TOA ทำรายได้ Q2/67 รวม 5,465 ล้านบาท ประกาศแจกปันผลครึ่งปีแรก 0.33 บาทต่อหุ้น
14 Aug 2024

บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ฯ หรือ TOA ผู้นำเบอร์หนึ่งตลาดสีและเคมีภัณฑ์ก่อสร้างครบวงจร ประกาศผลประกอบการ Q2/67 ด้วยรายได้รวม 5,456 ล้านบาท ท่ามกลางภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงส่งผลต่อยอดขายสีทาอาคารปรับตัวลดลงในขณะที่ยอดขายกลุ่มเคมีก่อสร้างและยิปซั่มบอร์ดยังเติบโต ช่วยหนุนภาพรวมรายได้ให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

 

จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า

ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวม 5,456 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1% และรายได้รวมในงวด 6 เดือนแรก ปี 2567 เป็นเงิน 10,941 ล้านบาท อันเนื่องมาจากผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงต้นปี กำลังซื้อของลูกค้าที่ลดลงทั้งจากภาระดอกเบี้ยและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น

รวมถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบ้านของสถาบันการเงิน ส่งผลโดยตรงให้ความต้องการใช้สีเพื่อตกแต่งและซ่อมแซมบ้านชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามยอดขายสินค้าในกลุ่มสินค้าเคมีก่อสร้างและยิปซั่มบอร์ดมีการเติบโตขึ้น จากช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย

 

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ยังคงตัวอยู่ในระดับสูง โดยอัตรากำไรขั้นต้น ในไตรมาส 2/2567 เท่ากับ 34.4% เท่ากับช่วงเดียวกันปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับงวดหกเดือนแรก ปี 2567 เท่ากับ 35.1% สูงขึ้นจากครึ่งปีแรกของปี 2566 ซึ่งเท่ากับ 33.6% เป็นผลจากการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านวัตถุดิบและต้นทุนผลิต แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงไตรมาส 2/2567

อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2567 เป็นเงิน 477 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 36% ตามยอดขายที่ปรับตัวลดลงและการรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการแปลงค่าสินทรัพย์หนี้สินในต่างประเทศ เนื่องจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงปลายไตรมาส 2/2567 ทั้งนี้กำไรจากธุรกิจหลักไม่รวมรวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว กำไรในไตรมาส 2/2567 เป็นเงิน 594 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อนเพียง 14% ในขณะที่กำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 2567 เป็นเงิน 1,281 ล้านบาท ลดลง 7%

 

แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงมีความท้าทายทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะส่งผลถึงความต้องการใช้สีและวัสดุก่อสร้าง รวมถึงความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการกีดกันการค้าระหว่างประเทศที่จะส่งผลต่อ supply chain ซึ่งมีผลต่อราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตามเราได้เตรียมความพร้อมและการบริหารความเสี่ยงทั้งการขยายธุรกิจที่เป็นมากกว่าสีทาอาคาร การจัดการด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย และปรับกระบวนการภายใน ทำให้เรามีผลงานที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับในอุตสาหกรรม นอกจากนี้เรามีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบ นำส่งการปรับแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับบริบทการดำเนินธุรกิจในแต่ละช่วงเวลา

 

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าในกลุ่มสี premium และสีรักษ์โลกเพื่อตอบรับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความคงทนของสีในยุคปัจจุบันที่ค่าแรงช่างทาสีมีแนวโน้มสูงขึ้น และการลดปัญหาโลกร้อนโดยใช้สีที่มีฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นต์

โดยผลิตภัณฑ์สีทาอาคารของ TOA มี “ฉลากลดโลกร้อน” หรือ (Carbon Footprint Reduction label : CFR) ที่ผ่านการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) มากที่สุดในตลาดสีทาอาคารถึง 40 ผลิตภัณฑ์ อาทิ ‘สี SuperShield’ ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีสีบ้านเย็น Cooling Paint ที่สะท้อนแสงอาทิตย์ได้สูงถึง 97.5% และคายความร้อนออกจากผนังบ้านได้ถึง 90% จึงช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นลงได้ถึง 5.5 องศาเซลเซียส ช่วยประหยัดพลังงานเซฟค่าไฟ ที่สำคัญยังสามารถช่วยโลกลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้จากเดิมอีกด้วย

ทั้งนี้การพัฒนานวัตกรรมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สู่การเป็นองค์กร Net Zero เพื่อสร้างองค์กรสู่ความยั่งยืน นอกจากนี้เรายังมุ่งพัฒนาองค์กรในหลากมิติเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจ และเป็นองค์กรที่สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในระยะยาว

“ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.33 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 20 โดยจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 กันยายน 2567” จตุภัทร์ กล่าว

 

[อ่าน 103]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จุฬาฯ จัดงาน Chula the Impact ครั้งที่ 29 “Chula-KBTG: AI for the Future”
Lalamove เปิดตัว Lalamove Ride บริการรับส่งผู้โดยสาร 24 ชั่วโมง

ช้อปปี้ขานรับพันธกิจเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดตัว ‘Easy E-Receipt ช้อปลดภาษี’ 
ขับเคลื่อน SME ไทย
เคทีซีปักหมุดผู้นำหมวดท่องเที่ยว บุกงานแฟร์ตลอดทั้งปี 2568 ประเดิมงานแรก “เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก” ครั้งที่ 30
เดลต้า ประเทศไทย ติดดัชนี FTSE4Good ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม ESG และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ซัมซุงชวนร่วมค้นหาว่า AI คู่หูตัวจริงจะสามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้อย่างไร
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved