“ฟอร์จูนคลินิก โดย หมอตี้” ชูเทคนิคร้อยไหม 2 ทิศทาง ดึงหน้าโดยไม่ผ่าตัดศัลยกรรม เจ็บช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลหลังทำทันที
นพ.นฤป แซ่ลี้ หรือหมอตี้ แพทย์และผู้บริหารฟอร์จูนคลินิก โดยหมอตี้ กล่าวว่า ฟอร์จูนคลินิก เป็นคลินิกเสริมความงามปรับรูปหน้า ย้อนวัย ร้อยไหม ฟิลเลอร์ จากแพทย์ที่มีประสบการณ์และฝึกร้อยไหมด้วยเทคนิคต่างๆ จนคิดค้นเทคนิคการร้อยไหมด้วยตนเองได้ เรียกว่าเทคนิค “Double Facelock” ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของทางคลินิกที่ใช้การร้อยไหม 2 ทิศทาง มาผสานกันเพื่อให้เกิดแรงดึงยกที่ดี และใบหน้ายกอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลลัพธ์เทียบเคียงกับการผ่าตัดศัลกรรมดึงหน้าแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย แก้ปัญหาโหนกใหญ่หลังร้อย ที่เป็น pain point หลักของคนที่ร้อยไหมไม่ชำนาญ เน้นการออกแบบทิศทางการร้อยไหมเฉพาะบุคคล เจ็บช้ำน้อยตั้งแต่กระบวนการฉีดยาชา ซึ่งมีการทายาชา ประคบเย็นและฉีดยาชาด้วยเทคนิคเข็มทู่ ทำให้ผิวหนังบาดเจ็บน้อย ย้อนวัยเห็นผลหลังทำทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น โดยตรงจุดนี้ถือเป็นความโดดเด่นของการร้อยไหมที่มีความแตกต่างจากวิธีของคลินิกทั่วไป ที่ใช้เข็มแหลมทำให้มีโอกาสเกิดรอยช้ำสูง
อย่างไรก็ตาม จากการที่ธุรกิจความสวยความงามมีการแข่งขันสูง ส่งผลให้ในปัจจุบันคลินิกมีโปรโมชันส่งเสริมการขายมากมาย ดังนั้น หากผู้บริโภคเลือกไปตามโปรโมชันแต่ละที่โดยไม่ศึกษารายละเอียดให้ดีอาจได้ผลลัพท์ที่ไม่ได้ตามใจหวัง ซึ่งการร้อยไหมให้ผลลัพธ์ที่ดีมาจาก 2 สาเหตุหลัก
“เทคนิค Double Facelock ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของทางคลินิกที่ใช้การร้อยไหมด้วยการทำหัตถการที่เล็กลง ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ได้น่ากลัว แต่ผลลัพธ์ดีเกินคาด โดยที่ผมทำหัตถการเอง และให้คำปรึกษาออกแบบใบหน้าให้ผู้บริการเองทุกเคสจึงทำให้เกิดมาตรฐานที่ดี ทำให้เราเป็นที่ยอมรับในคุณภาพและมาตรฐานมาจนถึงปัจจุบัน
มั่นใจการันตีเคสรีวิวร้อยไหมมากที่สุดอันดับ 1 ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้เป็นจำนวนมากที่เริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่ต้องการย้อนวัย ทำให้มีการบอกต่อปากต่อปากถึงคุณภาพ และราคาที่เป็นมิตรเหมาะสม โดยมีการนำไหมและยาต่างๆ เข้ามาหลากหลายตรงจากบริษัท ในราคาที่คุ้มค่ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริการของเรา”
ผู้ที่สนใจใช้บริการร้อยไหมด้วยเทคนิค Double Facelock กับทางฟอร์จูนคลินิก รับไปเลยโปรโมชันราคาเริ่มต้น 4 เส้น เพียง 2,999 บาท (ปัญหาแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินจำนวนเส้นไหมที่ใช้ และแนวทางการรักษาอื่นร่วม)