สิงห์ เอสเตท คว้ารางวัล Global Business Outlook Award 2024 ผ่าน โครงการ S-OASIS
30 Oct 2024

 

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล ภายใต้วิสัยทัศน์ "Entrusted and Value Enricher" ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอาคารสำนักงาน โดยล่าสุด โครงการ S-OASIS คว้ารางวัล Most Innovative New Office Building Development จากเวที Global Business Outlook Award 2024 สะท้อนถึงความสำเร็จในการออกแบบอาคารอัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “เป็น/อยู่/ดีและยั่งยืน” เพื่อมุ่งสู่การเป็นสำนักงานที่ยั่งยืนระดับแนวหน้าของไทยในย่านวิภาวดี  พร้อมมอบประสบการณ์ “การทำงานพร้อมใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อ”

 

 

อรณีย์ พูลขวัญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ กล่าวว่า

“โครงการ S-OASIS นับเป็นโปรเจคสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าของบริษัทฯ ทั้งนี้ การได้รับรางวัลระดับโลกครั้งนี้ยืนยันได้ถึงศักยภาพของสิงห์ เอสเตท ในการสร้างสรรค์โครงการ ภายใต้แนวคิด “เป็น/อยู่/ดีและยั่งยื่น”

ที่มุ่งเน้นถึงความ เป็น : Smart & Sustainable Office ด้วย Integrated Smart Technology และ Green Material, อยู่ :ออกแบบให้สามารถใช้ชีวิตได้แบบ Day & Night ด้วยการสร้าง S Community, ดีและยั่งยืน : ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการจัดการโครงการ ด้วยมาตรฐาน ISO 9001, 14001 และ 45001, Well-being environment, พื้นที่สีเขียว, Customer design & flexible space รองรับความหลากหลายในการใช้งานและความยั่งยืนในทุกมิติของการใช้ชีวิตในที่ทำงาน

ซึ่งทั้งหมดนี้ตอบสนองความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานและชีวิตส่วนตัวกำลังหลอมรวมกันในรูปแบบ Work-Life Integration” ใช้ชีวิตทำงานที่คล่องตัวสูงในขณะเดียวกันก็ใช้ชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว

 

 

ความโดดเด่นในด้านนวัตกรรมภายใต้แนวคิด “เป็น/อยู่/ดีและยั่งยื่น” ของ S-OASIS ได้แก่

ด้านสิ่งแวดล้อม : ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED แสดงถึงความมีมาตรฐานในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าเป็นองค์กร Carbon Neutrality ภายในปี 2030 ด้วยการผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะ AI Technology เพื่อติดตามข้อมูลภายในอาคารแบบ Real-time ทำให้สามารถบริหารจัดการอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง โซล่าร์เซลล์และเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงธรรมชาติเพื่อประหยัดพลังงานและควบคุมแสงสว่างอย่างเหมาะสม, มีการจัดการน้ำในโครงการช่วยลดการใช้น้ำลงถึง 50% ผ่านการบำบัดและหมุนเวียนน้ำ พร้อมทั้งใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำที่ลดการใช้น้ำลง 20% นอกจากนี้ยังมีระบบเก็บน้ำฝนและเครื่อง RVM สำหรับรีไซเคิลขวดพลาสติก PET รวมถึงยังเป็นอาคารสำนักงานที่มีการติดตั้ง EV-Charger รองรับผู้มาใช้อาคารมากที่สุดบนถนนวิภาวดีรังสิต

การควบคุมคุณภาพอากาศภายในอาคาร : S-OASIS ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการติดตั้งเครื่อง UVC ในระบบ Chiller เพื่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศก่อนปล่อยเข้าสู่ระบบปรับอากาศ รวมทั้งติดตั้งเครื่อง AIRSteril UVGI Upper Room ในพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร เพื่อช่วยควบคุมและดูแลอากาศภายในอาคารให้สะอาดและปลอดภัย ช่วยลดสารก่อมลพิษทางอากาศ โดยสามารถลดปริมาณสารก่อมลพิษทางอากาศได้ทั้งสารอินทรีย์ระเหย, ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และฟอร์มัลดีไฮด์ มีการเติมและหมุนเวียนอากาศจากภายนอกเข้ามาภายในอาคารด้วยระบบความดันบวก (Positive Pressure) พร้อมด้วยระบบ Outdoor Air Unit (OAU) เพื่อประสิทธิภาพการกรองอากาศให้สะอาดยิ่งขึ้น 2 ชั้น  นอกจากนี้  ยังมีการติดตั้งแผ่นกรองละเอียดมาตรฐานสูง Medium Filter MERV 8 + HEPA Filter MERV 14 สามารถดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กถึง 0.3 ไมครอน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 ละอองเกสร หรือแม้แต่สปอร์เชื้อราก็ไม่อาจหลุดรอดเข้าไปภายในอาคารได้  อีกทั้งยังมีการติดตั้งหลอด UVC ภายในเครื่อง AHU เพื่อช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ อากาศภายในอาคารจึงสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรค

การออกแบบอาคารเชิงสร้างสรรค์ (Innovative Design) : โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย โปร่งโล่งสบายตา ด้วยกระจกสูงเต็มความสูงอาคาร (Full Height Window) ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเต็มที่ ช่วยประหยัดพลังงานและสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี นอกจากนี้ยังใช้วัสดุรีไซเคิลและผลิตภัณฑ์เคลือบพื้นผิวที่มีค่า Low VOCs เพื่อช่วยลดมลพิษและดูแลสุขภาพของผู้ใช้อาคาร ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่สีเขียวทั้งภายในและภายนอกกว่า 2,200 ตร.ม. เพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อน พร้อมระบบS-Hygiene ช่วยกรองอากาศ 2 ชั้น พร้อมเซนเซอร์ตรวจวัดระดับคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากจะเป็นสถานที่ทำงานแล้ว อาคารนี้ยังเติมเต็มไลฟ์สไตล์ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น S-OASIS Retail, SUN Plaza, foodPLACE และพื้นที่ Chill & Dine สำหรับพักผ่อนหลังเลิกงาน อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาชุมชนโดยรอบให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการปรับภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณประโยชน์เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวสำหรับการพักผ่อนให้กับชุมชนรอบข้าง และปรับปรุงลำคลองรอบอาคารให้ใสสะอาดขึ้นด้วย

การใช้งานพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ (Efficient Use of Space) : การออกแบบผังพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในสำนักงาน โดยมีเพดาน Knock-out Panel ที่ช่วยให้ผู้เช่าสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นออฟฟิศ 2 ชั้นได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีระบบ JUMP&SYNC ที่ให้ผู้เช่าปรับเปลี่ยนพื้นที่และระยะเวลาสัญญาเช่าได้อย่างยืดหยุ่น พร้อมอุปกรณ์สำนักงานและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่รองรับการทำงานแบบ Hybrid Model และบริการ MaxServe ซึ่งเป็นบริการทำความสะอาดสำนักงานแบบครบวงจรตามมาตรฐานสากลและถูกสุขอนามัย

การก่อสร้างที่ทันสมัย (Advanced Construction Techniques) : นำเทคโนโลยีล้ำสมัยและวิธีการที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำในการก่อสร้าง รวมถึงการควบคุมคุณภาพของงานให้ได้มาตรฐานสูง คำนึงถึงการลดผลกระทบต่อธรรมชาติและชุมชนรอบด้าน และการจัดการของเสียอย่างเหมาะสม

ระบบขนส่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Transport) : ทำเลใจกลางเมืองที่สะดวกต่อการเดินทาง ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนหลักอย่าง BTS และ MRT ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้รถยนต์ส่วนตัวและลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการเดินทางของพนักงาน ส่งเสริมความสะดวกสบาย และสนับสนุนแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนของโครงการในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม

 

สิงห์ เอสเตท ยืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนาโครงการต่างๆ อย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างคุณค่าและเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคม สิ่งแวดล้อม และชุมชน พร้อมขับเคลื่อนบริษัทฯ สู่การเป็นผู้นำในด้านความยั่งยืนและการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในอสังหาริมทรัพย์ไทย

[อ่าน 1,072]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บีเจซี เผยไตรมาส 3/67 ดันรายได้รวมเติบโตทะลุ 41,774 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโตกว่า 14.2%
“กิฟฟารีน” เปิดกระหึ่ม “Giffarine Flagship Store” ภูเก็ต เจาะใจกลางเมือง รับทัพลูกค้าไทย-นักท่องเที่ยวต่างชาติ
AIS 5G โชว์แกร่งโครงข่ายที่ 1 ตัวจริง SEA COVERAGE ครอบคลุม 2 ฝั่งทะเลไทย
KFC ครองตำแหน่ง “Advertiser of the Year” และคว้าอีก 29 รางวัล
Taiwan Excellence Pavilion 2024 นำ FU BEAR - ‘Best Made in Taiwan’ พรีเมียมมาสู่ประเทศไทย
เอสซีจี เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในอาเซียน มอบทุนอีก 3 ประเทศ
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved