ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ติดเครื่องกระตุ้นเศรษฐกิจและอสังหาฯ ร่วมพลิกโฉมขอนแก่นสู่ฮับการศึกษา-การแพทย์ของภาคอีสานและอาเซียน หลังได้รับกระแสตอบรับยอดเยี่ยม กวาดยอดขายเฉลี่ยกว่า 70% ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ตลาดคอนโดในจังหวัด เดินหน้าก่อสร้าง 2 คอนโด ดิ ออริจิ้น แคมปัส ขอนแก่น-ออริจิ้น เพลส ขอนแก่น-กัลปพฤกษ์ ตามแผนงานต่อเนื่อง รวมมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท แย้มเตรียมแผนพัฒนาเมืองในภาคอีสานต่อเนื่องช่วงครึ่งปีหลัง 2567 พร้อมมีแผนร่วมสร้างอสังหาฯประเภทต่างๆ ในขอนแก่นต่อเนื่อง

ประเสริฐกุล เจริญทวีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า

จ.ขอนแก่น ถือเป็นดินแดนทองคำแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเมืองความเจริญทางเศรษฐกิจที่มีประชากรหลักกว่า 1.8 ล้านคน และยังมีแผนเติบโตอย่างต่อเนื่องหลากหลายด้าน อาทิ การเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา (Education Hub) ของภาคอีสาน มีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ มีนักศึกษา มากกว่า 37,000 คนต่อปี บุคลากรทางการศึกษาอีกกว่า 11,500 คน

ขณะเดียวกัน ขอนแก่นยังมีแผนพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ของภาคอีสาน และหนึ่งในศูนย์กลางทางการแพทย์ของอาเซียน โดยมีโรงพยาบาลชั้นนำและโรงพยาบาลขนาดใหญ่ระดับประเทศ อาทิ โรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีจำนวนเตียงรองรับมากกว่า 6,900 เตียง พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์กว่า 1,700 คน

การเติบโตดังกล่าว ส่งผลให้ จ.ขอนแก่น มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทในช่วงปี 2562-2565 เติบโตขึ้นเฉลี่ยปีละ 10-15% พื้นที่โดยรอบมหาวิทยาลัยกลายเป็นชุมชนหนาแน่น มีความต้องการแหล่งไลฟ์สไตล์และที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง คอนโดมิเนียมและหอพักรอบมหาวิทยาลัย มีอัตราการเช่า (Occupancy Rate) ในช่วงปี 2562-2565 สูงถึง 85-95% ค่าเช่าคอนโดมิเนียมเฉลี่ยอยู่ที่ 9,000-10,000 บาท

“เรามองเห็นแล้วว่า ขอนแก่นเป็นเมืองศักยภาพ จึงได้ทำงานใกล้ชิดร่วมกับหอการค้าขอนแก่น เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในขอนแก่นให้คึกคัก พัฒนาเมืองให้พร้อมรองรับการเป็น Education Hub และ Medical Hub ในปีที่ผ่านมา เราจึงได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในขอนแก่นถึง 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1,600 ล้านบาท ได้แก่ ดิ ออริจิ้น แคมปัส ขอนแก่น เพื่อตอบโจทย์นักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัย และออริจิ้น เพลส ขอนแก่น-กัลปพฤกษ์ ตอบโจทย์โซนการอยู่อาศัยของบุคลากรทางการแพทย์ เราได้รับการตอบรับจากทั้ง 2 โครงการอย่างยอดเยี่ยม มียอดขายสะสมเฉลี่ยกว่า 70% กลายเป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมในจังหวัด เรายังเลือกใช้ผู้รับเหมาก่อสร้างระดับประเทศอย่างวิศวภัทร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ โดยเริ่มก่อสร้างดิ ออริจิ้น แคมปัส ขอนแก่น แล้วตามแผนงาน” นายประเสริฐกุล กล่าว

ประเสริฐกุล กล่าวอีกว่า ภาพรวมการเปิดคอนโดมิเนียมของเครือออริจิ้นในปีนี้ ให้ความสำคัญกับตลาดต่างจังหวัดค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีความต้องการอยู่อาศัยจริง มีการแข่งขันน้อยกว่าพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยฝั่งคอนโดมิเนียมมีแผนเปิดโครงการในต่างจังหวัดถึงราว 47% ของแผนการเปิดคอนโดมิเนียมทั้งปี 20,000 ล้านบาท ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ยังมีแผนจะเปิดตัวโครงการในหลายจังหวัดศักยภาพของภาคอีสาน

ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการร่วมพัฒนาเมืองขอนแก่นให้เป็นศูนย์กลางทางการศึกษาและศูนย์กลางทางการแพทย์ตามเป้าหมาย โดยยังมีแผนพิจารณาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ในเมืองขอนแก่นเพิ่มเติม คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้เร็วๆ นี้

สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย

1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 158 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 247,795 ล้านบาท

2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก

3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์

4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร