สตาร์ทอัพไทย ยืนยัน “ESG” คือกลยุทธ์แห่งองค์กรเติบโตยั่งยืน หลังผ่านโครงการ "ESG to Capital for Tech Entrepreneurs" หลักสูตรหนึ่งเดียวในไทยจาก AIS The StartUp
ดร.ศรีหทัย พราหมณี ผู้จัดการด้าน AIS The StartUp เปิดเผยว่า กว่า 3 เดือน ของหลักสูตร “ESG to Capital for Tech Entrepreneurs” ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตรเดียวในไทยที่ถูกออกแบบเพื่อ Tech Start Up โดยเฉพาะ พบว่าผู้ประกอบการสตาร์ทอัพกว่า 91 คน จาก 38 บริษัท จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็น Waste Management and Energy Saving, Service and On-demand Economy, Digital Contents and Media Partner, Enterprise Solutions, HR and Freelance Solutions และ Travel Tech & MICE ต่างสะท้อนว่าหลักสูตรดังกล่าวเป็นองค์ความรู้ที่จำเป็นอย่างมากในการนำพาองค์กรให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
“ที่สำคัญคือนำไปใช้ได้จริง และเสริมมุมมองโดยเฉพาะด้านธรรมาภิบาล หรือ Governance ได้อย่างตอบโจทย์ ทั้งนี้ผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการได้มีการเริ่มนำความรู้ที่ได้ไปบูรณาการกับแผนงานด้านกลยุทธ์องค์กร เพื่อการเติบโตของธุรกิจแบบระยะยาว รวมไปถึงยังนำไปปรับปรุงการประเมินความเสี่ยง ESG ในการดำเนินงานองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย”
ทั้งนี้ โครงการ “ESG to Capital for Tech Entrepreneurs” ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรจากองค์กรต่างๆ เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และสมาคมสตาร์ทอัพไทยที่มาร่วมแบ่งปันความรู้และแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
โดยกิจกรรมในโครงการนี้ประกอบด้วย Coursework เพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจที่ถูกต้องในหลักการ ESG, ESG Clinic เพื่อเจาะลึกเฉพาะถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจของแต่ละบริษัท และ Showcase ที่แสดงให้เห็นถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักการ ESG เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
“เราเชื่อมั่นว่า ESG จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้สตาร์ทอัพนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนธุรกิจเพื่อให้สามารถเผชิญกับความท้าทายในโลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ อีกทั้งสามารถสร้างความแตกต่างที่มีคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน เพราะสร้างสมดุลกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนได้อย่างเหมาะสม
ซึ่งในนามของ AIS The StartUp เรายืนยันจะเดินหน้าสนับสนุนและร่วมมือกับสตาร์ทอัพไทยอย่างต่อเนื่องทั้งองค์ความรู้และเทคโนโลยี เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างประโยชน์แก่ประเทศในท้ายที่สุด”