ทีเอ็มบีธนชาต ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.065 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน
24 Sep 2024
ทีเอ็มบีธนชาต ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.065 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลที่ 60% จากผลการดำเนินงานรอบครึ่งปี สะท้อนความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 

 

ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือนของปี 2567 ในอัตรา 0.065 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 24 ตุลาคม 2567 นี้

 

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า นับตั้งแต่รวมกิจการ ธนาคารมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบมาโดยตลอด จุดประสงค์เพื่อเสริมสถานะทางการเงินให้มีความแข็งแกร่งและมีความพร้อมในทุกด้าน จึงทำให้ธนาคารสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจและสามารถสานต่อพันธกิจที่มีต่อลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางได้อย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

 

ควบคู่กันไปนั้น ธนาคารยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของธนาคารเช่นกัน ทั้งนี้ จากการดำเนินกลยุทธ์การเติบโตอย่างมีคุณภาพและการนำเอาศักยภาพด้านดิจิทัลมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ส่งผลให้ธนาคารมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย ในประการสำคัญ คือมีระดับเงินกองทุนที่เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด จึงทำให้มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่รวมกิจการ

 

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต

 

สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2567 ธนาคารได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.065 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2566 ที่อัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น โดยการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวเทียบเท่ากับอัตราการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 60% โดยประมาณ ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของหุ้นกลุ่มธนาคาร

 

ทั้งนี้ ธนาคารจะยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการเงินทุน (Capital management) อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป เพื่อสร้างโอกาสในการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ที่เพิ่มขึ้น การจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง และมูลค่าหุ้นที่มีแนวโน้มเชิงบวกสอดคล้องกับทิศทางของผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็จะยังคงรักษาระดับเงินกองทุนให้อยู่ในระดับสูงต่อไป

โดย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2567 อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) และอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) ของธนาคารอยู่ที่ 17% และ 20% ซึ่งสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม และสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารกลุ่ม D-SIBs ที่ธปท.กำหนดไว้ที่ 9.5% และ 12.0% ตามลำดับ”

 

 

[อ่าน 144]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ประกาศแผนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เดินหน้าหาพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสใหม่
CPF เพิ่มขีดความสามารถคู่ค้าธุรกิจ เตรียมความพร้อมสร้างโอกาสเติบโตสู่เวทีการค้าโลก
กสิกร วิชั่น เซี่ยงไฮ้ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้จัดการกองทุนหุ้นนอกตลาดของจีน
กรุงศรี มองตลาดลงทุนทั่วโลกช่วงไตรมาส 4/2567 ยังคงผันผวน
แกร็บ เผยนวัตกรรมเด่นเสริมแกร่งอีโคซิสเต็ม
PRAKAAN ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ระดับพรีเมียมแบรนด์แรกของคนไทย
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved