สหฟาร์ม พัฒนาสายพันธุ์ปลาดุกไทยเพื่อการส่งออก
26 Sep 2024

 

สหฟาร์ม ตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะเจ้าแรกของผู้ผลิตและส่งออกไก่สดแช่แข็ง ไก่แปรรูปแช่แข็งรายใหญ่ของไทย ประกาศรุกธุรกิจประมง แตกไลน์สินค้าใหม่พร้อมสร้างมูลค่า เพื่อผลักดันการส่งออก

ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี การเงิน และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) เปิดเผยว่า จากงาน ThaiFex 2024 ที่ผ่านมา สหฟาร์มได้ทำการเปิดตัวสินค้าน้องใหม่ “ปลาดุกสหฟาร์ม” พร้อมประกาศรุกธุรกิจประมงเพื่อการส่งออก โดยได้รับเกียรติจากทางอธิการบดีกรมประมงในการเข้าเยี่ยมชมกิจการสหฟาร์มประมงลพบุรี ณ โรงงานสหฟาร์ม จังหวัดลพบุรี เป็นครั้งแรก

ซึ่งสหฟาร์มได้มีโอกาสในการเปิดให้หน่วยงานภาครัฐได้เห็นถึงกรรมวิธีและขั้นตอนการเลี้ยงปลาดุกครบวงจรของสหฟาร์ม ที่มีทั้งพ่อแม่พันธุ์ปลาของตัวเอง มีโรงงานอาหารสัตว์อัดเม็ดสำหรับปลาดุก โดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีบ่อปลาดุกธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี และโรงงานหั่นที่ได้มาตรฐานทุกขั้นตอนอย่างละเอียด

 

 

“สหฟาร์มต้องการต่อยอดความสำเร็จในธุรกิจอย่างครบวงจร โดยในปีนี้เราได้มุ่งมั่นในผลักดันในธุรกิจประมง เนื่องจากเดิมที สหฟาร์มได้มีการเริ่มดำเนินการเลี้ยงปลาดุกมาตั้งแต่ปี 2545 โดยได้ทำการปรับปรุงสายพันธุ์จนได้เป็นปลาดุกสายพันธุ์เฉพาะของสหฟาร์มเอง โดยตั้งชื่อให้สายพันธุ์นี้ว่า “ปลาดุกบิ๊กอุยสหฟาร์ม” และด้วยกรรมวิธีการเลี้ยงในบ่อดินแบบธรรมชาติ ที่ดูแลและใส่ใจในทุกขั้นตอน จึงทำให้ปลาดุกสหฟาร์มมีรสชาติดี เนื้อสัมผัสแน่น ชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาว หนังหนา มีไขมันแทรกในเนื้อ มีคุณค่าทางสารอาหารที่ดีเลิศ เป็นที่นิยมรับประทานของลูกค้าในไทยอย่างแพร่หลาย”

ทั้งนี้ ปลาที่สหฟาร์มทำการขาย จะมีทั้งปลาย่างและปลาโบ้ ซึ่งมีทั้งขายส่งและขายปลีก สำหรับปลาดุกสหฟาร์มจะใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงถึง 4 - 5 เดือน จึงจะสามารถคัดไซส์และจับขายได้ อย่างปลาดุก ขนาด 3 - 4 ตัว/กิโลกรัม จะไว้สำหรับทั้งขายส่ง - ขายปลีก ให้แก่ลูกค้าในจังหวัดต่างๆ อาทิ พิษณุโลก, นครสวรรค์, แม่สอด เชียงราย, เลย, ชัยภูมิ รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล

ส่วนปลาดุกที่ขนาด 1 - 2 ตัว/กิโลกรัม ก็จะคัดสู่โรงหั่นปลาเพื่อหั่นชิ้นโดยเครื่องจักรที่ทันสมัย มีระบบการจัดการแบบโรงงานที่เน้นเรื่องของความสะอาดในทุกๆ ขั้นตอนการผลิตและทุกๆ ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจากกระบวนการอันมีมาตรฐาน และจากความนิยมของลูกค้า บวกกับปลาดุกถือเป็นปลาเศรษฐกิจ จึงทำให้สหฟาร์มต้องการต่อยอดความสำเร็จนี้ ผ่านการผลักดันปลาดุกไทยให้เกิดโอกาสทางการตลาดสู่ประตูการค้าโลก และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกของเนื้อสัตว์ให้แก่ผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

 

ขั้นตอนและกรรมวิธีการเลี้ยงปลาดุกสหฟาร์ม เพื่อให้ได้มาซึ่งปลาดุกคุณภาพดีนั้นมีการจัดการแบบพิเศษ โดยกิจการประมงได้นำน้ำที่บำบัดแล้วของสหฟาร์มมาใช้ในการเลี้ยงปลาดุก โดยจะมีการวางระบบน้ำให้เป็นระบบแบบหมุนเวียน ไม่ปล่อยให้น้ำออกนอกบริเวณของที่เลี้ยง น้ำที่เปลี่ยนถ่ายจากการเลี้ยงปลาดุกจะนำมาพักในอ่างเก็บน้ำซึ่งมีประมาณจำนวน 10 ไร่ เพื่อช่วยในการบำบัดน้ำเสีย มีการเติมออกซิเจน (Oxygen) ในน้ำเพื่อเป็นการช่วยบำบัดน้ำอีกทางหนึ่ง

เพื่อให้ปลาขับของเสีย ลดกลิ่นโคลน ลดกลิ่นคาว เราจะมีการถ่ายน้ำออกจากบ่อทุก 1 - 2 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำสะอาดและมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอโดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ และมีการวางขนาดของบ่อเลี้ยงปลา 1 ไร่ ซึ่งจะจำกัดปริมาณปลาเลี้ยงในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 20,000 ตัวต่อบ่อ เพื่อลดความแออัด และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ สร้างระบบน้ำหมุนเวียนตลอดทำให้ได้ปลาดุกที่มีคุณภาพ แข็งแรง ถูกสุขลักษณะอนามัย ทั้งนี้ในกรณีหากเกิดน้ำเสียระหว่างที่เลี้ยง ก็จะทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำใหม่ทันทีเพื่อไม่ให้ปลาป่วย

 

ปัจจุบันในบ่อเพาะขยายพันธุ์ปลาดุกสหฟาร์มสามารถผลิตลูกปลาได้ราว 120 ล้านตัว/เดือน โดยสหฟาร์มได้มีบ่อเลี้ยงปลาดุก 375 บ่อ ซึ่งแบ่งเป็น กิจการประมงลพบุรี จำนวน 138 บ่อ/ จำนวน 242 ไร่ และกิจการประมงเพชรบูรณ์ จำนวน 237 บ่อ/จำนวน 600 ไร่ โดยมีกำลังการผลิตทั้งจากของลพบุรีและเพชรบูรณ์ ที่สามารถเลี้ยงปลาได้เฉลี่ย 350 ตัน/เดือน

จากกระบวนการคุณภาพที่ได้มาตรฐานทำให้สหฟาร์ม ได้รับมาตรฐานจีเอพี มกษ.(GAP มกษ.) จากกรมประมง และทางบริษัทฯ ยังได้รับมาตรฐานฮาลาล (Halal) และเครื่องหมายฮาลาล (Halal) จากสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ในสินค้าปลาดุกหั่นเป็นเจ้าแรกของประเทศไทย ซึ่งมาตรฐานฮาลาล (Halal) เป็นมาตรฐานที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและเป็นการเปิดตลาดผู้บริโภคกลุ่มฮาลาล ให้กับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ที่จะมีการส่งออกในอนาคต เพราะเครื่องหมายฮาลาล จะเน้นย้ำถึงความสะอาดในกระบวนการการผลิตและการบรรจุภัณฑ์ทุกขั้นตอน ก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค

สำหรับปลาดุกสหฟาร์มในขณะนี้มีสินค้า 3 แบบ

  • แบบปลาดุกตัว ขายทั้งปลีก-ขายส่ง
  • แบบหั่นชิ้น เหมาะเอาไว้สำหรับปรุงอาหาร ประเภท แกง ผัด
  • แบบแล่เนื้อ ได้เนื้อล้วนชิ้นใหญ่ ไม่มีก้าง เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น

 

 

“เรามั่นใจในคุณภาพมาตรฐานของปลาดุกสหฟาร์ม ทั้งในจุดเด่นคือเนื้อแน่น หนังหนากว่าปลาดุกที่อื่นๆ ทำให้ตัวปลาจะไม่มีแผลหนังหรือถลอกง่ายเวลาขนส่งปลาสด และเมื่อนำไปประกอบอาหาร เช่น การนำปลาไปย่าง หนังปลาจะไม่หลุดติดตะแกรงย่าง ทำให้ได้ปลาดุกย่างออกมาแล้วเนื้อสวยหนังสวย อีกทั้งยังไม่มีสารเคมีใดๆ ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเป็นที่ยอมรับของตลาดต่างประเทศได้ไม่ยาก”

ทั้งนี้ แผนขั้นต่อไป สหฟาร์มตั้งเป้าผลักดันปลาดุกไทยเพื่อการส่งออก โดยยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับกลุ่มเป้าหมายประเทศเพื่อนบ้าน และแถบประเทศอเมริกา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาในการผลักดันใน 1 - 2 ปี

[อ่าน 1,966]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เวียตเจ็ทเพิ่ม 10,000 ที่นั่ง ตอบรับเทศกาลสุดพิเศษ
หมดยุคการบูลลี่ ยืดอกปกป้องความรู้สึกของตัวเอง
‘Okura Cruise’: เรือไคเซกิและเทปันยากิสุดหรูลำแรกของโลก
“พฤกษา” จับมือ “เอ็ม ดิสทริค” เปิดตัว “Pruksa I The Palm x EM District : Luxurious of Well-Living Mastery”
ซีอาร์จี คว้ารางวัล “Great Place to Work” สถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมแห่งปี 2024
ทรู เสิร์ฟความฟิน ดึง “โฟร์ท ณัฐวรรธน์” สาดรอยยิ้มในงาน “Truedtac5G ยิ้มทั่วไทย ยิ้มทั่วโซเชียล กับโฟ้ดๆ”
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved