เอส ร่วมวงสาดแคมเปญหน้าร้อน เปิดศึกชิงตลาดน้ำอัดลม 66,000 ล้าน
08 May 2024

ข้อมูลจากนีลเส็นไอคิว ระบุว่า ตลาดน้ำอัดลมในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดประมาณ 66,000 ล้านบาท (ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2566 - มกราคม 2567) มีตัวเลขเติบโตอยู่ที่ 12%  ซึ่งถือเป็นอีกปีที่ตลาดน้ำอัดลมมีการเติบโตค่อนข้างสูงต่อเนื่องจากปี 2565 ที่การเติบโตอยู่ในตัวเลขเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกันโดยมีตัวเลขเติบโตอยู่ที่ 16%

 

น้ำอัดลม เป็นเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่มีสัดส่วนมากที่สุดของตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในบ้านเราที่มีมูลค่าตลาด ประมาณ 1.98 - 2 แสนล้านบาท โดยน้ำอัดลม ยังคงครองสัดส่วนมากที่สุด ประมาณ 31% รองลงมาจะเป็นน้ำเปล่าบรรจุขวด ที่มีสัดส่วนประมาณ 22% และอันดับ 3 จะเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง 16%

การเติบโตของตลาดน้ำอัดลมนั้น มาจาก 3 แบรนด์หลักในตลาดอย่างโค้ก เป๊ปซี่ และเอส ต่างมีการใส่งบการตลาดเข้ามาเพื่อกระตุ้นตลาด ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยผลักดันสำคัญ นอกเหนือจากการเติบโตจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อน โดยเฉพาะในช่วงซัมเมอร์ ที่เป็นช่วงหน้าขายของสินค้าประเภทนี้ ทั้งโค้ก เป๊ปซี่ และเอส ต่างออกมาอัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายของตัวเองอย่างเข้มข้น

 

  ขณะที่ตลาดน้ำอัดลมในซัมเมอร์นี้ ก็ออกมาคึกคักเช่นกัน โดย สุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการสำนักการตลาด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด เจ้าของแบรนด์เอส บอกว่า

ซัมเมอร์นี้ เอส จะใช้งบการตลาดที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เพื่อสานต่อความสำเร็จ หลังจากที่ในปี 2566 ที่ผ่านมา เอส มีการออกมา Rebranding พร้อมอัปเลเวลแบรนด์ เพื่อให้เข้าไปเป็นน้ำอัดลมของคนเจน Z  ด้วยการวางตำแหน่งแบรนด์ภายใต้คอนเซปต์  ‘Born to be Awesome เกิดมาซ่า..กล้าเป็นตัวเอง’

การโหมทำกิจกรรมในปีที่แล้ว ทำให้เอส ประสบความสำเร็จค่อนข้างดี นอกจากจะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนเจน Z แล้ว เอส ยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดเชิงปริมาณอยู่ในสัดส่วน 8.6% โดยมี Penetration Rate จากก่อนแคมเปญ Rebranding ในปี 2566 อยู่ที่ 26% ในปี 2567 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 28% (ข้อมูลจากคันทาร์ (ประเทศไทย)) จากที่ก่อนหน้านั้น เอสจะมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 7% โดยเอสตั้งเป้าว่า ภายใน 3 ปี จะต้องไต่ระดับทำส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นไปเป็น 11% ซึ่งเป็นตัวเลขส่วนแบ่งตลาดที่เอสเคยทำได้เมื่อหลายปีก่อน

 

 

ส่วนในซัมเมอร์นี้ เอส เปิดตัวแคมเปญ แคมเปญการสื่อสารชุดใหม่ ‘est Cola Awaken Awesome Senses’ แค่ดื่มเอสก็เปิดทุกสัมผัส ให้ซ่ากล้าเป็นตัวเอง เพื่อเป็นการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ภายใต้คอนเซปต์ ‘Born to be Awesome เกิดมาซ่า..กล้าเป็นตัวเอง’ รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เข้าไปอยู่ในใจ Gen Z ทั้งในเรื่องของรสชาติและความออซั่มที่แตกต่าง ผ่านการสื่อสารด้วย  ‘8 สัมผัส’ ซึ่งกระตุ้นความรู้สึก (Feeling) จากภายใน (Inner Sense)

ลูกเล่นที่ถูกนำมาใช้ในปีนี้ ก็คือ การนำการนำเทคโนโลยี AI Co-Pilot ร่วมกับครีเอทีฟมาสื่อสารความอร่อยซ่าของเอสที่ช่วยปลุกทั้ง 8 ประสาทสัมผัสในภาพยนตร์โฆษณา และตอกย้ำความเชื่อของแบรนด์ที่พร้อมสนับสนุนทุกแพชชั่นของคนรุ่นใหม่ ให้มีความกล้าในการแสดงออกถึงความออซั่มในแบบของตัวเอง เช่นเดียวกับทั้ง 2 พรีเซนเตอร์เอส ทำได้และทำถึง จนได้รับการยอมรับในความสามารถด้านดนตรีในระดับเอเชีย รวมทั้งการชวนเจนซ่าทั้งในประเทศไทยและทั่วเอเชียให้ทดลองดื่มและมาเป็น Gen Zest (Gen Z+est)

 


“เราใช้พรีเซนเตอร์ที่ปลดปล่อยแพชชั่นในตัวเองและได้รับการยอมรับในระดับเอเชีย ทั้ง  ‘เจฟ ซาเตอร์’ ในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ ที่ไปโชว์ความออซั่มและได้รับรางวัลในรายการ Call Me by Fire Season 3 ได้เป็นเมนเทอร์ในรายการ Chuang Asia Thailand 2024 จนสามารถตกแม่ๆ ชาวจีนเข้าด้อมมากมาย รวมทั้ง Collab กับศิลปินชาวเกาหลีใต้ Shaun ในเพลง Steal the Show

และ  ‘อิ้งค์ วรันธร’ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป๊อปแห่งยุค ที่เก่งทั้งร้องและการแสดง มีผลงานเพลงที่ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว และขึ้นแสดงโชว์ในเทศกาลดนตรีระดับโลก Summer Sonic 2023 ที่ประเทศญี่ปุ่น มาคอนเนคและชวนคนรุ่นใหม่ให้ปลุกทุกประสาทสัมผัส รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กไทยได้กล้าเป็นตัวเอง เช่นเดียวกับทั้ง 2 คนที่กล้าเป็นตัวของตัวเองและทำงานด้านดนตรีที่รักจนประสบความสำเร็จในระดับเอเชีย”


 

ลูกเล่นที่ถูกใส่เข้ามาในการทำแคมเปญ คือ การ Co-Pilot กับ AI มาใช้ทั้งในงานโฆษณา ด้วยการให้ AI สร้างสรรค์มุมมองภาพใหม่ๆ ตามคอนเซปต์ของครีเอทีฟ ให้ออกมาเป็นมุมมองโฆษณาที่แปลกใหม่ สร้างความรู้สึกได้อย่างลงตัวร่วมกับพรีเซนเตอร์

และการสร้างสรรค์กิจกรรม ‘เอสเช็กฟีลซ่า’ ลองเอสเซย์ดังๆ AI รู้ทันใน 3 วิ ชวนคน Gen Z เปิดใจลองดื่มเอส และแบ่งปันประสบการณ์ความออซั่มในทุกสัมผัส โดยเทคนิคใช้ AI เทคโนโลยี Speech Analysis and Voice Burst Analysis ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการโฆษณาเมืองไทย มาอ่านโทนเสียงความออซั่มหลังดื่มเอส

โดยให้เซย์บอกความรู้สึก 1 คำ แล้ว AI จะอ่านผลความรู้สึกที่แท้จริงของคุณออกมา ผ่านการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับหลักจิตวิทยาให้ออกมาเป็นความรู้สึกในการดื่มเอส โดยมีเป้าหมายในการแจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ถึง 1 ล้านชิ้นตลอดปี 2567 ในประเทศไทย รวมทั้งในเอเชียที่จะออกเดินสายพร้อมกับคอนเสิร์ตในทวีปเอเชียของเจฟ ซาเตอร์  ‘est Cola Presents JEFF SATUR: SPACE SHUTTLE NO.8 ASIA TOUR’ ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วเอเชีย อีกด้วย

 

 

ผู้บริหารของเอส บอกว่า แคมเปญที่ถูกส่งออกมานั้น จะเป็นการต่อยอดจากการรับรู้แบรนด์ มาสู่การดื่มจริง รวมถึงกระตุ้นให้คนที่ดื่มอยู่แล้ว ดื่มเป็นประจำมากขึ้น โดยใช้ลูกเล่นของ AI เข้ามาช่วยสร้างสีสัน พร้อมกับดึงให้กลุ่มคนเจน Z เข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์ รวมถึงได้ทดลองดื่มเอสที่มีการปรับรสชาติและความซ่าให้ถูกใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น

ถือเป็นอีกตัวช่วยสำคัญ ที่จะทำให้เอส กลับมาสู่การเป็นแบรนด์น้ำอัดลมของคนเจน Z ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีการดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำนั่นเอง

 

  โค้ก ตอกย้ำความสำเร็จของน้ำอัดลม 0%

 

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของโค้ก ผู้นำตลาดนั้น นอกจากตัวโค้ก ออริจินัลแล้ว สิ่งที่พิเศษออกไป ก็คือ การเทน้ำหนักมาที่การทำตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล หรือน้ำอัดลม 0% ที่ยังคงมีการเติบโตค่อนข้างดี โดยมีตัวเลขเติบโตมากกว่าการเติบโตของน้ำน้ำอัดลมโดยรวม นั่นคือโตกว่า 30%

ทำให้สัดส่วนของตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล เพิ่มขึ้นจาก 3-4% ในช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น มาอยู่ที่ประมาณ 9% ซึ่งโค้กมีการเปิดตัว โค้ก ไม่มีน้ำตาล กลิ่นไลม์ หอมซ่ากลิ่นไลม์ แบบโค้กไม่มีน้ำตาล และตัวโค้ก รสเค-เวฟ รสชาติฟรุตตี้ ลิมิเต็ดใหม่ล่าสุดจากโปรเจกต์  ‘Coca-Cola Creation™’ ที่ถูกส่งเข้ามาสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลในบ้านเรา

ในรายละเอียดนั้น โค้ก ไม่มีน้ำตาล กลิ่นไลม์ เป็นการเปิดตัวที่น่าจะมาจากการนำอินไซต์ของผู้บริโภคมาเป็นตัวพัฒนาสินค้าใหม่ โดยผู้บริโภคที่แม้น้ำดำ หรือ ‘โคล่า’ จะเป็นหมวดเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในน้ำอัดลม แต่หากสำรวจลงลึกไปในกลุ่มสินค้าที่ไม่มีน้ำตาล พบว่าสินค้าในกลุ่ม Lemon-lime และรสชาติอื่นๆ สามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ดีกว่า จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดสินค้าตัวใหม่นี้

 

ขณะที่ความน่าสนใจของตัวโค้ก เคเวฟ น่าจะอยู่ที่การต่อเนื่องในเรื่องของการพัฒนาแพลตฟอร์มนวัตกรรมใหม่ ชื่อว่า ‘Coca-Cola Creations’ ต่อยอดจากแนวคิดและความเชื่อของแบรนด์ Coca-Cola ‘Real Magic’ ที่จะสร้างความร่วมมือกับบุคลากรชั้นนำจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน, ครีเอเตอร์, ช่างภาพ, เกมเมอร์, นักวาดภาพประกอบ, แพลตฟอร์มออนไลน์ ไปจนถึงพันธมิตรด้านอื่นๆ มากมาย และเชื่อมโลกแห่งความเป็นจริงและโลกเสมือนเข้าด้วยกัน

การเปิดตัว โค้ก เค เวฟ ในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่กับเหล่าศิลปิน K-POP ชื่อดังอย่าง Stray Kids, ITZY, NMIXX รวมไปถึง พัคจินยอง (J.Y. Park) ประธานและผู้ก่อตั้งค่ายเพลง JYP Entertainment พร้อมเปิดตัว Coca-Cola® Creations K-Wave ไม่มีน้ำตาล เครื่องดื่ม  ‘โค้ก’ รสชาติใหม่ ลิมิเต็ดอิดิชั่น จากซีรีส์ Coca-Cola® Creations ที่จะมอบช่วงเวลาสุดพิเศษให้แฟน ๆ และศิลปิน K-POP คนโปรดได้ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าที่เคย ผ่านรสชาติความอร่อยซ่าและความรักที่มีต่อเสียงดนตรี

 

 

ภายใต้ความร่วมมือสุดพิเศษนี้ ‘โคคา-โคล่า’ ได้ชวนเหล่าศิลปิน K-POP จากค่าย JYP Entertainment มาส่งมอบความสนุกที่น่าตื่นเต้นผ่านเพลงพิเศษพร้อมมิวสิกวิดีโอ  ‘Like Magic’ ซึ่งได้พัคจินยองนั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ของเพลงนี้ด้วยตัวเอง นับเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของเหล่าศิลปินคนโปรด เพื่อมอบความสุขตอบแทนกลับไปยังแฟนๆ ทั่วโลกที่คอยทุ่มเทมอบความรักและการสนับสนุนให้อย่างมหาศาล

จนขับเคลื่อนให้ K-POP กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก โดยเพลง ‘Like Magic’ ได้ผสมผสานทั้งเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์และสไตล์การเต้นอันโดดเด่นของศิลปินแต่ละวงที่มีความแตกต่างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมพาผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งสีสันสดใสและเพลิดเพลินไปกับท่าเต้นที่แสดงถึงความเป็น Coca-Cola® Creations K-Wave ไม่มีน้ำตาล ได้เป็นอย่างดี

เป็นอีกสีสัน ที่โค้กใส่เข้ามาในตลาดน้ำอัดลมช่วงซัมเมอร์นี้

 

  เป๊ปซี่ ปรับโลโก้

 

 

ด้านเป๊ปซี่ ในช่วงก่อนซัมเมอร์คือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่นมา มีการลุกขึ้นมาปรับลุกส์ครั้งใหญ่ ด้วยการเปลี่ยนโลโก้ใหม่ทั่วโลกในรอบ 15 ปี

ซึ่งในประเทศไทย บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด อนวัช สังขะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และลัดดาวรรณ เลิศวศิน ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาดเครื่องดื่มเป๊ปซี่ บอกว่า เป็นการปรับโลโก้ที่มีพร้อมคอนเซ็ปต์ใหม่ คือ  Thirsty For More  ‘ซ่าหน่อยมั้ย’ซึ่งเป็นอีกความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของเป๊ปซี่ในตลาดน้ำอัดลมทั่วโลก รวมถึงบ้านเรา

ในการปรับภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้ มีการนำเอาวงเกิร์ลกรุ๊ปสาว K-POP ไอดอลที่สร้างกระแสความปัง และกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์ อย่าง Baby Monster (เบบี้มอนสเตอร์) มารับบทบาทพรีเซนเตอร์น้องใหม่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเครื่องดื่มเป๊ปซี่และเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาล ซึ่งเป็นการสะท้อนความซ่า ซน สดใส ไม่หยุดทำตามแพชชั่น จากบทบาทเทรนนีสู่การเป็นตัวจริงบนเวทีที่พร้อมเดบิวต์ความซ่าครั้งใหม่ แค่เปิดเป๊ปซี่ ก็พร้อมซ่า! ชวนเหล่า Gen-Z ให้ออกไปซ่ากันหน่อยมั้ยแบบไม่หยุด พร้อมสนุกกับเรื่องราวใหม่ๆ อีกมากมาย

 

 


“ในปีนี้ เป๊ปซี่พร้อมพาทุกคนสู่ความซ่าครั้งใหม่ ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้มีความยูนีคและเข้ากับยุคสมัยในสไตล์ที่แตกต่าง สร้างภาพจำสู่การเป็น Iconic Brand into the New Era ผ่านการปรับรูปแบบโลโก้เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งเป็นการนำโลโก้เดิมช่วงปี 1990 ที่เป็นภาพจำอันโดดเด่นของเรามาปรับโฉมให้มีความซ่า เท่ ทันสมัย สนุกสนาน และขี้เล่นมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่ของเป๊ปซี่แบบทรงพลังและแข็งแกร่ง

โดยออกแบบเป็นลูกโลกทรงกลม (Iconic Globe) และเส้นโค้งลายคลื่นที่เราคุ้นเคยในสไตล์ Back to Basic มาพร้อมเฉดสีซิกเนเจอร์อย่างขาว แดง และน้ำเงิน Electric Blue อันเป็นเอกลักษณ์ โดยด้านในเป็นคำว่า PEPSI ที่เปลี่ยนแบบตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด และมีสีสันที่แตกต่างจากเดิม รวมถึงเพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้สีดำมาตัดเส้นขอบให้โลโก้โดดเด่นสะดุดตา

สอดคล้องกับทิศทางของเราที่ต้องการให้ความสำคัญกับเป๊ปซี่ไม่มีน้ำตาล อย่างจริงจัง พร้อมปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากสีน้ำเงินโทนสว่าง ให้เป็นสีน้ำเงินในโทนที่เข้มขึ้น”


 

ถือเป็นอีกการปรับภาพลักษณ์ใหม่ เพื่อขับเคลื่อนให้แบรนด์เป๊ปซี่ ยังคงเป็นทางเลือกแรกๆ ของคอน้ำอัดลม และจะเป็นอีกการสู้ศึกน้ำอัดลมที่ส่อแววคึกคักมากขึ้นในการชิงชัยตลาดซัมเมอร์นี้....

[อ่าน 7,710]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SCB EIC ชี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย จะผ่านจุดต่ำสุดช่วงครึ่งหลังของปีหน้า
Seamless Living, One Tap Away: How Meituan Powers the Lazy Lifestyle
สร้าง Personal Branding อย่างไรให้ปัง
Technology: The Ultimate Life-Hack or The Ultimate Laziness Trap ?
Freshket: The Lazy Entrepreneur's Best Friend for Restaurant Success!
เจาะลึกบทบาทผู้ผลิตไฟฟ้า เมื่อโลกเกิดภัยพิบัติ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved