ภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาที่หลายคู่สมรสต้องเผชิญ ในปัจจุบัน วิทยาการทางการแพทย์ได้พัฒนาวิธีการรักษาที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตร หนึ่งในวิธีการที่ได้รับความนิยมคือ การทำ IVF (In Vitro Fertilization) หรือการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย บทความนี้จะมาอธิบายว่า IVF เหมาะกับใคร และวิธีเตรียมตัวเพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้อย่างไรบ้าง

การทำ IVF คืออะไร ?

IVF เป็นกระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยากที่นำไข่และอสุจิมาผสมกันในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่ได้กลับเข้าสู่มดลูกของผู้หญิง วิธีการนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาการมีบุตรยาก

การทำ IVF เหมาะกับใคร?

IVF เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาดังต่อไปนี้

1. ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่อุดตันหรือเสียหาย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปฏิสนธิตามธรรมชาติ
2. ฝ่ายชายมีปริมาณหรือคุณภาพอสุจิต่ำ
3. ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ส่งผลให้มีปัญหาในการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ
4. ฝ่ายหญิงมีปัญหาในการตกไข่หรือมีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS)
5. คู่สมรสที่อายุมากแล้ว โดยผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีและไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ด้วยวิธีธรรมชาติ    

วิธีเตรียมตัวให้ท้องง่ายขึ้นสำหรับการทำ IVF

1.   ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

การรักษาน้ำหนักให้เหมาะสม งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ และลดความเครียดเป็นสิ่งสำคัญ ควรฝึกการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิหรือโยคะ เพื่อช่วยให้ร่างกายและจิตใจพร้อมสำหรับการทำ IVF

2.   ปรับเปลี่ยนอาหารการกิน

เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเตรียมตัวทำ IVF ประกอบด้วย

• ผักและผลไม้สด
• โปรตีนคุณภาพดี เช่น ปลา ไข่ ถั่ว
• อาหารที่มีกรดโฟลิกและวิตามินดีสูง
• หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารที่มีน้ำตาลสูง

3.   ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายแบบปานกลาง เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมและเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหักโหม เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อการตั้งครรภ์ได้

4.   ตรวจสุขภาพและรักษาโรคประจำตัว

การควบคุมโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ ควรตรวจและรักษาการติดเชื้อ โดยเฉพาะในระบบสืบพันธุ์ เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์

การทำ IVF เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและอาจใช้เวลานาน การเตรียมตัวที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการรักษาก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ 100% คู่สมรสควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละคู่จะเป็นการดีที่สุด