“เสม็ดนางชี” ชื่อนี้กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน ด้วยฉากของธรรมชาติที่สวยงาม และชวนให้ตกหลุมรักได้ง่ายๆ นั่นทำให้ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยต่างใส่ชื่อ “เสม็ดนางชี” ไว้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนให้ได้สักครั้งถ้ามีโอกาส
แน่นอนว่า เราเองก็ไม่ยอมพลาดเช่นกัน เมื่อโอกาสมาถึงก็ได้เวลาเก็บกระเป๋าไปสัมผัสความงามของเสม็ดนางชีด้วยตาตัวเอง
การเดินทางครั้งนี้ เราใช้บริการของสายการบินไทยเวียตเจ็ท จากสุวรรณภูมิไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ต ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น แต่จากสนามบินภูเก็ตเราต้องเดินทางต่อไปอีกราวๆ 50 กิโลเมตร เพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง
“รถเช่า” คือคำตอบ เพราะดูทรงแล้วน่าจะสะดวกสบายที่สุด เราจึงเลือกใช้บริการรถเช่าจาก “SixT rent a car” ซึ่งมีรถให้เลือกหลายรุ่น หลายราคา โดยทำการจองมาก่อนล่วงหน้าแล้ว ซึ่งวิธีการรับรถก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแค่มี บัตรประชาชน, บัตรเครดิต และ ใบขับขี่ ก็สามารถเช่ารถได้แล้วหลังจากลงจากเครื่อง ออกประตูสนามบินแล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเจอกับเคาเตอร์ ของ “SixT rent a car” ที่อยู่ใกล้ๆ และ หลังจากกรอกเอกสารที่เคาเตอร์เสร็จสรรพ เจ้าหน้าที่ก็พาเดินไปยังรถที่จอดรออยู่ทริปนี้เราได้รถ Honda Civic 1.5 Turbo มาเป็นเพื่อนร่วมทางตลอด 3 วัน 2 คืน
ออกจากสนามบินแล้วก็แวะเติมพลังกันเสียหน่อย มาถึงภูเก็ตทั้งที ก็ต้องลิ้มลองเมนูอาหารยอดฮิตของคนภูเก็ตอย่าง “ขนมจีน” เสียหน่อย ขับรถออกมาไม่ไกลมากนัก เราก็เจอกับร้าน “ขนมจีนอาอี๊” ที่มีน้ำแกงขนมจีนให้เลือกหลากหลาย
ทั้งน้ำยาปลา น้ำยาปู แกงไตปลา แกงเขียวหวาน น้ำพริก พร้อมผักแนมที่ทางร้านขนมาให้สายชอบกินผักถึง 15 อย่างกันเลยทีเดียว
แต่นอกจากสารพัดน้ำยาและขบวนผักแนมแล้ว ที่ร้านยังมี ไก่ทอด ทอดมัน และห่อหมกไว้กินเพลินๆ คู่กับขนมจีนอีกด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าอร่อยไม่แพ้กัน โดยเฉพาะห่อหมกที่หอมกลิ่นเครื่องแกงเบาๆ เนื้อนวลเนียนแบบละลายในปาก ที่สำคัญราคายังน่ารักน่าคบอีกด้วย ใครไปแล้วต้องกระซิบบอกเลยว่า “ห้ามพลาด” หลังจากอิ่มหนำสำราญกับขนมจีนกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาขับรถมุ่งหน้าไปยัง “เสม็ดนางชี” จุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้
“เสม็ดนางชี” ตั้งอยู่ที่บ้านหินร่ม ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร สองข้างทางที่มุ่งสู่เสม็ดนางชีร่มรื่นเพราะแวดล้อมสวนยาง ปาล์ม และต้นไม้นานาชนิด แถมถนนก็สภาพดี บวกกับสมรรถนะของรถด้วยแล้ว ขับเพลินๆ ก็มาถึงที่หมายแบบไม่รู้ตัว
ในย่านเสม็ดนางชีมีที่พักให้เลือกหลายที่หลากสไตล์ สำหรับเราเลือกพักที่ “บียอนด์ สกายวอล์ค นางชี รีสอร์ท” (Beyond Skywalk Nangshi) ที่พักแห่งใหม่ล่าสุดในย่านนี้ ที่มี Skywalk ทางเดินพื้นกระจกลอยฟ้าเป็นไฮไลต์ โดย Skywalk ที่ว่านี้สามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 500 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ด้วยความยาว 180 เมตร และสูงจากระดับน้ำทะเล 80 เมตร กระจกสามชั้นหนา 30 มม. โอบล้อมด้วยวิวทะเลอันดามันและเทือกเขาเสม็ดนางชีที่สวยแบบน่าทึ่ง
สำหรับแขกที่พักในรีสอร์ทจะสามารถเดินชมวิวบน Skywalk ได้ตามต้องการ ส่วนนักท่องเที่ยวภายนอกทางรีสอร์ทมีแพ็กเกจขึ้น Skywalk ในราคา 500 บาท รวมอาหารและเครื่องดื่มมูลค่า 300 บาท โดยเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น.
