ก่อนถึงโค้งสุดท้ายของปี 2567 การเปิดมุมคิดของ Brand Strategist อย่าง ‘อาจารย์โก้’ วีรพล สวรรค์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กับทิศทางการดำเนินยุทธศาสตร์ EPS : Expertise, People, Sustainability ของ Eminent Air เบอร์ 1 เครื่องปรับอากาศแบรนด์ไทยในวาระก้าวสู่ปีที่ 47 บริษัทฯ ปักธง นับแต่ Day-1 ด้วย Tagline ‘เย็นทั่วไทย ก้าวไกลระดับโลก’ วิสัยทัศน์ยุคก่อตั้งที่บอก ‘ธง’ อย่างแจ่มชัดตั้งแต่ก่อตั้งถึงเป้าหมายของแบรนด์
ก่อนถึงสิ้นปีนี้ สภาพตลาด และการเติบโตของ Eminent Air 3 ไตรมาสเป็นอย่างไร
ในมุมนักการตลาดอาจต้องเริ่มมองจากกำลังซื้อของผู้บริโภค และการบริโภคที่ไม่สดใสนัก จากปัจจัยลบเศรษฐกิจที่มีทั้งหนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ปัญหาการว่างงาน ภาวะว่างงานแฝง ปัญหาน้ำท่วม ภาวะเงินเฟ้อ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ไม่ค่อยดีนัก ปัญหาเงินบาทแข็งค่าที่ส่งผลกระทบกับตัวเลขการส่งออกและกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย
นอกจากนี้ ธุรกิจหลายภาคส่วน อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ ร้านอาหาร ฯลฯ ก็มีปัญหา ทำให้ตลาด B2B โดยรวมลดลง ทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในปีนี้คาดว่า น่าจะอยู่ที่ 5-10% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าตอนต้นปีที่คาดการณ์ว่าน่าจะเติบโต 15-20% ขณะที่เราเองก็ทำกิจกรรมทางการตลาดนับจากตอนต้นปี และคาดว่าสิ้นสุดไตรมาส 3/67 Eminent Air น่าจะเติบโตที่ 20% และเป็นอัตราการเติบโตที่มากกว่าภาพรวมของตลาดอย่างต่อเนื่องกันอีกปี
สำหรับช่วงสิ้นปีนี้ยังมีตัวแปรที่สำคัญอีกประการคือ ปัญหาอุทกภัย ถ้าหากสถานการณ์ยืดเยื้อไปอีก ก็จะส่งผลกระทบต่อรายได้ และยังต้องมีการซ่อมแซมฟื้นฟูในเขตอุทกภัยอีกด้วย ซึ่งบริษัทฯ เองก็มีมาตรการช่วยเหลืออุทกภัยภายใต้ แคมเปญ ‘ถึงเวลาไทยต้องช่วยไทย’ ด้วยการลดค่าอะไหล่ในเขตพื้นที่อุทกภัยให้ 50% ตลอดตุลาคมที่ผ่านมา
ส่วนเครื่องปรับอากาศที่ยังอยู่ในระยะการรับประกัน ปกติจะไม่ครอบคลุมในส่วนของอุทกภัย แต่ในครั้งนี้สำหรับเขตน้ำท่วมเรามีมาตรการช่วยเหลือฟรีทั้งค่าบริการและค่าอะไหล่
ทิศทางสู่ทศวรรษที่ 5 ของ Eminent Air เป็นอย่างไร
ปีนี้บริษัทฯ ได้นำเอา Tagline ‘เย็นทั่วไทย ก้าวไกลระดับโลก’ ซึ่งเป็นสโลแกน ณ จุดเริ่มต้นที่ คุณณรงค์ศักดิ์ สุนทรวสุ ประธานกรรมการ บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ใช้เมื่อช่วงก่อตั้งมาใช้อีก เพราะนี่คือ ‘ธง’ ที่บริษัทฯ ต้องการทำตลาดไปทั่วโลก และในปีหน้าเราจะส่งแมสเสจในมิตินี้มากขึ้น และจะมีหนังโฆษณาชุดใหม่ด้วย
สำหรับการย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นครั้งนี้ Eminent Air อยากทำให้คนไทยภาคภูมิใจได้จริงๆ ว่าคนไทยเรามีแบรนด์เครื่องปรับอากาศที่แข็งแรง สู้กับแบรนด์เครื่องปรับอากาศระดับโลกได้จริงๆ เป็นแบรนด์ที่คนไทยเชื่อมั่นได้จริงๆ เพราะประเทศไทยก็ส่งออกเครื่องปรับอากาศออกไปต่างประเทศมากมาย นี่จึงเป็นแนวคิดที่จะใช้ต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์ไทย ความเป็นคนไทยที่ให้บริการอย่างจริงใจ นับแต่การขายโปรดักท์เต็มบีทียู มีราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งเป็นราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดได้
