ในเส้นทางธุรกิจ มักต้องเผชิญกับความท้าทายอยู่เสมอ ไลโอ" (LYO) ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในกลุ่มแฮร์แคร์ หรือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ได้ผ่านเส้นทางการเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน ได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากผู้บริโภคในวงการผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ และแก้ไขในทุกปัญหาเส้นผม

ถึงแม้ว่าจะมีผู้เล่นในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของไทยเข้าไปชิงส่วนแบ่งนี้มากมายในมูลค่าตลาดรวมที่สูงถึง 3 หมื่นล้านบาท แต่ไลโอ" (LYO) ยังคงยืนหนึ่งบนความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ในหลายไลน์อัพ ที่ปัจจุบันมีสินค้าอยู่กว่า 15 รายการ อีกทั้งมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอยู่เสมอ

พร้อมการันตีความสำเร็จของเส้นทางด้วยรางวัล Thailand Trust Mark (T Mark) ประจำปี 2567 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หรือ รางวัล Best of Hair Color ที่สุดของบิวตี้ไอเท็ม จากSudsapda Beauty Awards 2024 

การนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญ นพรัตน์ มาลัยวงค์ กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ “ไลโอ” (LYO) เป็นอีกหนึ่งหัวเรือใหญ่คนสำคัญ ที่เป็นแรงขับเคลื่อน สร้างการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ “ไลโอ” (LYO) ให้เติบโตมาจนถึงปัจจุบัน โดยย้อนเรื่องราวว่า

“บริษัท 88(ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 เริ่มจากการทำแบรนด์เครื่องสำอาง ver.88 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และปัจจุบันยังคงมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง 

จนกระทั่งในปี 2563 ประเทศไทย และทั่วโลกเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 ระบาด ผู้บริโภคมีปัญหาด้านสุขภาพเส้นผม ซึ่งเกิดจากความเครียดและสภาวะต่างๆ และเราเองมองเห็นศักยภาพของบริษัทฯ ในการขยายไลน์ของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ได้ ในช่วงเดือนตุลาคม 2563 บริษัทฯ จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพเส้นผมออกสู่ตลาด ภายใต้แบรนด์ “ไลโอ” (LYO) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค

นอกจากนี้เรายังมีการปรับโฉม หรือ รีแบรนด์ใหม่แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม คือการผสมผสานภูมิปัญญาไทย ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดขายของเรา

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ “ไลโอ” (LYO) มี 3 กลุ่มหลัก คือ Anti-Hair Loss ลดผมร่วง Hair Color Shampoo สำหรับการปกปิดผมหงอก ผมขาว หรือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนสีผมในเวลาอันสั้น และล่าสุด ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวไป แชมพูสูตรสมุนไพร ทั้งสูตรอัญชัน สูตรมะกรูด โดยมี คุณแอน-ทองประสม เป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด

โดยทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จะถูกคิดค้นขึ้นโดยทีม R&D ร่วมกับทีมเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง (ดี โอ เค สกิน) ทำให้เราจัดการต้นทุน และสามารถควบคุมมาตรฐานการผลิตได้เองทุกขั้นตอน ผู้บริโภคมั่นใจได้ในคุณภาพ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของบริษัทฯ”

หากถามถึงผู้เล่นในตลาดแฮร์แคร์ ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่เป็นจำนวนมาก นพรัตน์ เผยว่า

“ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมในตลาดค่อนข้างมาก ถือเป็นการสร้างสีสันให้ตลาดโตขึ้น กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น สำหรับ “ไลโอ” (LYO) เรามุ่งเน้นทำการตลาดดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็น Social Media Online, Ecommerce Platform, การประชาสัมพันธ์ผ่าน Billboard และ TVC รวมถึงสื่อ Out of Home ที่มีเกือบในทุกจังหวัด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่อดพูดถึงไม่ได้ก็คือ การตัดสินใจติดต่อผู้ประกาศข่าวแถวหน้าของไทย อย่างคุณหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ หลังจากที่ได้ทดลองใช้สินค้าจริงแล้วเห็นผล คุณหนุ่ม กรรชัย ก็มองเห็นศักยภาพสินค้า จนเป็นที่มาของการเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ เพื่อปั้นไลโอให้โตไปด้วยกัน สามารถทำยอดขายได้ถึง 300 ล้านบาทในปี 2564

ความสำเร็จเหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากพลังของทีมงาน หรือทีมเวิร์ค ที่ผ่านมายึดหลักการบริหารทีม โดยให้ทุกคนได้แสดงออกถึงศักยภาพของตนเอง ทั้งความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ หรือบทบาทที่ได้รับ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้ลงมือทำ เพราะต่างคนต่างมีไอเดีย หรือความคิดที่แตกต่างกัน ทุกคนล้วนมีบทบาทที่สำคัญในบริษัท ทุกคนต่างมีส่วนร่วมในความสำเร็จ และเราเชื่อว่าสามารถสร้างทีมให้มีพลังได้”