เผยผลการวิเคราะห์เสียงในโซเชียลมีเดียการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวไทยสู่แดนมังกรสร้างปรากฏการณ์ใหม่ความสนใจอย่างท่วมท้นในโลกโซเชียลมีเดีย โดยข้อมูลล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 22 ตุลาคม 2567 พบว่ามียอดเอ็นเกจเมนต์มากกว่า 12 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2566 สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจอย่างล้นหลามของคนไทยที่มีต่อการท่องเที่ยวประเทศจีน
แสนรู้ (Zanroo) ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลดาต้า มีการวิเคราะห์เสียงในโซเชียลมีเดียจาก Social Listening tools ในเรื่องการฟรีวีซ่าจีน โดยข้อมูลล่าสุดตั้งแต่เริ่มใช้ฟรีวีซ่าวันที่ 1 มีนาคม - 22 ตุลาคม 2567 พบว่าคนไทยมีความสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจีน 1,844,877,753 ครั้ง โดย TikTok ครองแชมป์แพลตฟอร์มที่มีส่วนร่วมสูงสุด ด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์กว่า 1,549,697,313 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงพลังของคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่เข้าถึงผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาด้วย YouTube ที่มียอดเอ็นเกจเมนต์ 221,385,330 ครั้งและ Facebook ที่มียอดเอ็นเกจเมนต์ประมาณ 42,432,188 ครั้ง รวมถึงช่องทาง X (Twitter) มียอดเอ็นเกจเมนต์ 18,448,7788 ครั้ง, Instagram มียอดเอ็นเกจเมนต์ 12,914,144 ครั้ง
สะท้อนให้เห็นว่าคอนเทนต์วิดีโอเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยว โดยกลุ่มคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมคือ การแนะนำอาหารพื้นเมืองของจีน พาชมความอลังการของเมือง เช่น ถนนและรถไฟฟ้าที่มีความสูงราวตึก 6 ชั้น และการสัมผัสวัฒนธรรมจีน เช่น การแต่งตัวชุดจีบโบราณ เป็นต้น
พบว่านักท่องเที่ยวไทยที่เคยไปเที่ยวจีนมาแล้วต่างชื่นชมในด้านความคุ้มค่า ความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยว ความอร่อยของอาหาร และความสะดวกสบายจากนโยบายฟรีวีซ่า ซึ่งส่งผลให้เกิดการบอกต่อและชักชวนให้ผู้อื่นหันมาท่องเที่ยวจีนมากขึ้น โดยพบว่ามีคอนเทนต์วิดีโอพาเที่ยวประเทศจีนในโลกโซเชียลที่มาจากไทย Influencer ถูกโพสต์ไปแล้วกว่า 29,693 คอนเทนต์ และคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ปัจจัยหนุนการท่องเที่ยวจีน
จากการติดตามเทรนด์โซเชียลของแสนรู้ พบว่า ความสนใจในการท่องเที่ยวจีนได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากกระแส #แบนเกาหลี ที่มีความร้อนแรงติดเทรนด์ใน X (Twitter) ในช่วงเดือนมิถุนายน 2567 ส่งผลให้เกิดการแชร์และชักชวนให้หันมาท่องเที่ยวประเทศจีนมากขึ้น โดยเสียงสะท้อนในโซเชียลมีเดียชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยมองจีนเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ ด้วยความคุ้มค่าของค่าใช้จ่าย ความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว และความสะดวกสบายจากนโยบายฟรีวีซ่า
ตัวอย่างเสียงสะท้อนจากโซเชียลมีเดีย
"ไปเที่ยวจีนดีกว่า ตอนนี้ฟรีวีซ่าด้วย เซี่ยงไฮ้สวยไม่แพ้กัน ช้อปปิ้งก็ครบ อาหารอร่อย งบก็ประหยัดกว่า" - ผู้ใช้ TikTok
"ลองมาเที่ยวปักกิ่งสิ ประหยัดกว่าไปเกาหลีอีก อาหารอร่อย ที่พักดี มีที่เที่ยวให้เลือกเยอะ กำแพงเมืองจีนสวยมาก ถ่ายรูปสวยไม่แพ้ที่ไหน" - ผู้ใช้ Facebook
TOP 5 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย:
1. เซี่ยงไฮ้ - มหานครแห่งความทันสมัย
อันดับหนึ่งด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์กว่า 205 ล้านครั้ง เมืองที่ผสมผสานความทันสมัยกับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมคือ การไป Disneyland โซนที่ห้ามพลาดคือ Zootopia land ที่มีที่เซี่ยงไฮ้เท่านั้น การเปิดแผงขายประวัติเพื่อหาคู่ที่สวนสาธารณะ และการเป็นเมืองแห่งความทันสมัยด้วยตึกและอาคารสุดอลังการ
2. ปักกิ่ง - เมืองหลวงแห่งประวัติศาสตร์
ได้รับเอ็นเกจเมนต์ 176 ล้านครั้ง เมืองสะท้อนความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์จีน คอนเทนต์ที่โดดเด่น คือ การไปพิชิตแลนด์มาร์คระดับโลกกำแพงเมืองจีน การไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของชาติจีนที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน และพระราชวังฤดูร้อน อุทยานหลวงที่งดงามที่สุดของจีน ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก
3. ฉงชิ่ง - มหานครแห่งขุนเขาและหมาล่า
ด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์ 117 ล้านครั้ง เมืองมีจุดเด่นด้านสถาปัตยกรรมตึกระฟ้าและความเจริญเรื่องของถนนและสะพานที่สร้างสูงระฟ้า รวมถึงชื่อเสียงด้านอาหารท้องถิ่น โดยคนไทยสนใจอาหารในเมืองฉงชิ่งมากที่สุด อาทิเต้าหู้ขน การกินหมาล่าจากเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งหม้อไฟหมาล่า
4. กวางโจว - ศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรม
ได้รับ 77 ล้านครั้งของเอ็นเกจเมนต์ โดยการไปดูย่านเมืองใหม่จูเจียง (Zhujiang) มีสถาปัตยกรรมที่ต้องดูด้วยตาตัวเอง ทั้งตึกสวย โรงละคร ห้องสมุด และหอคอย Canton Tower ที่มีไฟแสงสีสุดอลังการ รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ถนนคนเดินซั่งเซี่ยจิ่วที่เต็มไปด้วยร้านค้า อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า ของประดับ ถนนคนเดินเป่ยจิงลู่ สำหรับการซื้อแบรนด์ดัง เช่น เเฟชั่น ร้านอาหารเเละร้านคาเฟ่
5. เฉิงตู - เมืองแห่งแพนด้า
ได้รับเอ็นเกจเมนต์ 76 ล้านครั้ง สถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ศูนย์วิจัยหมีแพนด้าที่ใหญ่สุดในเฉิงตู ได้พบกับน้องแพนด้าน่ารักขี้เล่น โดยแพนด้าที่โด่งดังคือน้อง ฮวาฮวาที่มีร่างกายเล็กกว่าแพนด้าทั่วไปหลายคนจึงมองว่าน่ารักจนได้ฉายา องค์หญิงน้อย
ข้อมูลจากแสนรู้สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยมีความสนใจที่หลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติ รวมทั้งชื่นชอบการขนส่งสารธารณะที่มีความสะดวกสบาย ล้ำสมัยด้วยการใช้รถไฟฟ้าแทนรถน้ำมัน รวมไปถึงการเป็นสังคมไร้เงินสดแบบเต็มรูปแบบที่สามารถแสกนจ่ายได้แบบ 100% บางส่วนแนะนำให้ลงทะเบียนแอปจ่ายเงินของจีนให้เรียบร้อย เนื่องจากการใช้แอปจากไทยอาจพบปัญหาในเรื่องการแสกนใช้จ่ายไม่ได้ในบางครั้ง และเมื่อสำรวจเสียงจากการไปเที่ยวที่จีนของคนไทยด้วย Zanroo Social Listening พบว่าการท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่คนไทยใช้สายการบินแบบ Low cost airline กว่า 84% ส่วนใหญ่ใช้บริการสายการบิน Thai AirAsia และสายการบินแบบ Full Service จำนวน 16% ส่วนใหญ่ใช้บริการสายการบิน Thai Airway
ด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์ที่สูงถึงเกือบ 2 พันล้านครั้ง และจากดาต้าพบว่าคนไทยมีการกลับไปเที่ยวจีนซ้ำมียอดเอ็นเกจเมนต์มากถึง 29 ล้าน แสนรู้คาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวจีนมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากนโยบายฟรีวีซ่า และกระแสโซเชียลที่ช่วยกระตุ้นความสนใจ ประกอบกับความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวไทยได้อย่างครบครัน