ผลสำรวจ LINE ระบุอนาคตฟินเทคยังสดใส เดินหน้าสร้างฟินเทคที่ง่ายและตอบโจทย์
09 Dec 2018

"LINE คอร์ปอเรชั่น" เปิดเผยข้อสรุปจากผลสำรวจในแง่ความคิดเห็นและความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีทางการเงิน หรือฟินเทคผ่านกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 5,000 คน ในตลาดหลัก 7 แห่ง โดยเน้นไปที่ตลาดใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ ญี่ปุุ่น ไทย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย รวมไปถึงเกาหลี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา พบว่า ในภาพรวมยังมีโอกาสสูงที่ฟินเทคจะเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง หากสร้างความรู้ความเข้าใจและการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค

ความพร้อมของโลกต่อฟินเทค

ผลสำรวจจากทั้ง 7 ตลาดหลัก ระบุ 64% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจยอมรับว่า เทคโนโลยีทางการเงินช่วยในการวางแผนและจัดการทางการเงินให้ง่ายขึ้น โดยรวมมีความเชื่อมั่นสูงต่อเทคโนโลยีด้านการเงิน คิดเป็น 63% ที่วางใจในผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตัวเองรู้จัก ส่วนอีก 30% ยังไม่มั่นใจ ขณะเดียวกันพบว่าความเชื่อมั่นมีแนวโน้มสูงขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วนกลุ่มคนอายุ 55 ปี หรือมากกว่า มีความเชื่อมั่นเพียง 55% เมื่อเทียบกับกลุ่มอายุ 18-34 ปี ที่มีความเชื่อมั่นสูงถึง 69% บ่งชี้ว่า ฟินเทคมีมูลค่าลงทุนที่สูงกว่ามากในกลุ่มคนรุ่นใหม่

อย่างไรก็ดีจากผลสำรวจทั้งหมด ผู้เข้าร่วมการสำรวจยังมีความรู้ความเข้าใจในบริการและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการเงินในระดับต่ำ คือมีเพียง 44% ที่ตอบว่ารู้จักเป็นอย่างดี ซึ่งในจำนวนนี้คือกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 18-34 ปี โดยมีสัดส่วนสูงถึง 52%

โดยจากบรรดาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่กลุ่มผู้เข้าร่วมการสำรวจต้องการใช้งานผ่านทางมือถือหรือแอพพลิเคชันมากที่สุด ได้แก่ บริการเงินฝาก (65%), บริการโอนเงิน (57%), บริการตรวจสอบยอดบัญชี (48%) และบริการประกันภัย (48%) โดยมีประกันชีวิต (65%), ประกันการเดินทาง (58%) และประกันที่อยู่อาศัย (50%) เป็นประเภทของบริการประกันภัยที่กลุ่มผู้เข้าร่วมการสำรวจต้องการเข้าถึงผ่านช่องทางดังกล่าวมากที่สุด 

ความพร้อมต่อฟินเทคยังคงแตกต่างกันมากในแต่ละภูมิภาค

ในขณะที่ผู้เข้าร่วมการสำรวจจากแต่ละประเทศต่างมีความสนใจและความกังวลที่แตกต่างกัน โดยไทย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย ให้ความสนใจกับการเงินดิจิตอลในอนาคตเป็นอย่างมาก เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ของสังคมไร้เงินสดในอนาคตพบว่า คำตอบจากทั้ง 3 ประเทศอยู่ในเกณฑ์บวกถึงกว่า 37% โดยเฉลี่ย ซึ่ง 57% ของผู้เข้าร่วมการสำรวจในไทยกล่าวว่า “รู้สึกตื่นเต้น” ที่จะเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ตามมาด้วยอินโดนีเซียที่ 56% และไต้หวันที่ 52% ส่วนเกาหลีก็ตอบรับในเชิงบวกเช่นกันโดยอยู่ที่ 45%

ประเทศเหล่านี้ต่างตอบรับในเชิงบวกกับการซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านบริการบนมือถือ ซึ่ง 65% ของผู้เข้าร่วม การสำรวจทั้งหมดจะเปิดบัญชีเงินฝากผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือนำโดยประเทศไทยที่ 83% ตามมาด้วย อินโดนีเซีย 77% และไต้หวัน 69% (ผลตอบรับในเกาหลีก็ดีเช่นกัน โดยอยู่ที่ 75%) 

ขณะที่ผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ต่างยังไม่กระตือรือร้นที่จะออกจากระบบการเงินแบบเดิม มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ตื่นเต้นกับสังคมไร้เงินสด โดยญี่ปุ่นอยู่ที่ 24% สหรัฐอเมริกา 20% และสหราชอาณาจักรรั้งท้ายที่ 19% 

เฉพาะในญี่ปุ่นถือว่า ยังรั้งท้ายประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ในเรื่องของการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด แต่อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็กำลังพยายามที่จะลดการพึ่งพาเงินสดให้มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน จึงถือว่ายังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมาก 

ในส่วนของการซื้อบริการฟินเทคต่าง ๆ ผ่านทางมือถือ ผลสำรวจจากทั้งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ยังถือว่า น้อยกว่าค่าเฉลี่ย โดยญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ที่ต้องการเปิดบัญชีเงินฝากผ่านมือถือน้อยที่สุดเพียง 49% ขณะที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 53% และสหราชอาณาจักรที่ 57% (จากผลสำรวจเฉลี่ยที่ 65%) อย่างไรก็ดี ในแง่การลงทุนผ่านทางมือถือ สหราชอาณาจักรรั้งท้ายที่ 28% ตามด้วยสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นอยู่ที่ 37% ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของผลสำรวจที่ 45% 

คนญี่ปุ่นยังไม่พอใจกับตัวเลือกในปัจจุบันแต่ก็ยังไม่รู้จักตัวเลือกใหม่ดีนัก

หากเปรียบเทียบกับประเทศไทย อินโดนีเซีย และไต้หวัน ญี่ปุ่นยังรั้งท้ายจากผลสำรวจในแง่ความเชื่อมั่น และความเข้าใจต่อฟินเทค โดยผู้ร่วมการสำรวจที่เชื่อมั่นในฟินเทคมีเพียง 38% หากเทียบกับค่าเฉลี่ยผลสำรวจซึ่งอยู่ที่ 63% และจากรายงานมีเพียง 22% ที่รู้จักฟินเทคเป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 44%

ผลสำรวจระบุว่า ชาวญี่ปุ่นนิยมทำธุรกรรมทางธนาคารด้วยตัวเองมากที่สุด (อยู่ที่ 80% เทียบกับผลสำรวจเฉลี่ย 68%) และไม่นิยมทำธุรกรรมดังกล่าวผ่านทางมือถือที่สุด (คิดเป็น 38% เทียบกับผลสำรวจเฉลี่ย 58%) แต่ในขณะเดียวกันกลับพบว่า ญี่ปุ่นรั้งอันดับท้ายในเรื่องความพึงพอใจต่อการให้บริการทางการเงินในปัจจุบัน (คิดเป็น 31% เทียบกับผลสำรวจเฉลี่ย 67%) ซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคเองก็มีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่เช่นกัน

LINE ในฐานะผู้บุกเบิกบริการฟินเทคบนมือถือ

LINE ตระหนักถึงความแตกต่างในแต่ละประเทศ จึงได้ใช้เวลาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ฟินเทคตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยในเดือนธันวาคม 2557 LINE ได้เปิดตัว "LINE Pay" ซึ่งเป็นบริการโอนและจ่ายเงินสำหรับแอปพลิเคชัน LINE จนถึงปัจจุบันมียอดผู้สมัครใช้งานถึงกว่า 40 ล้านบัญชี และมียอดทำธุรกรรมทางการเงินทั่วโลกกว่า 450,000 ล้านเยนต่อปี และเมื่อเดือนมกราคม 2561 LINE ยังได้ก่อตั้ง บริษัท LINE Financial คอร์เปอเรชั่น จำกัด หรือ “LINE Financial” เพื่อสร้างสรรค์บริการทางการเงินที่หลากหลายขึ้นสำหรับใช้งานผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE

ปัจจุบัน LINE Financial ยังคงนำเสนอบริการด้านประกันภัยผ่านทาง "LINE Insurance" ด้านการลงทุนผ่านทาง "LINE Smart Invest" และด้านบริหารการเงินส่วนบุคคลผ่านบริการ "LINE Kakeibo" ในประเทศญี่ปุ่น และล่าสุดได้ประกาศแผนการก่อตั้งธนาคาร แพลตฟอร์มให้คะแนนเครดิต และบริการสินเชื่อ โดยกำลังจะนำบริการด้านการเงินใหม่ ๆ เหล่านี้เข้าสู่แพลตฟอร์มหลักของ LINE ในอนาคต

“LINE มีทิศทางการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน เรามองเห็นศักยภาพจากความต้องการบริการฟินเทคที่สูงมากในตลาดเอเชีย ขณะเดียวกันเราก็พยายามเอาชนะความท้าทายในแต่ละตลาดที่แตกต่างกันไป”  ทาเคชิ อิเดซาวะ ประธานกรรมการบริหาร LINE Corporation กล่าวและปิดท้ายว่า

“จากการชำระเงินแบบไร้เงินสดมาจนถึงบริการด้านประกันภัยและการลงทุน LINE มุ่งมั่นนำผลิตภัณฑ์และบริการฟินเทคมาสู่ผู้ใช้งานให้ง่ายดายสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและตรงกับความต้องการให้มากที่สุด”

[อ่าน 1,893]
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดแผนใหญ่ของ Nintendo ในธุรกิจบริการ หวังยกระดับประสบการณ์แฟนเกม
OPPO Find X8 Series เปิดตัวชิป MediaTek Dimensity 9400 SoC สู่ตลาดโลก
Spotify เผยผลประกอบการ Q3 2024: ผู้ใช้งานทะลุ 640 ล้านคน กำไรสุทธิ 300 ล้านยูโร
ฝันลมๆ แล้งๆ หรือปฏิวัติวงการ? Elon Musk ท้าชน ‘ขบวนรถไร้คนขับ’ ด้วย Robotaxi สุดล้ำ!
‘เลอโนโว’ นำเสนอผลิตภัณฑ์ AI ล้ำยุค ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน @ Tech World 2024
ถ้าทรัมป์มา ปี 2025 จะเกิดอะไร
MAGAZINE UPDATE
Owner
DOUBLE D CREATION Co.,Ltd.
เอเวอร์กรีนวิว ทาวเวอร์ ชั้น 4
เลขที่ 22/43 ซอยบางนา-ตราด 56 ถนนบางนา-ตราด
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
Tel : 0-2751-4995-6
Mobile : 062-194-4561
Advertising
ติดต่อโฆษณา และ การตลาด
คุณศุภากร ยาตพงศ์ (บู)
Mobile : 08-1355-3636
Tel : 0-2751-4995-6
E-mail : market-plus@hotmail.com
info@marketplus.in.th
PR News
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์
E-mail : info@marketplus.in.th,
market-plus@hotmail.com,
marketplus@hotmail.co.th
Copyright © 2016 DOUBLE D CREATION Co.,Ltd. All rights Reserved