สัญญาณความปั่นป่วนใน Tesla ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแจ้งพนักงานว่าจะปลดพนักงานออกมากกว่า 10% เพื่อลดต้นทุน และมีผู้บริหารระดับสูงสองคนลาออก
Tesla วางแผนปลดพนักงานกว่า 10%
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ได้แจ้งพนักงานเกี่ยวกับแผนการปลดพนักงานกว่า 10% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
การปลดพนักงานราว 14,000 ตำแหน่งเกิดขึ้นในขณะที่ Tesla เผชิญการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นและยอดขายที่ลดลง การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารและการเลิกจ้างครั้งนี้ เป็นการย้ำถึงความคาดเดาได้ยากของ Elon Musk ซีอีโอ Tesla ในช่วงเวลาสำคัญของบริษัท
นอกจากนี้ผู้บริหารระดับสูงอีกสองคนคือ Drew Baglino และ Rohan Patel ได้ประกาศลาออกจากบริษัทในวันเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้หุ้นของ Tesla ปิดตัวลดลงกว่า 5% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
การปลดพนักงานครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของพนักงานและความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม Musk ชี้แจงว่า การปรับโครงสร้างองค์กรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในระยะต่อไป โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และรถยนต์ไร้คนขับ
Tesla เผชิญความท้าทายจากตลาดที่ชะลอตัว
ในไตรมาสแรกของปี 2024 Tesla รายงานตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 สะท้อนถึงตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มอิ่มตัว โดยเฉพาะในจีนที่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ Tesla ต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรง
การชะลอตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย เช่น ราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ยังสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จ และความกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับระยะทางที่วิ่งได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ตามกระแสความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ
ขณะที่คู่แข่งอย่าง BYD จากจีน, BMW จากเยอรมนี และ Hyundai และ Kia จากเกาหลีใต้ ต่างรายงานตัวเลขขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในช่วงเดียวกัน สวนทางกับ Tesla ที่มียอดขายลดลง บริษัทเหล่านี้กำลังลงทุนสร้างสายการผลิตใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ รวมถึงหาช่องทางขายใหม่ๆ เพื่อตอบโต้กลยุทธ์ออนไลน์ของ Tesla
Tesla วางกลยุทธ์มุ่งสู่ตลาดกลางและรถยนต์ไร้คนขับ
Tesla วางแผนที่จะพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ในราคาที่ถูกลง เพื่อเจาะตลาดระดับกลางและขยายฐานลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ Tesla เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้นและรักษาความสามารถในการแข่งขัน
นอกจากนี้ Tesla ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับหรือ Robotaxi ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้
หากเทคโนโลยี Robotaxi ประสบความสำเร็จ จะเป็นการปฏิวัติวงการขนส่งและสร้างรายได้มหาศาลให้กับ Tesla อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์มองว่ายังมีความท้าทายทางเทคนิคและข้อกำหนดทางกฎหมายที่ต้องจัดการ กว่าเทคโนโลยีนี้จะนำมาใช้ได้จริงอาจต้องใช้เวลาอีกพอสมควร
Tesla เผชิญความท้าทายในจีน
ในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก Tesla เผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ จำนวนรถยนต์ Tesla ทั้งที่ผลิตและจำหน่ายภายในประเทศจีนลดลงติดต่อกันสองไตรมาสเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจีน
การที่ผู้จัดการระดับสูงใน Tesla ประเทศจีนถูกขอให้จัดอันดับประสิทธิภาพการทำงานของสมาชิกในทีม เพื่อระบุตำแหน่งงานที่สำคัญ อาจสะท้อนถึงความพยายามของ Tesla ในการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสภาวะการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป
จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น จะเห็นได้ว่า Tesla กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในครั้งนี้ เป็นความพยายามของ Tesla ในการปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายใหม่ๆ ทั้งจากตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป คู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
หาก Tesla สามารถบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ก็น่าจะยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้ต่อไปในอนาคต