YouTube ประเทศไทย จัดงานใหญ่ประจำปี “YouTube Works Awards” พร้อมเผยว่าหากผู้ชมชาวไทยสามารถรับชมแพลตฟอร์มวิดีโอได้เพียงแพลตฟอร์มเดียวตลอดทั้งปี พวกเขาจะเลือก YouTube จากฐานผู้ชมที่เหนียวแน่นนี้ ทำให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโออันดับ 1 ในใจคนไทย
คอนเทนต์ที่เชื่อถือได้ทำให้คนกลับมาดู YouTube เรื่อยๆ จากผลสำรวจของ Kantar 85% ของผู้ชมชาวไทยกล่าวว่าคอนเทนต์ของครีเอเตอร์บน YouTube มีความน่าเชื่อถือกว่าคอนเทนต์ของครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจากนี้ YouTube ยังมีคอนเทนต์ให้เลือกชมหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่วิดีโอสั้นความยาว 10 วินาที ไปจนถึงวิดีโอที่นำเสนอเนื้อหาแบบเจาะลึกความยาว 1 ชั่วโมง โดยพบว่า 98% ของผู้ที่ตอบแบบสำรวจรับชมวิดีโอทั้งแบบสั้นและแบบยาวบน YouTube
แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า
“เนื่องในโอกาสที่ YouTube ประเทศไทย ครบรอบ 10 ปีในปีนี้ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ YouTube ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ครองใจคนไทย เป็นพื้นที่สำหรับแบ่งปันเรื่องราว สร้างชุมชน และสำรวจสิ่งที่ชื่นชอบ คนไทยไม่ได้เข้ามาที่ YouTube เพื่อรับชมคอนเทนต์อย่างเดียว แต่พวกเขายังแสวงหาวิธีที่จะดื่มด่ำกับสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบอีกด้วย สำหรับผู้ชม YouTube นั้น พวกเขาต้องการรับชมคอนเทนต์ที่นำเสนอผ่านมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ เสียงที่หลากหลาย และคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟที่หาไม่ได้จากที่อื่น การมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งนี้ทำให้ผู้ชมชาวไทยกลายเป็นแฟนตัวยง นอกจากนี้ ชุมชนที่มีชีวิตชีวาของ YouTube ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างครีเอเตอร์และแฟนๆ ยังทำให้ YouTube เป็นฮับของผู้ชมที่มีส่วนร่วมมากที่สุดอีกด้วย”
สถิติที่น่าสนใจที่ YouTube นำมาอัปเดตภายในงานปีนี้
จากการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับ Nielsen พบว่าโฆษณาบน YouTube มีประสิทธิภาพมากกว่าทีวีถึง 4 เท่า
กลุ่มแฟนคลับ (Fandom) ทุกประเภทเข้ามาชมคอนเทนต์ที่เป็นการวิเคราะห์แบบเจาะลึกบน YouTube โดยเวลาในการรับชมคอนเทนต์ที่มีคำว่า “วิเคราะห์” (Analysis) อยู่ในชื่อวิดีโอ เพิ่มขึ้นกว่า 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่เวลาในการรับชมวิดีโอที่มีคำว่า “รีแอคชั่น” (Reaction) และ “Vlog” อยู่ในชื่อวิดีโอ เพิ่มขึ้นกว่า 40%
YouTube กำลังจะเปิดตัว YouTube Shopping ในไทยในเร็วๆ นี้ ภายใต้ความร่วมมือกับ Shopee ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การมีสิทธิ์สามารถเข้าร่วมโปรแกรมYouTube Shopping Affiliate ได้ โดยเมื่อครีเอเตอร์ลงชื่อสมัครใช้แล้วจะสามารถติดแท็กผลิตภัณฑ์จาก Shopee ในเนื้อหาของตนได้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชมในการเลือกซื้อสินค้าระหว่างที่รับชมเนื้อหาจากครีเอเตอร์คนโปรด
โซลูชันสำหรับการโฆษณาบน YouTube
นอกจากสถิติต่างๆ แล้ว ภายในงานยังมีการนำเสนอโซลูชันเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ค้นพบกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เชื่อมต่อกับลูกค้า และสร้างฐานแฟนตัวยงของแบรนด์บน YouTube
โฆษณาพาร์ทเนอร์ (Partnership Ads): ครีเอเตอร์ YouTube มีส่วนสำคัญอย่างมากในกระบวนการตัดสินใจของผู้บริโภค โฆษณาพาร์ทเนอร์ช่วยให้แบรนด์เปลี่ยนวิดีโอที่น่าเชื่อถือจากช่อง YouTube ของครีเอเตอร์ให้กลายเป็นโฆษณาที่น่าสนใจได้
โซลูชันโฆษณา Music Lineup: เพลงยังคงเป็นหมวดหมู่ที่มีผู้ชมมากที่สุดบน YouTube โซลูชันโฆษณา Music Lineup ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เชื่อมต่อกับผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงผ่านคอนเทนต์ยอดนิยมและแนวเพลงที่หลากหลาย
