เมื่อวันที่ 7-8 ธันวาคม ที่ผ่านมา งาน “Big Mountain Music Festival 14” เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความคึกคัก และน่าตื่นเต้นกว่าที่เคย เมื่อผู้จัด GAYRAY, GMM SHOW หน่วยงานภายใต้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (มหาชน) ได้เปิดบ้านต้อนรับผู้จัดเทศกาลดนตรี ผู้คัดเลือกศิลปิน และเอเจนซี่ระดับโลก จำนวน 20 คน จากโครงการ Music Exchange ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เพื่อสร้างโอกาสและขยายความร่วมมือครั้งใหม่ให้บุคลากรในวงการเพลงไทย

รายชื่อผู้จัดเทศกาลดนตรีระดับโลกฯ ที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ได้แก่

• Martin Elbourne Advisor/Booker of Glastonbury Festival, England
• Johnnie Moylett Promoter-Director of Fuji Rock Festival, Japan
• Shun Ebihara Project Manager of Creativeman Productions/Summer Sonic, Japan
• Howon Lee Director of Busan Rock Festival, South Korea
• Kong Yoon Young Founder/Executive Director of Zandari Festa, South Korea
• Kaushik Dutta Founder Director of Asia Music Summit, India
• Kukuh Rizal Arfianto Director of Jakarta Music Con & Here Come The Sun Eater Festival, Indonesia
• Hanna Kate Nicdao Chief Executive Officer of Wish Us Luck Entertainment, Philippines
• Mao Yue Feng Booking Director of Modern Sky (A), China
• Daryl Hurs Founder & Director of Indie Week aka. Canadian Music Week, Canada,
• Peiti Huang (Head/Programmer of World Music Festival @Taiwan, Taiwan)
• Enkhzaya Jamsran (Development & Partnership Director, Mongolia)
• Dijana Lakus International Relation Manager of Prague Music Week, Czech Republic
• Budha Terao CEO of Big Romantic Records, Japan
• Jonghyun Lee Producer of Have a nice trip, South Korea
• Hsiao, Ta-Chien Curator of Vagabond Festival, Taiwan
• Chen, Hsiao Hsuan Project Manager of Young Team Productions, Taiwan
• Aldila Karina Putri Astari Director of Communication of Synchronize Fest, Indonesia
• Priya Dewan Founder of Gig Life Pro, Singapore
• Galina Metelskaya Independent Artist Booker, Russia

ตลอด 2 วัน คณะผู้จัดเทศกาลดนตรีระดับโลกฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมมากมายตลอด 2 วันเต็ม อาทิ ชมการแสดงจากทั้ง 8 เวทีภายในงาน สัมผัสบรรยากาศในมุมมองของผู้ชม รวมถึงร่วมกิจกรรม Networking Event และ Business Matching กับศิลปิน ค่ายเพลง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างความร่วมมือทางด้านการแลกเปลี่ยนศิลปินในอนาคตให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งงานนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถสร้างความประทับใจ และสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้มากมาย

Martin Elbourne ที่ปรึกษาและผู้คัดเลือกศิลปินจากเทศกาลดนตรี Glastonbury Festival, UK กล่าวหลังงานร่วมกิจกรรมทั้ง 2 วันว่า Big Mountain Music Festival ครั้งนี้ ทำให้ตนตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทยในรอบ 30 ปี เพราะอยากมาพบกับศิลปินไทยที่ขึ้นโชว์ในเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเมื่อได้มาแล้วก็รู้สึกประทับใจ ได้ดูโชว์ของศิลปินจำนวนมาก ในหลากหลายแนวเพลง ตั้งแต่ป็อป ร็อก อินดี้ ไปจนถึงเพลงพื้นบ้าน

“ในฐานะที่ผมทำงานด้านการจัดเทศกาลดนตรีมา 40 กว่าปี ผมเชื่อมั่นว่าเทศกาลดนตรีมีความสำคัญมากกับการผลักดันวงการเพลง โดยเฉพาะงานขนาดใหญ่อย่าง Big Mountain Music Festival เพราะเป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้ชมได้ชมโชว์ของศิลปินที่ชอบ ได้ค้นพบศิลปินใหม่ๆ และยังได้เจอผู้คนที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน ขณะที่ศิลปินและค่ายเพลงก็จะได้เจอกับผู้ชม และมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ในการทำงาน”

ด้าน Johnnie Moylett ผู้จัดงาน Fuji Rock Festival เทศกาลดนตรีขนาดใหญ่จากญี่ปุ่น เปิดเผยว่าประทับใจในการมาชมงานครั้งนี้มาก เพราะเป็นเทศกาลดนตรีสัญชาติไทยขนาดใหญ่ ที่มีศิลปินหลากหลายแนว มีหลายเวที มีโปรดักชั่นอลังการ และมีผู้ชมเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศเทศกาลดนตรีที่เป็นของไทยอย่างแท้จริง และค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน โดยหลังจากชมโชว์มาครบทุกวัน มีศิลปินมากมายที่รู้สึกประทับใจในความสามารถ ทั้งด้านการร้องเพลง และการสื่อสารกับผู้ชม จนอยากร่วมงานด้วย

“เทศกาลดนตรีมีความสำคัญมากกับการผลักดันวงการเพลง เพราะเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้ศิลปิน ผู้ชม ค่ายเพลง ผู้จัดเทศกาลดนตรี และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มาเจอกันและทำความรู้จักกัน ซึ่งก่อนมางาน ผมได้หาข้อมูลของศิลปินมาบางส่วนแล้ว แต่พอถึงวันจริงผมได้ดูโชว์ของศิลปินอีกมากมายที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วย เป็นโอกาสที่เหนือความคาดหมาย แต่รู้สึกประทับใจ นอกจากนั้น งานครั้งนี้ยังทำให้ผมเข้าใจอินไซต์ของคนไทยมากขึ้นว่าเป็นกลุ่มคนที่รักเสียงเพลง และชื่นชอบการท่องเที่ยวเทศกาลดนตรี ผมได้เห็นความรักมากมาย และเห็นใบหน้าที่มีรอยยิ้ม จากทั้งศิลปินและผู้ชม มีเพียงไม่กี่งานเท่านั้นที่จะมีบรรยากาศแห่งความสุขแบบนี้”

Shun Ebihara โปรเจกต์เมเนเจอร์มากฝีมือของ Creativeman Productions บริษัทผู้จัดเทศกาลดนตรี Summer Sonic แสดงความคิดเห็นว่า เทศกาลดนตรีเป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้ร่วมงานได้ค้นพบสิ่งใหม่ ทั้งศิลปิน ดนตรี ผู้ชม และอื่นๆ อีกมากมาย จึงมีความสำคัญมากกับการผลักดันวงการเพลง ในประเทศไทยเองก็มีเทศกาลดนตรีจำนวนมากที่ช่วยผลักดันวงการเพลงไทยได้ ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี โดยการมาชมงานครั้งนี้ ทำให้ตนเข้าใจวงการเพลงไทยมากขึ้น และมองเห็นโอกาสใหม่ในการทำงาน

“รูปแบบการจัดงานของ Big Mountain Music Festival มีความใกล้เคียงกับงาน Summer Sonic ที่โอซาก้า เพราะเป็นเทศกาลดนตรีเอาท์ดอร์ที่จัดนอกเมืองหลวง แต่ก็มีเอกลักษณ์ที่ต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นโชว์ของศิลปินไทย ที่ผมได้ไปชมและรู้สึกชื่นชอบในหลายเวที สถานที่จัดงานท่ามกลางธรรมชาติ การบริหารจัดการงาน และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่รองรับคนจำนวนมากได้ดี”

ปิดท้ายด้วย Howon Lee ผู้บริหารจากเทศกาลดนตรี Busan Rock Festival ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งให้สัมภาษณ์ร่วมกับ Subhin ผู้บริหารอีกคนที่เดินทางมางานนี้เป็นการส่วนตัวว่า ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ได้เดินทางมาร่วมชมงาน Big Mountain Music Festival เป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งในฐานะผู้จัดเทศกาลดนตรีที่เข้าร่วมโครงการ Music Exchange และผู้ที่นำศิลปินจากเกาหลีใต้เข้ามาโชว์ในงาน โดยทุกครั้งที่มางาน มีความประทับใจเกิดขึ้นมากมาย เช่น การแลกเปลี่ยนศิลปินขึ้นโชว์ภายในงาน ซึ่งต่อยอดมาจากความรู้สึกประทับใจหลังจากได้ชมโชว์ของศิลปินคนนั้นๆ การเพิ่มเติมบูธฝังเข็มสไตล์เกาหลี ในงาน Busan Rock Festival ที่ได้แรงบันดาลใจจากบูธนวดแผนไทย เป็นต้น

“เรามองว่าความน่าสนใจของงานนี้ คือการเป็นเทศกาลดนตรีที่มีศิลปินและแนวเพลงค่อนข้างครบถ้วน ต่างจากงานอื่นที่มักจะเน้นไปที่แนวเพลงใดแนวเพลงหนึ่งเท่านั้น รวมถึงให้พื้นที่ศิลปินหน้าใหม่ และศิลปินอินดี้ได้มีโอกาสแสดงความสามารถต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก จึงทำให้เราเห็นภาพรวมของวงการเพลงไทยได้อย่างชัดเจน มีโอกาสค้นพบศิลปินใหม่ๆ และสามารถคัดเลือกศิลปินคุณภาพ จากหลากหลายแนวเพลง ไปโชว์ในงานของเราได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งเรายังเห็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนศิลปินจากเกาหลีใต้ เพื่อมาโชว์ในงานนี้ด้วย เพราะวงการเพลงไทยและเกาหลีใต้มีความใกล้เคียงกัน ทั้งฐานผู้ฟัง ศิลปิน การทำเพลง ตลอดจนการสนับสนุนศิลปินรุ่นใหม่ โดยที่ผ่านมางานของเรามีศิลปินไทยไปขึ้นโชว์อย่างต่อเนื่อง เช่น  PALMY, Phum Viphurit และขณะเดียวกันเราก็พาศิลปินเกาหลีใต้มาขึ้นโชว์ที่งานนี้เช่นกัน ล่าสุดคือวง Dragon Pony บอยแบนด์น้องใหม่ที่ขึ้นโชว์บนเวที PEPSI EGG STAGE”

อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากประโยชน์ในการคัดเลือกศิลปิน และการสร้างความร่วมมือด้านธุรกิจแล้ว คณะผู้จัดเทศกาลดนตรีระดับโลก ยังชื่นชมไปถึงการบริหารจัดการที่ดีของ Big Mountain Music Festival 14 ที่สามารถรองรับคนจำนวน 65,000 คน ได้อย่างทั่วถึง ทั้งการดีไซน์เวทีและโปรดักชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น กระท่อมจำลองขนาดใหญ่ที่ CHIC & KRATOM STAGE มาสคอตพี่วัวที่ COW STAGE ซึ่งมีกิมมิคปรับเปลี่ยนดวงตาได้ตามจังหวะเพลง รวมถึงสถานที่จัดงาน การจราจร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด เช่น สถานที่ที่เดินทางง่ายทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ การจัดผังงานที่ทำให้ไม่รู้สึกแออัด รถห้องน้ำติดแอร์ในโซนบัตร VIP ที่หาได้ยากในงานอื่น เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยส่งเสริมให้การชมโชว์ของศิลปินราบรื่นมากยิ่งขึ้น

ความประทับใจเหล่านี้ เน้นย้ำว่า Big Mountain Music Festival นอกจากจะเป็นเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันวงการเพลงไทย ในฐานะแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้คนในอุตสาหกรรม ทำให้ผู้จัดเทศกาลดนตรี ผู้คัดเลือกศิลปิน และเอเจนซี่ระดับโลก พบศิลปินหลากหลายแนวเพลง และมีโอกาสเจอกับศิลปินที่ตรงใจ

หลังจากนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไป ศิลปินไทยจากเวทีนี้ จะมีใครได้รับโอกาสขึ้นโชว์ในเทศกาลดนตรีต่างประเทศ และจะมีโปรเจกต์ความร่วมมือใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกบ้าง