“ดีวานา” (divana) ย้ำความเป็นโมเดลธุรกิจยั่งยืน เปิดตัว Phenomenon Collection กลิ่น “Revital Moss Garden” ปลุกความสดชื่น คืนพลังให้ชีวิต ดั่งมอสที่ปกคลุมผืนป่า
ทั้งนี้ การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) คือแนวทางการพัฒนาที่มีองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การเติบโตทางเศรษฐกิจ (economic growth) ความครอบคลุมทางสังคม (social inclusion) และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (environmental protection) ซึ่งมีการร่วมลงนามรับรองวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 (2030 Agenda for Sustainable Development) โดยกำหนดให้มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เป็นแนวทางให้แต่ละประเทศดำเนินการร่วมกัน
และในฐานะผู้นำด้านสปาสุขภาพความงามและผลิตภัณฑ์เครื่องหอมแบรนด์ไทยที่ได้รับการยอมรับในตลาดระดับสากล ซึ่งเชื่อในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และมุ่งมั่นก้าวสู่ความเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืน โดยเน้นการทำธุรกิจภายใต้คอนเซ็ปต์ “divana foster longevity : to make humans live longer, healthier, and happier” ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้คุณค่ากับความยั่งยืน ด้วยการคัดสรรพลังมหัศจรรย์จากธรรมชาติ แต่ยังนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ล่าสุดได้เปิดตัว “Revital Moss Garden” กลิ่นแรกจากคอลเลกชัน “Phenomenon Collection - The Marvelous Nature” ที่พร้อมนำพาไปสัมผัสกับปรากฏการณ์ธรรมชาติทั้ง 8 ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตด้วยพลังมหัศจรรย์จากธรรมชาติ โดยมีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), ปวริศา เพ็ญชาติ, ขวัญข้าว เศวตวิมล, ณิชชา บุณยากร, ดร.ภาดาภัสสรณ์ ภาดาพิลาสธานันทร์ และประภาพรรณ ธีระพันธุ์
ทั้งนี้ จุดเด่นของ Revital Moss Garden คือความมหัศจรรย์ของกลิ่นหอมที่สกัดจากธรรมชาติด้วยส่วนผสมของหญ้ามอสสีเขียว เปลือกยูคาลิปตัส และก้านดอกลาเวนเดอร์ ที่ชวนให้รู้สึกได้ถึงความสงบและสดชื่น ช่วยฟื้นฟูจิตวิญญาณให้กลับมามีชีวิตชีวา เหมือนดั่งผืนมอสที่ปกคลุม และสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าได้อย่างมหัศจรรย์
ธเนศ จิระเสวกดิลก ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท ดีวานา โกลบอล จำกัด กล่าวว่า ดีวานามุ่งมั่นในการทรานส์ฟอร์มแบรนด์สู่ความเป็น SUSTAINABLE LUXURY หรือการสร้างคุณค่าแห่งความยั่งยืน ด้วยการนำเสนอผ่าน 3 คุณค่าหลักของดีวานา ได้แก่ สุขภาพ (Wellness) ธรรมชาติ (Natural) และการบริการ (Hospitality) โดยนิยามความยั่งยืนที่สร้างคุณค่าของดีวานา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การนำเสนอประสบการณ์ผ่านคุณค่าที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ และงานบริการเท่านั้น
แต่ครอบคลุมไปถึงวิธีคิดที่เคารพในตัวตน ให้เกียรติคนรอบข้าง รวมถึงการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย พร้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ เพื่อสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งยังส่งเสริมการหมุนเวียน กระตุ้นให้เกิดการลด (Reduce), การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) การนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) รวมถึงการเพิ่มมูลค่าให้วัสดุก่อนจะกลายเป็นขยะ (Upcycling)
“ภารกิจของดีวานาจากนี้ นอกจากการใช้วัตถุดิบ plant-based ที่ปลอดภัยและมากคุณค่า ยังรวมถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลก โดยตั้งใจว่าภายในปี 2030 ดีวานาจะปรับใช้วัสดุให้สามารถนำมารีไซเคิลได้ทั้งหมด และยกเลิกการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2035
พร้อมวางแนวทางปฏิบัติ (Code of Conduct) เพื่อให้มั่นใจว่าตลอดทั้ง Supply Chain ของแบรนด์ มีเป้าหมายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และตอนนี้ได้เริ่มดำเนินโครงการรับคืนบรรจุภัณฑ์ของดีวานา เพื่อส่งกลับไปยังโรงงานรับรีไซเคิล โดยลูกค้าสามารถส่งคืนผ่านดีวานา หรือส่งให้กับทางโรงงานได้โดยตรง”
นอกจากนี้ดีวานายังจะสร้างแนวทางที่ยั่งยืนมุ่งเน้น ESG ด้วยยุทธศาสตร์ 4 ลด 4 เพิ่ม ได้แก่ ลดการใช้ไฟฟ้า, ลดการใช้น้ำ, ลดการสร้างขยะ และลดการปล่อยคาร์บอน ควบคู่ไปกับหลัก 4 เพิ่ม ได้แก่ เพิ่มแนวคิดและวัสดุที่เน้นเรื่องความยั่งยืน, เพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพนักงาน, เพิ่มการมีส่วนร่วมกับชุมชุนและเพิ่มความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
พัฒนพงศ์ รานุรักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท ดีวานา โกลบอล จำกัด เสริมว่า ด้วยพันธกิจของแบรนด์ที่ชัดเจนนี้เอง กลายเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผ่านพลังของธรรมชาติ จึงกลายเป็นที่มาของ Phenomenon Collection: The Marvelous Nature ซึ่งเป็นคอลเล็กชันกลิ่นหอม 8 กลิ่นพิเศษจาก 8 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์และให้ความรู้สึกที่แตกต่าง
“ทั้ง 8 ปรากฏการณ์ที่ดีวานาเลือกมา มีทั้งรูปแบบที่พบเจอและสัมผัสได้ในทุกๆ วัน หรือบางปรากฏการณ์จะเกิดเฉพาะบางพื้นที่ และบางเวลาเท่านั้น แต่ทุกๆ ปรากฏการณ์สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้ได้ค้นพบถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างแท้จริง
อย่างเช่นกลิ่น Revital Moss Garden ที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจหรือเติมพลังชีวิตให้กับเราได้ เพราะมอสส์คือจุดเริ่มต้นของระบบนิเวศน์ที่มีอายุมากกว่า 450 ล้านปี เป็นเสมือนตัวแทนแห่งความชุ่มชื่นและความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ต้นหญ้ามอสที่ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนป่าช่วยกักเก็บพลังชีวิตและจิตวิญญาณของป่าให้ยังคงความสมบูรณ์ เพียงแค่ได้สัมผัสกับผืนมอสส์ ก็สามารถช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตได้เป็นอย่างดี”
ภายในงานยังได้ 2 คนดังหัวใจสีเขียว นำโดย มารีญา พูนเลิศลาภ นักเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อม ผู้ก่อตั้งโครงการ SOS Earth ที่สร้างความเข้าใจให้แก่คนรุ่นใหม่ถึงป่าไม้และระบบนิเวศ และ อเล็กซ์ เรนเดล ดารานักแสดงผู้สนใจสิ่งแวดล้อมและผู้ก่อตั้งศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษา ซึ่งสร้างความเข้าใจผ่านกิจกรรมแบบ Edutainment มาร่วมแชร์มุมมองและไอเดียในการทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น
นอกจากนี้ภายในงาน divana Revital Moss Garden ยังเปิดให้ได้สัมผัส “กิจกรรมอาบป่า” ซึ่งเป็นศาสตร์การบำบัดสุขภาพที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น นำโดย ณิชา ศิรินันท์ ผู้ก่อตั้ง Forestory และได้รับ ANFT Certified Forest Therapy Guide อีกด้วย
ร่วมสัมผัสกลิ่นหอมของ “Moss Garden” ผ่านผลิตภัณฑ์ room diffuser, body oil และ hand cream จาก “ดีวานา” ได้แล้ววที่เคาน์เตอร์ดีวานาทุกสาขา หรือที่ Facebook : divana และ Instagram : @divana_global