โฆษณาที่ทำงานด้วยระบบ AI: เมื่อเทคโนโลยี AI เข้ามาพลิกโฉมวงการการตลาด นักการตลาดจำนวนมากก็ได้นำเครื่องมือ Predictive AI ของ Google มาใช้เพื่อเพิ่มยอดดู การเข้าถึง (Reach) และยอดขาย นอกจากนี้ Generative AI ยังช่วยให้การสร้างคอนเทนต์และการเล่าเรื่องราวของแบรนด์เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นด้วยเครื่องมืออย่าง Veo ซึ่งเป็นโมเดลสำหรับการสร้างวิดีโอใหม่ล่าสุดและล้ำสมัยที่สุดของ Google ที่สามารถสร้างวิดีโอที่มีความคมชัดสูงได้จากพรอมต์ในเชิงสร้างสรรค์
ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน YouTube Works Awards Southeast Asia 2024
งาน YouTube Works Awards จัดขึ้นโดยความร่วมมือกับ Kantar เพื่อยกย่องและมอบรางวัลให้แก่แคมเปญโฆษณาบน YouTube ที่โดดเด่น มีความสร้างสรรค์ และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปีนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงาน “YouTube Works Awards Southeast Asia 2024” ซึ่งเป็นการมอบรางวัลระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยมีแคมเปญที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 34 แคมเปญจาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ซึ่งได้ส่งผลงานเข้าร่วมชิงรางวัลใน 8 ประเภทด้วยกัน
และในปีนี้ แคมเปญจากไทยก็ยังคงเฉิดฉายในเวทีระดับภูมิภาค โดยคว้า 3 รางวัลมาครอง จากทั้งหมด 8 รางวัล ซึ่งรวมถึงรางวัลใหญ่อย่าง ‘Grand Prix’ ด้วย
แคมเปญ Sammakorn NOT Sanpakorn รางวัล ‘Grand Prix’ และ ‘Best Brand Story’
แคมเปญ Best Taste by Nescafé RTD รางวัล ‘Brands & Creators’
แคมเปญ GrabFood The Greatest Knockout รางวัล ‘Master of Media’
แคมเปญอื่นๆ ที่ชนะรางวัล
Sobat Hemat (อินโดนีเซีย) รางวัล Best of Google AI
No Drama, Just Quality Used Cars (สิงคโปร์) รางวัล The Big Bang
Pepsi Brings Tet Home: The Journey of Significance (เวียดนาม) รางวัล The Long & Short
Don’t Know? Kasih No! (อินโดนีเซีย) รางวัล Force for Good
Forgiveness (มาเลเซีย) รางวัล Best of Festive
Sapna Chadha, Vice President of Southeast Asia and South Asia Frontier, Google Asia Pacific, กล่าวว่า
“YouTube เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม และด้วยจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 85% ในภูมิภาคนี้ที่รับชม YouTube ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้พวกเขาค้นพบครีเอเตอร์และคอนเทนต์ที่ชื่นชอบในรูปแบบที่หลากหลายผ่านอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงบนทีวี
นอกจากนี้ การมีส่วนร่วมของผู้ชมบนแพลตฟอร์มยังส่งผลต่อประสิทธิภาพทางธุรกิจ ซึ่งผลสำรวจของ Kantar เผยว่า YouTube ช่วยกระตุ้นให้เกิดความตั้งใจในการซื้อสูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ ถึง 2 เท่า ดังนั้น สำหรับภูมิภาคนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลแล้ว YouTube จึงยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับแบรนด์ต่างๆ ในการสานสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายและสร้างความสำเร็จทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Sapna กล่าวเพิ่มเติมว่า “YouTube Works Awards เป็นรางวัลสำหรับผู้นำในอุตสาหกรรมที่ช่วยหล่อหลอมอนาคตของการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ เราขอแสดงความยินดีกับทุกแคมเปญที่ชนะรางวัลในวันนี้ ซึ่งล้วนเป็นผลงานคุณภาพที่สร้างสรรค์ เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ และยกระดับมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการ เราตั้งตารอที่จะได้ชื่นชมผลงานอันน่าทึ่งในปีต่อๆ ไป”
ศุภศิษฏ์ โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ โอกิลวี่ ประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตัดสินรางวัล YouTube Works Awards ระดับประเทศและระดับภูมิภาค กล่าวถึงการเฟ้นหาแคมเปญที่โดดเด่นในปีนี้ว่า
“แคมเปญที่เข้าร่วมชิงรางวัลในปีนี้มีล้วนมีคุณภาพยอดเยี่ยม นับเป็นเรื่องที่ดีที่ได้เห็นแบรนด์ต่างๆ สร้างสรรค์โฆษณาดีๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ YouTube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์”