Nespresso ภายใต้บริษัท Nestlé ซึ่งมีชื่อเสียงด้านเครื่องชงกาแฟแบบชงสำเร็จรูป ประกาศเปิดตัวเครื่องดื่มกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเป็นครั้งแรก "Nespresso Master Origins Colombia" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งตัวใหม่ของแบรนด์ที่เปิดตัวก่อนหน้าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

กาแฟพร้อมดื่ม Nespresso Master Origins Colombia เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องสำหรับแพลตฟอร์ม Nespresso ที่มีอยู่ในบ้าน โรงแรม และสำนักงานหลายล้านแห่งทั่วโลก เครื่องดื่มรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นนี้ ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ผลิตจากเมล็ดกาแฟและปรุงรสด้วยน้ำผึ้งจากโคลอมเบีย

ตามคำบอกเล่าของ Nespresso กาแฟพร้อมดื่มนี้มาพร้อมกับรสชาติที่หวานด้วย "น้ำผึ้งดอกกาแฟของแบรนด์ ซึ่งเก็บเกี่ยวจากพืชชนิดเดียวกับที่ใช้ผลิตกาแฟ"

ทั้งนี้ น้ำผึ้งดอกกาแฟคือน้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งที่เจริญเติบโตในสวนกาแฟ น้ำผึ้งจะมีสีเข้มสวย รสชาติหอมหวานเข้มข้นติดปลายขมนิด มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟ

Alfonso Gonzalez Loeschen ซีอีโอของ Nespresso North America เปิดเผยว่า

“เนื่องจากความต้องการกาแฟแบบชงระหว่างเดินทางยังคงเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา เราจึงมองเห็นโอกาสในการคิดใหม่ว่า Nespresso สามารถยกระดับช่วงเวลาแห่งการดื่มกาแฟให้กับผู้บริโภคในปัจจุบันได้อย่างไร ตัวเลือกกาแฟพร้อมดื่มนี้ถือเป็นผลพลอยได้จากความมุ่งมั่นของเราในความพยายามด้านการเกษตรแบบฟื้นฟูเพื่อปกป้องอนาคตที่ยั่งยืนของกาแฟ”

“แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะคุกคามความหลากหลายทางชีวภาพและการดำรงชีพของชาวไร่กาแฟ แต่ Nespresso มุ่งมั่นที่จะให้แน่ใจว่าพืชผลกาแฟที่มีคุณภาพจะสามารถอยู่รอดให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป”

นอกจากนี้ ในข่าวประชาสัมพันธ์ยังระบุด้วยว่า Nespresso มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 และกำลังดำเนินการเพื่อให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น กาแฟใหม่นี้จึงมาในกระป๋องอลูมิเนียม ซึ่งสามารถรีไซเคิลได้ไม่รู้จบ

อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งคือ เครื่องดื่มนี้จะวางจำหน่ายในระยะเวลาจำกัดมากเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม ผ่านแอปมือถือ Nespresso, Nespresso.com และในช็อป Nespresso ที่เลือกสรรไว้แล้วเท่านั้น

ข้อมูลวิเคราะห์จาก Data Bridge Market Research ระบุว่า ตลาดกาแฟพร้อมดื่มทั่วโลกมีมูลค่า 26,940 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตถึง 43,990 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2031 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 6.32% ในช่วงคาดการณ์ปี 2024 ถึง 2031

ในตลาดกาแฟพร้อมดื่ม การพัฒนาในด้านรสชาติ บรรจุภัณฑ์ และการจัดจำหน่าย ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ที่มองเห็นประโยชน์จากความสะดวกสบายที่กาแฟพร้อมดื่มมอบให้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและผู้ที่มองหาคาเฟอีนอย่างรวดเร็วโดยไม่กระทบคุณภาพ

สำหรับ Nespresso แบรนด์ที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมกาแฟ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่เริ่มต้นในช่วงกลางทศวรรษ 1970 และได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายทศวรรษ

ต้นกำเนิดและการพัฒนา

1975 Nespresso ถือกำเนิดขึ้นจาก Eric Favre พนักงานของ Nestlé ที่สังเกตเห็นบาร์กาแฟแห่งหนึ่งในกรุงโรมซึ่งมีลูกค้าจำนวนมากผิดปกติ เขาค้นพบว่าวิธีการปั๊มเครื่องชงเอสเพรสโซซ้ำๆ ของบาริสต้าทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นขึ้นเนื่องจากอากาศที่มากขึ้น การสังเกตนี้ทำให้เขาพัฒนาระบบชงกาแฟแบบใหม่

1976 Eric Favre ยื่นจดสิทธิบัตรระบบ Nespresso ฉบับแรก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปิดผนึกกาแฟในแคปซูลเพื่อรักษาความสดใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดรสชาติระหว่างการชง อย่างไรก็ตาม ต้นแบบในช่วงแรกมีความซับซ้อนและยังไม่พร้อมสำหรับการเจาะตลาด

1986 Nespresso เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะบริษัทแยกย่อยภายใต้ Nestlé โดยเปิดตัวเครื่องชงกาแฟเครื่องแรก (C-100) และกาแฟผสม 4 สูตร ได้แก่ Capriccio, Cosi, Bolero (ปัจจุบันเรียกว่า Volluto) และ Decaffeinato ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Nespresso ในการปฏิวัติรูปแบบการดื่มเอสเพรสโซที่บ้าน

