ปัจจุบัน แนวคิดรักษ์โลกไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ที่เพียงถูกยกมาพูดถึง แต่ได้กลายเป็นโรดแมปหลักในการทำธุรกิจ และ “บรรจุภัณฑ์” ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ห่อหุ้มสินค้าให้สวยงาม แต่ยังต้องเพิ่มโจทย์คิดเพื่อโลกมากยิ่งขึ้น นับเป็นโจทย์ใหม่ที่สร้างการเปลี่ยนขนานใหญ่ให้กับตลาดแพ็กเกจจิ้ง “เอกา โกลบอล” เจ้าตลาดบรรจุภัณฑ์แห่งอนาคตที่มีนวัตกรรมยืดอายุอาหารเบอร์ใหญ่ระดับท็อป 5 ของโลก เป็นหนึ่งตัวอย่าง “บรรจุภัณฑ์” ทำเพื่อโลก และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ประกอบการผู้ผลิตอาหารพร้อมทาน (Ready-to-Eat) และอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม (Pet-Food) มากว่า 20 ปี
ชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) แบรนด์คนไทยที่ประสบความสำเร็จระดับโลก เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมช่วยยืดอายุอาหารทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึงหลักหลายหมื่นล้านบาท
และด้วยกระแสเมกะเทรนด์รักษ์โลกเพื่อความยั่งยืนที่เพิ่มระดับความเข้มข้นสูงขึ้น ล่าสุด ตลาดโลกได้เพิ่มข้อกำหนดอัตราส่วนที่สินค้าจะต้องรีไซเคิลได้ และมีข้อบังคับให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะต้องติดฉลาก หรือ QR Code บอกวิธีการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ หรือ How To Recycle ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์โลกนับเป็นโจทย์ใหญ่สำคัญที่ผู้ประกอบจำเป็นจะต้องเร่งเตรียมพร้อมรับมือ
ทั้งนี้ บริษัทฯ เอง ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจในวิถีความยั่งยืน (Sustainable Growth) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตั้งแต่กระบวนการวิจัยและพัฒนา (R&D) การออกแบบแพคเกจจิ้งที่สวยงาม ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โดยตลอดการดำเนินธุรกิจกว่า 20 ปี แพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหารของเอกา โกลบอล สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% นับเป็นหนึ่งความสำเร็จของเอกา โกลบอล ที่สามารถยกมาตรฐานแพ็กเกจจิ้งรักษ์โลก ช่วยลดการใช้พลาสติก ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ายกระดับความยั่งยืนให้เข้มข้นยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นโซลูชั่นให้เจ้าของแบรนด์อาหารที่ต้องการเพิ่มมูลค่าได้มีทางเลือก ล่าสุด บริษัทฯ สามารถผลิตแพ็กเกจจิ้งที่เป็น “กรีนโปรดักส์” ได้อีก 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่ม Bioplastic (PLA) ที่ผลิตจากวัตถุดิบส่วนหนึ่งจากธรรมชาติ เช่น มันสัมปะหลัง ข้าวโพด หรือ อ้อย ฯลฯ กลุ่ม Biodegradable ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และสุดท้ายแพคเกจจิ้งที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) หรือ เรซิน รีไซเคิล
ส่วนแนวโน้มตลาดแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหาร นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากทิศทางการขยายตัวของการบริโภคตัวทั่วโลกในกลุ่มอาหารพร้อมทาน และอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม ส่งผลให้ธุรกิจแพ็กเกจจิ้งมียอดขายที่เติบโตตามไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหารที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากจากบริษัทผู้ผลิตอาหารที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัยขั้นสูง และมองหาแพ็กเกจจิ้งที่ตอบโจทย์การเก็บรักษาคุณภาพอาหารโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็นได้นานถึง 2 ปี โดยที่ สีและรสชาติอาหารไม่เปลี่ยน
“บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร นับว่าตอบโทย์เทรนด์ตลาดโลก ทั้งเทรนด์ความยั่งยืน เทรนด์รักน้องหมาน้องแมว หรือแม้แต่เทรนด์ผู้สูงอายุ นับเป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนกระป๋อง ที่มีคุณสมบัติเก็บรักษาอาหารแบบเดียวกัน แต่มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สวยงามกว่า และมีความสะดวก ง่ายต่อการใช้งานมากกว่า จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ และผู้ประกอบที่ต้องการเพิ่มแวลู่ให้กับสินค้า”
ทั้งนี้ จากทิศทางการเติบโตดังกล่าวทำให้ในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 30 – 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ความสำเร็จของ “เอกา โกลบอล” มาจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่เน้นการแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค และสนับสนุนผู้ประกอบการให้เติบโตสามารถส่งสินค้าไปขายในต่างประเทศด้วยนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำงานร่วมกับบริษัทผู้ผลิตอาหารมาอย่างต่อเนื่องในการพัฒนานวัตกรรมแพคเกจจิ้ง เพื่อให้ได้สินค้าที่ตรงกับโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างสูงสุด มีดีไซน์ทันสมัย
ภายใต้แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่เน้นเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันไม่ว่าจะเป็น คุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย ผ่านการลงทุนงานวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค ด้วยมาตรฐานการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก อาทิ ISO 9001 : 2015, FSSC 22000, GMP/HACCP
ด้านนวัตกรรมและดีไซน์แพ็กเกจจิ้ง เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการส่งมอบคุณค่าไปสู่อุตสาหกรรมปลายน้ำด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น และการบรรจุแบบดัดแปรบรรยากาศ (Modified Atmosphere Packaging) หรือ MAP เทคนิคการถนอมอาหาร (Food Preservation) ที่นำมาใช้ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาอาหารสด หรือ อาหารที่แปรรูปขั้นต่ำ และมีน้ำหนักเบา สะดวกแก่การขนส่งระยะทางไกล หรือ สินค้าส่งออกไปต่างประเทศ และสามารถนำมาบรรจุอาหารได้หลากหลาย อาทิ ขนมหวาน อาหารพร้อมรับประทาน อาหารเด็ก ผักและผลไม้ เป็นต้น รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet-Food) โดยมีรูปทรงบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและหลากหลายมากกว่า 80 แบบ
นอกจากนี้ การเติบโตของบริษัทฯ ยังมาจากการเพิ่มขีดความสามารถด้านการตลาด และขยายการลงทุนไปในตลาดที่มีศักยภาพสูง ล่าสุด ได้ขยายฐานผลิตและการลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย จากเดิมที่ “เอกา โกลบอล” มีโรงงานในประเทศไทย 1 แห่ง ประเทศจีน 2 แห่ง และสำนักงานขายในอินเดีย 1 แห่ง
“โรงงานใหม่ที่อินเดีย มีกำลังการผลิตราว ๆ 300 – 350 ล้านใบต่อปี หรือ คิดเป็น 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตที่โรงงานไทย โดยในเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เราได้เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะเน้นการขายภายในเป็นหลัก และถือเป็นไลน์การผลิตแพ็กเกจจิ้งสำหรับสินค้าใหม่ คือ กลุ่มอาหารประเภท สแน็ค ขนมหวาน” ชัยวัฒน์ กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการอาหารพร้อมทาน อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม และผู้สนใจที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์สินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ “เอกา โกลบอล” เปิดให้สัมผัสประสบการณ์จากผู้นำตลาดแพ็กเกจจิ้งยืดอายุอาหารแบรนด์คนไทยที่ประสบความสำเร็จบนเวทีโลก พร้อมนำทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาฟรี
พบกันได้ที่งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดแห่งเอเชียแปซิฟิก : THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 ณ บูธเลขที่ TT45 ฮอลล์ 1 ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2567 ที่ อิมแพค เมืองทองธานี