แต่สภาพตลาดไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัยก็ยังแข่งขันที่ราคา
ถูกต้อง เมื่อเทียบกับค่าเหล็ก อะลูมิเนียม ค่าวัตถุดิบอื่นๆ ที่ขึ้นราคา แต่ราคาเครื่องปรับอากาศปรับตัวขึ้นแค่ 2% เท่านั้น นั่นเป็นเพราะมีแบรนด์ที่กดราคาอยู่ ทำให้หลายๆ แบรนด์ในตลาดปรับราคาขึ้นไม่ได้ ทั้งที่ราคาควรสะท้อนต้นทุน แต่ในทางปฏิบัติ ราคาไม่ได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ทั้งที่การตั้งโครงสร้างราคาควรจะเป็นราคาที่เหมาะสมพอที่จะสามารถให้บริการหลังการขายไปได้ 10 ปี เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าที่ต้องการการบริการหลังการขาย และต้องการการดูแลแทบจะทุก 6 เดือนด้วยซ้ำ ซึ่งประเด็นนี้ทุกแบรนด์ควรต้องหันมามองแล้วว่า ราคาที่ขายนั้นคุ้มกับค่าอะไหล่ระยะยาวหรือไม่
กลยุทธ์ที่จะปักธงรบในปีหน้า จะโฟกัส ณ จุดไหน
ยุทธศาสตร์ของ Eminent Air ที่ดำเนินการนับจากนี้ดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ EPS ซึ่งประกอบด้วย Expertise – People – Sustainability กล่าวคือ
ถือเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของการทําธุรกิจในปัจจุบัน สำหรับ Eminent Air ก็ยังคงโฟกัสกับความถนัดและความเชี่ยวชาญของเรากับการผลิตเครื่องปรับอากาศทุกรูปแบบ ด้วยจุดยืนของแบรนด์ ‘Total Air Solution’ เพราะในเรื่องของการทำความเย็นนั้นมีรายละเอียดเชิงลึกที่แตกต่างกัน อาทิ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศในเรือ, บ่อเลี้ยงปลาโลมา, โรงพยาบาลขนาดใหญ่, โรงแรม ย่อมจะแตกต่างจากร้านสุกี้ ชาบู ที่มีความร้อนเกิดขึ้นตลอดเวลา หรือแตกต่างจากร้านฟาสต์ฟู้ดที่มีลูกค้าแค่แวะเวียนมาในระยะเวลาไม่นาน หรือในสถานที่เที่ยวกลางคืนก็จะมีผู้ใช้บริการต่างกันในเวลาปกติที่บางช่วงอาจมีคนน้อย แอร์ก็ไม่ต้องเย็นมาก แต่เวลามีคอนเสิร์ตคนมากขึ้น การใช้เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์ก็จะเร่งสปีดความเย็นได้ ที่สำคัญ เนื่องจากเราเป็นผู้ผลิตจึงสามารถดูแลเรื่องอะไหล่ได้ดีและรวดเร็ว อีกทั้งมีศูนย์บริการถึง 124 แห่งก็ช่วยทำให้เราสามารถบริการได้รวดเร็วขึ้น
ธุรกิจของเราถือว่าอยู่ใน People Business เช่นกัน ตลอดระยะเวลาของการดำเนินธุรกิจเราให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานช่างแอร์ไทย ด้วยความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (TQPI) อย่างต่อเนื่องนับแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน โดยได้อบรมและมอบวุฒิบัตรช่างแอร์ซึ่งเป็น License ตามมาตรฐานที่ กฎหมายกำหนดไปแล้ว 1,728 ท่าน หรือเฉลี่ยปีละกว่า 300 ท่าน ทั้งนี้ ในการรับวุฒิบัตรดังกล่าว ช่างแอร์จะต้องผ่านการสอบทั้งทฤษฎี ปฏิบัติ และผ่านการสอบสัมภาษณ์ ซึ่งการพัฒนาบุคลากรในส่วนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ Service Excellence ของ Eminent Air
จากความทุ่มเทเพื่อความยั่งยืนตลอดเวลาของการดำเนินธุรกิจ ปี 2568 จะเป็นปีแห่งความยั่งยืน และเป็นเมกะเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ในฐานะที่เราเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกนั้นในทางปฏิบัติเราทำมาก่อนนหน้านี้นานแล้ว ที่สำคัญ เราใช้น้ำยาแอร์ที่ดีที่สุดในตอนนี้อยู่แล้ว และทำลายโอโซนน้อยที่สุดตามที่กฎหมายกำหนด และจากความทุ่มเททั้งของฝ่ายผลิต และฝ่ายโรงงาน ทำให้บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO หลากหลายประเภท ทั้ง ISO 14000 ด้านสิ่งแวดล้อม, ISO 51000 ที่เกี่ยวกับการจัดการพลังงาน และล่าสุดเราได้ ISO 14064-1 ด้านความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งเป็นมาตรฐานว่าด้วยหลักการและข้อกำหนดระดับองค์กรสำหรับการวัดปริมาณและการรายงานผลการปลดปล่อยและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก รวมถึงข้อกำหนดสำหรับการออกแบบ การพัฒนา การจัดการการรายงาน และการทวนสอบบัญชีรายการปลดปล่อยและการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกขององค์กร
ส่งท้ายปี 67 Eminent Air จะส่ง ‘ความว้าว’ อะไรก่อนถึงปี 68 หรือไม่
ช่วงไตรมาส 4 นี้จะเห็นอะไร ‘ว้าวๆ’ อย่างแน่นอนได้จาก ‘โครงการพาช่างเที่ยว 2024’ โครงการสะสมแต้มคะแนนของช่างแอร์จากการติดตั้ง Eminent Air ระหว่างกุมภาพันธ์ - สิงหาคม 2567 และที่ ‘ว้าวๆ’ คือ มีการทำลายสถิติทุกเดือน โดยเฉพาะช่วงกรกฎาคม - สิงหาคมที่มียอดสะสมแต้มสูงเกิน 80% ซึ่งถือว่าสูงมาก เพราะหมายความว่า จากสินค้า 100 หน่วยที่เราจำหน่ายออกไปมีการสะสมคะแนนกลับมาจากช่างแอร์ทั่วประเทศ 80% และรางวัลของการสะสมคะแนนมีหลากหลายรวมทั้งการแลกทองคำ และทริปเที่ยวต่างประเทศ โดยปีนี้ Eminent Air ได้จัดทริปพาช่างแอร์ 823 ท่านไปเที่ยวต่างประเทศ ถือเป็นทริปช่างแอร์ที่มากที่สุดในประเทศไทย และเป็นช่างแอร์ทั้งหมด ไม่รวมดีลเลอร์
‘โครงการพาช่างเที่ยว 2024’ จัดแบบยิ่งใหญ่แบบนี้ สืบเนื่องจากเมื่อ 4 ปีก่อนเป็นช่วงโควิด พาช่างออกนอกประเทศไม่ได้ก็พาเที่ยวในประเทศไปก่อน แต่พอหลังผ่อนคลายมาตรการโควิดปี 2565 ก็จัดทริปไปเวียดนาม ปี 2566 ไปญี่ปุ่น และปีนี้จัด 15 ทริปถือว่ามากที่สุด ผมเชื่อว่า นี่คือทริปช่างแอร์ที่มากที่สุดแล้ว
โดยเป็นทริปรวม 3 Destinations - 15 ทริป แบ่งเป็นดูไบ 3 ทริป (ตุลาคม) ตามด้วย เฉินตู - ฉงชิ่ง 4 ทริป (พฤศจิกายน) และคุนหมิง 8 ทริป (ธันวาคม) มากกว่าทริปปี 2566 ที่พาช่างแอร์ไป 400 ท่าน และบอกเลยว่าเป็นทริปที่สนุกสําหรับช่างแอร์ เพราะ Eminent Air ‘เปย์’ หมดทุกอย่างอย่างแท้จริง
ส่วนอะไรที่ ‘ว้าวๆ’ ในช่วงปีหน้าก็ต้องรอดู บอกได้แค่ว่า ในปีหน้าเรามีแผนจะเปิดตัวอะไรอีกหลายอย่าง รวมทั้งมีพันธมิตรใหม่ๆ ทางด้านช่างเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ดีขึ้นกว่านี้อีกมากๆ