วิวัฒนาการทางการตลาด

ปลายทศวรรษ 1980 หลังจากประสบปัญหาในตลาดในช่วงแรก Nespresso ก็เปลี่ยนทิศทางไปภายใต้การนำของ Jean-Paul Gaillard ซึ่งเปลี่ยนโฟกัสจากสำนักงานไปที่ครัวเรือนที่มีฐานะดี เขาแนะนำแนวคิดของ Nespresso Club ซึ่งสร้างชุมชนรอบๆ แบรนด์และเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมโดยตรง

ทศวรรษ 1990 แบรนด์เริ่มขยายกิจการไปทั่วโลก โดยสร้างความร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องชงกาแฟหลายราย ในปี 1991 Nespresso ได้ทำการตลาดนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปยังประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศสและอิตาลี

ทศวรรษ 2000 แบรนด์นี้เติบโตอย่างมากผ่านกลยุทธ์การตลาดที่สร้างสรรค์ รวมถึงการริเริ่มอีคอมเมิร์ซและการเปิดบูติกหรือช็อปในเมืองใหญ่ๆ โดยในปี 2006 Nespresso ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์หรูด้วยการสนับสนุนจากคนดัง โดยเฉพาะจากจอร์จ คลูนีย์

การขยายตัวทั่วโลกและความยั่งยืน

ทศวรรษ 2010 Nespresso ยังคงขยายฐานการผลิตทั่วโลก โดยมีบูติกมากกว่า 700 แห่งใน 68 ประเทศ ภายในปี 2022 นอกจากนี้ บริษัทยังเริ่มมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนด้วยการจัดหาเมล็ดกาแฟอย่างมีความรับผิดชอบและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

2022 Nespresso ได้รับการรับรองเป็น B Corporation ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในมาตรฐานการดำเนินงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

2023 และ 2024 Nespresso ได้ก้าวหน้าอย่างมากในด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ความพยายามด้านความยั่งยืน และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ต่อไปนี้คือไทม์ไลน์ที่เน้นถึงการพัฒนาที่สำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว

ไฮไลท์ปี 2023

18 เมษายน 2023 Nespresso ร่วมมือกับ Starbucks Reserve เพื่อเปิดตัวกาแฟรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น โดยแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในประสบการณ์กาแฟระดับพรีเมียม

1 มิถุนายน 2023 แบรนด์ส่งเสริมความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืนโดยจัดแสดงจักรยานที่ทำจากแคปซูลกาแฟรีไซเคิล ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการรีไซเคิลและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

4 กันยายน 2023 Nespresso เปิดตัวแคปซูลกาแฟที่ทำจากกระดาษที่ย่อยสลายได้ในบ้านรุ่นแรกในฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ นวัตกรรมนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่ยังคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไว้

12 กันยายน 2023 Nespresso เปิดตัวกาแฟสายพันธุ์ใหม่สุดพิเศษที่ได้รับการพัฒนาในช่วงสองทศวรรษ ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในด้านคุณภาพและนวัตกรรมในการจัดหากาแฟ

29 กันยายน 2023 บริษัทฉลองครบรอบ 20 ปีของโครงการคุณภาพที่ยั่งยืนของ AAA ซึ่งมุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟและรับรองแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในการผลิตกาแฟ

ไฮไลท์ปี 2024

มกราคม - มีนาคม 2024 Nespresso ยังคงเติบโตในอเมริกาเหนือ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นในอัตราเลขตัวเดียวกลางๆ แบรนด์ได้รับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นแม้จะเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง

15 มีนาคม 2024 Nespresso ประกาศลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (DRC) ซึ่งมุ่งหวังที่จะสนับสนุนชุมชนผู้ปลูกกาแฟในท้องถิ่นและฟื้นฟูการผลิตกาแฟพิเศษ

18 เมษายน 2024 Phil Navratil ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอคนใหม่ของ Nespresso ซึ่งเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงผู้นำที่มุ่งหวังที่จะนำพาแบรนด์ไปสู่การเติบโตในอนาคต

7 สิงหาคม 2024 Nespresso เปิดตัว "Nespresso Bloom" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งชุดแรกที่มาจากพืชชนิดเดียวกับที่ใช้ปลูกกาแฟบางชนิด ความคิดริเริ่มนี้สะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งเน้นของแบรนด์ในด้านความยั่งยืนและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม

6 กันยายน 2024 รายงานระบุว่ายอดขาย Nespresso ทั่วโลกลดลง 1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคในยุโรปลดลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาด

2 ตุลาคม 2024 วางจำหน่าย Nespresso Master Origins Colombia กาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเป็นครั้งแรกของบริษัท

จะเห็นได้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา Nespresso ได้เน้นย้ำถึงความยั่งยืนและนวัตกรรม ขณะเดียวกันก็ขยายข้อเสนอผลิตภัณฑ์และปรับปรุงประสบการณ์ของผู้บริโภคผ่านแนวคิดการค้าปลีกและความร่วมมือใหม่ๆ ทำให้ปัจจุบัน Nespresso ได้รับการยอมรับไม่เพียงแต่ในด้านเครื่องชงกาแฟและแคปซูลคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวทางการตลาดและความยั่งยืนที่สร้างสรรค์อีกด้วย จากจุดเริ่มต้นที่แสนเรียบง่ายในบาร์กาแฟในสมัยโรมัน สู่การเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมกาแฟ Nespresso ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการดื่มกาแฟเอสเพรสโซของผู้คนนับล้านทั่วโลก

#Nespresso #NespressoMasterOriginsColombia #กาแฟกระป๋องพร้อมดื่ม #MarketPlusDaily #MarketPlusUpdate