ในส่วนของห้องพักก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งเต็นท์วิวทะเล (Seaview Tent) เต็นท์กลางป่า (Forest Tent) วิลล่าวิวทะเล หรือวิลล่าแบบหนึ่งห้องนอน ที่ไต่ระดับไปตามเนินเขา และทุกห้องต่างมีวิวเสม็ดนางชีเป็นของตัวเอง ซึ่งพวกเราเลือกที่พักแบบเต็นท์วิวทะเล แต่เป็นเต็นท์ที่ไม่เหมือนเต็นท์แบบทั่วไป เพราะสะดวกสบาย สวยงาม แอร์เย็นฉ่ำ ได้อารมณ์นอนเต็นท์ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติแต่ไม่ลำบาก
นอกจากที่พักและ Skywalk แล้ว ทางรีสอร์ทยังมีร้านอาหารอย่าง Horizon ที่เสิร์ฟทั้งอาหารแสนอร่อยอย่างขนมจีนน้ำยาปู หมี่สั่วกุ้ง รวมถึงอาหารจานเด็ดอื่นๆ และเสิร์ฟทั้งวิวแสนสวย เรียกว่าอิ่มทั้งตาและอิ่มทั้งพุงกันไปเลยทีเดียว แต่ถ้าใครไม่อยากทานอาหารหนัก ทางรีสอร์ทก็มีคาเฟ่บรรยากาศสบายๆ อย่าง Kanda Coffee & Bakery ไว้คอยบริการ
รอบๆ ที่พักเป็นชุมชนมุสลิมที่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและมีเสน่ห์ อย่าง “บ้านหินร่ม” อีกทั้งยังมีจุดชมวิว ท่าเรือ ร้านอาหารทะเล และพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเราสามารถขับรถไปสำรวจหรือจะเดินเล่นก็เพลินไปอีกแบบ หรือจะนั่งเรือหางยาวไปยังเกาะใกล้เคียง อย่าง เกาะเจมส์บอนด์ เกาะห้อง เกาะพนัก เกาะปันหยี ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจเช่นกัน
เราใช้เวลาไปกับการพักผ่อน ชมความงามเสม็ดนางชี และสำรวจชุมชนรอบๆ ที่พักเป็นหลัก เผลอแป๊บเดียวทริปเสม็ดนางชี 3 วัน 2 คืนของเราก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต้องเก็บกระเป๋ากลับกรุงเทพฯ ซะแล้ว แต่ก่อนกลับเราถือโอกาสขับรถแวะเข้าไปในย่านโอลด์ทาวน์ของภูเก็ตเพื่อเก็บภาพมุมอาร์ตๆ ไว้เป็นที่ระลึกกันเสียหน่อย ก่อนที่จะนำรถไปคืนที่สนามบินและขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ
แม้จะเป็นทริปสั้นๆ แต่ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ แค่นี้ก็ช่วยฮีลใจเราได้เยอะ และทำให้พร้อมที่จะกลับมาสู้งานกันอีกรอบ แต่ถ้ามีโอกาสเราก็พร้อมจะกลับมาเยือน “เสม็ดนางชี” อีกครั้งอย่างแน่นอน
สำหรับทริปนี้ขอขอบคุณ “SixT rent a car” อำนวยความสะดวกจนถึงจุดหมายปลายทางแห่งนี้
SIXT Rent A Car
รถเช่าทั่วไทย โทร.1798
Facebook: SixT
Line: SixT Thailand
Instagram: sixt_thailand
www.sixtthailand.com | ตรวจสอบสาขาใกล้ที่สุดได้ที่ sixtthailand.com/branch