กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เปิดตัวโครงการใหม่ Frasers Property Last Mile Hub คลังสินค้าที่เชื่อมต่อเส้นทางคมนาคมหลายสายทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หนุนการจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและไร้รอยต่อ รวมถึงตอบรับการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG กับการพัฒนาตามมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากลอย่าง LEED หวังเจาะกลุ่มลูกค้าชั้นนำในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, 3PL และ Last Mile Delivery
พีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT ให้ข้อมูลว่า เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ได้ร่วมกับบริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลาสต์ ไมล์ ฮับ (Frasers Property Last Mile Hub) รองรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (3PL) และ Last Mile Delivery รวมถึงกลุ่มค้าปลีกและสินค้าอุปโภคบริโภค
โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 31 ไร่ในใจกลางโซนอุตสาหกรรมปู่เจ้าสมิงพราย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ที่ยอดเยี่ยม เชื่อมต่อทั้งถนนกาญจนาภิเษกและถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน ยังอยู่ใกล้ท่าเรือสหไทย เทอร์มินอลเพียง 4 กม. และไม่ไกลจากท่าเรือคลองเตย จึงมีความโดดเด่นอย่างยิ่งในการเป็น Last Mile Hub สำหรับจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็วสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ และบริเวณโดยรอบ อีกทั้งสามารถรองรับธุรกิจที่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าได้เป็นอย่างดี
การพัฒนาโครงการนี้เกิดจากการที่บริษัทเล็งเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจโลจิสติกส์ให้มีการเติบโต โดยวิจัยกรุงศรีระบุว่า ในช่วงปี 2567-2569 คาดว่าปริมาณขนส่งสินค้าทางถนนจะขยายตัว 2-3% ต่อปี หนึ่งในปัจจัยที่ผลักดันกิจกรรมการขนส่งมาจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่จะเติบโต 15-22% ต่อปี ซึ่งช่วยหนุนการขนส่งในรูปแบบ B2B (Business to Business) และ B2C (Business to Consumer) รวมถึงความต้องการการจัดส่งจากร้านค้าไปยังลูกค้าถึงหน้าบ้าน (Last-mile Logistics) เพิ่มขึ้น
สำหรับเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลาสต์ ไมล์ ฮับ ประกอบด้วยอาคารคลังสินค้าแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) 10 หลังและออฟฟิศ 1 หลัง พื้นที่รวม 21,000 ตร.ม. แต่ละอาคารมีครบทั้งพื้นที่ออฟฟิศและพื้นที่จัดเก็บสินค้า โดยพื้นสามารถรองรับน้ำหนักได้ 3 ตันต่อตร.ม. และสูง 10 ม. ถูกออกแบบตามมาตรฐานอาคารเขียวระดับสากลอย่าง LEED ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้อาคาร ทั้งการเลือกวัสดุที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย, ใช้วัสดุที่มีสารระเหยต่ำ (Low VOCs), วัสดุที่ลดการสะสมความร้อนภายในอาคาร, ใช้ไฟ LED และสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ เป็นต้น จากการออกแบบอาคารตามมาตรฐาน LEED ส่งผลให้โครงการสามารถลดการใช้พลังงานได้ 35% และประหยัดน้ำได้ถึง 52% พร้อมส่งเสริมการขนส่งที่ยั่งยืนด้วยการติดตั้ง EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าภายในโครงการอีกด้วย
“จากความโดดเด่นของโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลาสต์ ไมล์ ฮับ ที่อยู่บนทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อกับเส้นทางคมนาคมที่หลากหลาย ช่วยลดระยะเวลาและลดต้นทุนการขนส่งของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และการผสมผสานกับจุดเด่นของอาคารที่พัฒนาตามมาตรฐาน LEED ยิ่งเติมเต็มโครงการนี้ให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น รองรับลูกค้าชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG (Environmental, Social, Governance) โดยตอนนี้มีลูกค้ากลุ่ม 3PL ให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการแล้ว ซึ่งเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าโครงการนี้สามารถตอบโจทย์การบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ และเพิ่มประสิทธิภาพการส่งมอบสินค้าไปถึงผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว” พีระพัฒน์กล่าว