'โซดาสิงห์' แบรนด์เครื่องดื่มระดับตำนานที่มีอายุกว่า 90 ปี และยังเป็นผู้นำตลาดโซดามายานาน 'Harley-Davidson' เป็นแบรนด์ผู้นำจักรยานยนต์ระดับตำนานของโลกที่มีอายุ 121 ปี

ใครจะคิดว่า 2 แบรนด์ระดับตำนานที่อยู่คนละธุรกิจจะมา Collaboration ร่วมกันสร้าง แคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า 'ซ่าให้สุดทาง' ที่เป็นการนำ 'จุดแข็ง' ของ 2 แบรนด์มารวมกัน

เพราะนอกจากจะเป็นแบรนด์ระดับตำนาน 'โซดาสิงห์' ยังมีสิ่งที่เหมือนกับ 'Harley-Davidson' นั้นคือเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้บริโภค โดยทุกๆ การเคลื่อนไหวคือ 'ไปให้สุดทาง' เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

ที่น่าสนใจกว่านั้น การร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของทั้ง 2 แบรนด์ 'โซดาสิงห์' เพิ่งเคยร่วมงานกับแบรนด์จักรยานยนต์ระดับตำนานของโลก 'Harley-Davidson' เพิ่งเคยร่วมงานกับแบรนด์เครื่องดื่มในทวีปเอเชีย  

เมื่อเป็นครั้งแรกของทั้ง 2 แบรนด์ ย่อมไม่ธรรมดา ทำให้แคมเปญ 'ซ่าให้สุดทาง' ที่เกิดจากความร่วมมือของสองแบรนด์นี้ จะมีสารพัดกิจกรรมการตลาดที่สุด Wow เป้าหมายก็เพื่อตอกย้ำแบรนด์โซดาสิงห์  ถึงการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค

ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยเรื่องนี้ ไว้อย่างน่าสนใจว่า

'โซดาสิงห์' เป็นแบรนด์เครื่องดื่มรายแรกของเอเชีย ที่ได้คอลแลปกับ 'Harley-Davidson' โดยความพิเศษของแคมเปญนี้ นอกจากจะออกฉลากลิมิเต็ด อิดิชั่นแล้ว ยังมีกิจกรรมในทุกภูมิภาคต่อเนื่องจนถึงปลายปี

โดยในปีนี้ โซดาสิงห์ ได้ร่วมเป็นเจ้าบ้านต้อนรับนักขับขี่จากหลากหลายประเทศทั่วเอเชีย ในงาน Asia Harley Days(TM) ซึ่งถือเป็นงานรวมตัวคนรักการขับขี่มากสุดในเอเชีย ที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ที่จังหวัดเชียงราย

ส่วนทางฝั่ง คุณ Mr. Mark O’Flaherty, ผู้บริหารระดับสูง Harley Davidson

เล่าถึงเบื้องหลังการร่วมมือในครั้งนี้ว่า การร่วมมือกับโซดาสิงห์ในประเทศไทย ผ่านแคมเปญ 'ซ่าให้สุดทาง' ก็เพื่อมอบความสนุกสนาน และประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ขับขี่ Harley Davidson ทั่วเอเชียได้มีโอกาสเข้าร่วมงานรวมตัวประจำปี Asia Harley Days ที่จังหวัด เชียงราย

ขณะเดียวกันแคมเปญ 'ซ่าให้สุดทาง' ยังมีของรางวัลพิเศษ ทั้ง Gift set เสื้อออฟฟิเชี่ยลคอลเลคชั่น จำนวนจำกัด ส่งตรงจาก Harley Davidson ประเทศสหรัฐอเมริกา

จนถึงยังมีกิจกรรมโรดโชว์เดินทางไปยังจังหวัด ภูเก็ต, พิษณุโลก, นครราชสีมา, เชียงใหม่ และ ปิดท้ายที่จังหวัดเชียงราย กับงาน Asia Harley Days(TM) ที่จะจัดคู่กับคอนเสิร์ต Singha Soda Music Concert 2024 ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย

และหากสังเกตตลอดเวลาที่ผ่านมา กลยุทธ์ Collaboration ของโซดาสิงห์ ถือเป็นกิจกรรมการตลาดที่สร้าง Impact อย่างต่อเนื่อง ผ่านพันธมิตรหลากหลาย อาทิ

• ร่วมมือกับ ALEX FACE ศิลปินผู้สร้างผลงานศิลปะบนกำแพง
• Mister Cartoon ช่างสักระดับโลก
• S.V.S.S. และ Dry Clean Only แบรนด์แฟชั่นสตรีตอาร์ต สัญชาติไทย

โดยการ Collaboration กับทุกๆ พันธมิตร จะถูกกลั่นกรองมาเป็นแคมเปญ ที่มีความซ่าส์ทางไอเดีย เพื่อให้สอดคล้องกับคาแรคเตอร์ของแบรนด์โซดาสิงห์ 

ทำให้ทุกๆ ปี ผู้บริโภคจะรอคอยว่า 'โซดาสิงห์' จะมีแคมเปญอะไรที่ wow  เพื่อสร้างความแปลกใหม่ในตลาด ตรงนี้เองที่ทำให้ทุกๆ แคมเปญที่โซดาสิงห์ Collaboration กับแบรนด์อื่นๆ ล้วนได้ผลตอบรับและความสำเร็จอย่างเกินคาด 

จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมโซดาสิงห์ ถึงมีส่วนแบ่งตลาดโซดาในเมืองไทยมากกว่า 90% มาหลายสิบปี เพราะถึงแม้จะมีสถานะเป็นผู้นำตลาดที่มียอดขายทิ้งห่างคู่แข่งอย่างขาดลอย 

แต่...โซดาสิงห์ เลือกที่จะไม่หยุดนิ่ง เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์ตัวเองให้อยู่ในใจผู้บริโภค ไม่ว่าเวลาจะผลัดเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตามที 

เป็นวิถีการสร้างแบรนด์ให้เป็นเบอร์หนึ่งอย่างยั่งยืนในตลาดโซดาเมืองไทย